5 กุนซือเต็งเสียบแทน รูเบน อโมริม คุม แมนยู หลังผลงานทรุด

แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งโดนเพื่อนบ้านที่แสนน่ารักอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ถลุงยับไม่นับญาติ 0-3 ในศึกผ่าเมือง เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้กระแสปลด อโมริม เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การนำทีมเก็บได้แค่ 4 คะแนนจาก 4 เกมลีก และร่วงตกรอบ คาราบาว คัพ ด้วยน้ำมือของ กริมสบี้ ทาวนร์ ทีมระดับ ลีก ทู ทำให้หลายคนเริ่มคลางแคลงสงสัยในความสามารถของกุนซือมาดพี่เจ๋ง 

หากสถานการณ์ของ "ปีศาจแดง" ยังคงสาละวันเตี้ยลงแบบนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่บอร์ดบริหารอาจตัดสินใจตัดไฟแต่ต้นลมสั่งปลด อโมริม ในช่วงพักเบรกทีมชาติเดือนตุลาคมนี้ ส่วนกุนซือคนไหนจะเป็นผู้โชคดีได้เข้ามานั่งเก้าอี้้ร้อนตัวนี้ คาดว่าคงหนีไม่พ้น 5 รายนี้

1. โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ 

กลาสเนอร์ โดดเด่นมากๆ ในการปั้น คริสตัล พาเลซ ให้การเป็นทีมที่มีระเบียบและระบบการเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ที่ควรจะทำให้ทีมได้สิทธิ์ไปเล่นในศึกยูโรปาลีก พร้อมทั้งนำทีมคว้าแชมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ด้วย 

นายใหญ่ชาวออสเตรีย มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ "ดิ อีเกิ้ลส์" สร้างผลงานเหนือความคาดหมาย เขาทำงานร่วมกับขุมกำลังขนาดเล็กแต่มีความเหนียวแน่น สามารถดึงศักยภาพของนักเตะออกมาได้เต็มที่ทั้งๆ ที่แทบไม่หมุนเวียนผู้เล่น 

สิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารแมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะประทับใจก็คือ เขาใช้ระบบการเล่นที่คล้ายกับแท็กติกที่ อโมริม พยายามนำมาใช้ ดังนั้นหากตัดสินใจปลดกุนซือชาวโปรตุกีส ก็อาจไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก โดย กลาสเนอร์ น่าจะยังคงยึดระบบ 3-4-2-1 ต่อไป

กระนั้นหาก กลาสเนอร์ ได้รับการแต่งตั้งให้คุม แมนฯ ยูฯ จริงๆ สิ่งที่เขาต้องแก้ปัญหาสำหรับการเล่นกองหลัง 3 ตัวก็คือจะทำยังไงให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซึ่งต้องยืนลึกในแผงมิดฟิลด์ ระเบิดฟอร์มเก่งออกมาได้ นี่คือคำถามที่แฟนผีโปรเจกต์ต้องการคำตอบที่สุด

2. ไมเคิ่ล คาร์ริค

อดีตกองกลางแมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงว่างงานพอดีหลังโดน มิดเดิ้ลสโบรช์ สั่งปลดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดย กุนซือชาวอังกฤษ วัย 44 ปีอยู่กับ "เดอะ โบโร่" มาประมาณ 2 ปีครึ่ง แต่ล้มเหลวในการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก

ก่อนหน้านี้ คาร์ริค เคยนั่งเก้าอี้กุนซือขัดตาทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว ในช่วงที่สโมสรสั่งเด้ง โชเซ่ มูรินโญ่ และก่อนการเข้ามารับงานของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แถมหลังจาก "น้าลูกอม" โดนปลด เขาก็รับบทกุนซือชั่วคราวอีกครั้ง 

ตลอดระยะเวลาที่รับใช้สโมสรมานาน 12 ปีในฐานะนักเตะ และอยู่ทำงานกับ แมนฯ ยูฯ อีกหลายปีในฐานะโค้ช คาร์ริคจึงไม่ต้องปรับอะไรเลยกับที่แคร์ริงตัน และ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แน่นอนว่าเขาเป็นตัวเลือกที่แฟนบอล "ผีแดง" ชื่นชอบมากๆ 

อย่างไรก็ตาม การทำงานกับ แมนฯ ยูฯ เต็มไปด้วยแรงกดดันมากกว่าตอนคุม มิดเดิ้ลสโบรช์ แถมยังต้องรับมือกับการบริหารจัดการบรรดานักเตะที่เต็มไปด้วยอีโก้ ซึ่งงานนี้อาจจะยากเกินไปสำหรับเขา

3. แกเร็ธ เซาธ์เกต

เซาธ์เกต ไม่ได้รับงานคุมทีมนับตั้งแต่ก้าวลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว โดยเขามีข่าวพัวพันกับเก้าอี้เฮดโค้ชแมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด เนื่องจากกลุ่มทุน อิเนออส ชื่นชอบแนวทางการทำทีมของเจ้าตัวมาตลอด 

เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของร่วม "ผีแดง" เป็นแฟนตัวยง เซาธ์เกต และเขาอยากได้ตัวมากุมบังเหียนก่อน อโมริม ด้วยซ้ำ ตอนที่สั่งเด้ง เอริค เทน ฮาก ออกจากตำแหน่งเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

เฮดโค้ชวัย 55 ปี ทำงานได้อย่างโดดเด่นกับ อังกฤษ ซึ่งเขาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับบรรดานักเตะ โดยตลอดระยะเวลา 8 ปีที่กุมบังเหียนทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" เจ้าตัวได้รับความเคารพจากลูกทีมอย่าง โดยเฉพาะบรรดานักเตะแมนฯ ยูฯ ในทีมชาติ

กระนั้นคำถามก็คือ เซาธ์เกต ไม่ได้คุมทีมระดับสโมสรมานานมาก ซึ่งมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการคุมทีมชาติ เพราะเขาเคยคุม มิดเดิลสโบรช์ แค่ทีมเดียวเท่านั้น และมันก็ตานมากประมาณปี 2009 หลังจากนั้นก็ทำงานให้กับ เอฟเอ มาตลอด ทั้งการคุม อังกฤษ ยู-21 และทีมชุดใหญ่

4. มาร์โก ซิลวา 

สำหรับ ซิลวา ต้องบอกว่ามีประสบการณ์มากมายในเกมลีกสูงสุดเมืองผุ้ดี เขาคุม ฟูแล่ม ตั้งแต่ปี 2021 โดยก่อนหน้านี้เคยกุมบังเหียนทั้ง เอฟเวอร์ตัน, วัตฟอร์ด และ ฮัลล์ ซิตี้ 

ซิลวา ทำงานในพรีเมียร์ลีกมายาวนานรั้งอันดับสาม เป็นรองเพียงแค่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ มิเกล อาร์เตต้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่างานของเขาได้รับการยกย่องและมีคุณค่ามากขนาดไหน

กุนซือชาวโปรตุกีส เน้นสร้างทีมให้มีรากฐานที่แข็งแกร่ง และระเบียบแบบแผน โดยเขาไม่ลังเลที่จะปรับระบบการเล่นให้เหมาะกับคู่แข่ง แม้อาจพาทีมทำผลงานดีขึ้นในระยะสั้นกับแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ก็ยังมีความกังขาเกี่ยวกับพัฒนาการในระยะยาวอยู่ดี

5. เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

โปเช็ตติโน่ เคยมีข่าวเชื่อมโยงกับตำแหน่งกุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด มาก่อน และได้รับการสนับสนุนจากวงในสโมสร แต่ปัจจุบันเขาเป็นเฮดโค้ชทีมชาติสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปีหน้า ทำให้มีแนวโน้มต่ำมากที่จะกลับมาทำงานในพรีเมียร์ลีกกับสโมสรอีกครั้ง

"พอช" มีชื่อเสียงตอนที่คุม สเปอร์ส แต่ผลงานกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ เชลซี ทำให้เขามีมลทินพอสมควร ล่าสุดเพิ่งเจอแรงกดดันกับทีมชาติสหรัฐ และนั่นทำให้ชื่อของเขาอยู่ภายใต้ความสนใจอย่างมากกับ แมนฯ ยูฯ  

โปเช็ตติโน่ โด่งดังเป็นพลุแตกตอนคุม เซาธ์แฮมป์ตัน และ สเปอร์ส โดยสไตล์การเล่นที่วิ่งไล่กดดันสูง และเน้นการต่อบอลบนพื้นเพื่อสร้างเกมรุกอย่างต่อเนื่อง แม้แนวคิดแบบนี้จะเป็นที่ถูกอกถูกใจบอร์ดบริหารและแฟนบอล แมนฯ ยูฯ แต่ช่วงที่ผ่านมาแนวคิดเหล่านั้นไม่ค่อยปรากฎให้เห็นในการคุมทีมของ "พอช" ในช่วงหลังๆ