โคดี้ กัคโป : นักเตะที่ตาเห็นอย่างแต่สถิติบอกอีกอย่าง

โคดี้ กัคโป : นักเตะที่ตาเห็นอย่างแต่สถิติบอกอีกอย่าง
ฟุตบอลคือกีฬาที่ทำให้คนตีความแตกต่างกันได้เสมอ

สิ่งที่เราเห็นด้วยตาเปล่า บางครั้งไม่ตรงกับสิ่งที่ตัวเลขและสถิติสะท้อนออกมา และเคสที่เกิดขึ้นกับนักเตะ ลิเวอร์พูล ตอนนี้คือ โคดี้ กัคโป

แฟนบอลจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่า กัคโป เล่นไม่เด่น ลงเล่นเป็นตัวจริงเพราะเป็นลูกรัก 

แต่เมื่อเปิดสถิติจาก WhoScored, FotMob กลับพบว่าตัวเลขหลายด้านของเขาดูดีมาก 

จนเกิดคำถามขึ้นว่า ทำไมสิ่งที่ตาเห็นกับตัวเลขถึงสวนทางกันขนาดนั้น ?

...

ภาพที่เห็นบ่อย ๆ คือ กัคโปเหมือนหายไปจากเกม โดยเฉพาะในแมตช์ใหญ่หรือเจอคู่แข่งที่ตั้งรับลึก 

เขาไม่ใช่ปีกสายลากเลื้อยสปีดจัด ไม่ได้มีจังหวะพาบอลฝ่าคู่แข่งสองสามคนแบบที่เราเคยเห็นจาก ซาดิโอ มาเน่ หรือกระทั่ง หลุยส์ ดิอาซ

และบ่อยครั้งที่เราเห็น มิลอส เคอร์เคซ ตีรถเปล่า เพราะ กัคโป ไม่จ่ายบอลให้ แล้วเลือกเล่นจังหวะซ้ำ ๆ เดิม ๆ อย่างครอสด้วยขวา หรือตัดในแล้วยิงเอง

สิ่งนี้ทำให้แฟน ๆ รู้สึกว่า กัคโป ไม่ค่อยมีโมเมนต์น่าตื่นเต้น แม้จะอยู่ในสนามครบ 90 นาทีก็ตาม

อย่างไรก็ตาม สถิติตัวเลขกลับเล่าเรื่องอีกแบบ

ลงครบ 4 นัดแรก 360 นาที

ยิง 1 ประตู แอสซิสต์ 2 ครั้ง

คะแนนเฉลี่ยจาก FotMob 7.91, WhoScored 7.48

ความแม่นยำการจ่ายบอล 78%

เป็นคนที่ได้ฟาวล์จากคู่แข่งมากที่สุด 3 จาก 4 เกมแรก

สร้างโอกาสให้เพื่อนได้สม่ำเสมอ

หนึ่งในสถิติที่น่าสนใจคือค่า Expected Goals (xG) ต่อ 90 นาทีราว ๆ 0.38 และ Expected Assists (xA) ที่สูงกว่าเฉลี่ยตามตำแหน่ง แปลว่า กัคโป มีส่วนสร้างโอกาสให้ทีมทั้งการยิงเองและการป้อนเพื่อนร่วมทีมอย่างสม่ำเสมอ

สถิติชี้ว่า กัคโป มีค่าเฉลี่ยการผ่านบอลจังหวะสำคัญ (Key Pass) ราว 2 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงในบรรดาตัวรุก พรีเมียร์ลีก นี่คือการการันตีว่าเขาไม่ได้หายไปจากเกม แต่เป็นตัวสร้างสรรค์ที่ทำให้เพื่อนมีโอกาสจบสกอร์

อีกตัวเลขที่น่าสนใจคือการดวลชนะลูกบนพื้น (Ground Duels) ประมาณ 28 ครั้ง ตลอด 4 นัดแรก แสดงว่าเขาไม่ใช่ผู้เล่นที่หายไปเฉย ๆ แต่พร้อมสำหรับจังหวะปะทะและเป็นส่วนหนึ่งของเกมเพรสซิ่ง 

ทั้งหมดนี้หมายความว่า กัคโป กำลังทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองที่ทีมต้องการ ที่ช่วยให้ระบบเดินไปข้างหน้า แม้จะไม่ได้ฉูดฉาดจนเรียกเสียงฮือฮา แต่โค้ชและแท็กติกของทีมต่างให้คุณค่ากับบทบาทนี้

อย่างไรก็ดี สถิติก็เผยให้เห็นจุดที่เป็นเหตุผลให้แฟนบอลบางส่วนยังคงวิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง 

อัตราการเลี้ยงบอลสำเร็จเพียง 44.4% ซึ่งถือว่ากลาง ๆ เมื่อเทียบกับปีกระดับท็อป 

ขณะที่การยิงตรงกรอบก็ยังไม่สม่ำเสมอ เกมกับ บอร์นมัธ มี 2 ครั้ง, เจอ อาร์เซน่อล มี 1 ครั้ง แต่เมื่อเจอกับ นิวคาสเซิ่ล และ เบิร์นลี่ย์ กลับกลายเป็น 0

เมื่อนำทั้งหมดมาประกอบกัน จึงทำให้เกิดภาพจำว่าเขายังไม่คมพอ และยังขาดทีเด็ดที่จะสร้างความแตกต่างแบบที่หลายคนคาดหวังจากตัวรุกฝั่งซ้าย ลิเวอร์พูล

...

สิ่งสำคัญคือบทบาทที่ อาร์เน่อ มอบให้ กัคโป ไม่ได้เป็นปีกจี้คู่แข่ง แต่ถูกวางให้ ถ่างพื้นที่, เชื่อมเกม, ดึงกองหลัง เพื่อเปิดทางให้ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์หรือ อูโก้ เอกิติเก้ เข้ามามีส่วนร่วม

งานพวกนี้ไม่มีทางถูกจดจำด้วยคลิปไฮไลต์ แต่เป็นสิ่งที่โค้ชเห็นค่า และระบบให้คะแนนแบบ WhoScored ก็สะท้อนออกมา

แล้วทำไมเรตติ้งสูงแม้เล่นแบบเงียบ ๆ การให้คะแนนของสำนักสถิติต่าง ๆ คือการเก็บข้อมูลหลาย ๆ จุด

ทีมชนะหรือคลีนชีตได้คะแนนเพิ่ม

การจ่ายบอลสำเร็จ, การดวลตัวต่อตัวชนะ, การครองบอลในระบบก็ได้แต้ม

ทั้งหมดนี้อธิบายได้ว่าทำไมคะแนนเฉลี่ย 7.48 ของ กัคโป ถึงสูงเป็นรองแค่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ คนเดียวที่ได้ไป 7.49 แม้หลายคนจะบอกว่า "ไม่เห็นจะเล่นดีตรงไหน"

กรณีของ กัคโป ทำให้เราเห็นว่าฟุตบอลมีสองเลนส์ในการมอง

ตาเปล่า เขาดูไม่หวือหวา ไม่มีจังหวะให้แฟนบอลลุกปรบมือบ่อย ๆ

สถิติ เขามีส่วนสำคัญต่อระบบ ทั้งการสร้างโอกาส การจ่ายบอล และความสม่ำเสมอในการยืนระยะเต็มเกม

สุดท้ายแล้ว กัคโป อาจไม่ใช่ปีกที่แฟน ๆ ร้องว้าว แต่เขาคือฟันเฟืองที่ทีมต้องการ 

และตราบใดที่ ลิเวอร์พูล ยังเดินหน้าเก็บชัยชนะได้เรื่อย ๆ 

เราคงต้องยอมรับว่า นักเตะแบบนี้แหละ คือส่วนสำคัญที่ทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์

HOSSALONSO



ที่มาของภาพ : reuters
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport