3 สิ่งที่ อโมริม ต้องเร่งปรับ เพื่อกู้วิกฤติ แมนยู หลังพ่าย แมนซิตี้

หลังออกสตาร์ตซีซั่นใหม่ไปได้แค่สี่เกม ผีแดง พลาดท่าปราชัยไปแล้วสองเกม และกำชัยได้แค่เกมเดียวเท่านั้นทั้งๆที่ในช่วงซัมเมอร์กุนซือโปรตุกีสใช้เงินเสริมทัพร่วม 300 ล้านปอนด์

แม้ถึงขณะนี้ สื่อเมืองผู้ดีจะเผยว่าบอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสนับสนุนให้ อโมริม ทำงานต่อ แต่หากเกมหน้าเขาพาทีมแพ้คารังต่อ เชลซี บางทีสถานการณ์อาจพลิกผันก็เป็นได้

หรือไม่เช่นนั้น กุนซือชาวเมืองฝอยทองอาจโดนเชือดในอีกไม่ช้าเนื่องจากอย่าลืมว่าเขามีคิวพาทีมบุกไปทำศึก แดงเดือด กับ ลิเวอร์พูล ที่สนาม แอนฟิลด์ ช่วงกลางเดือนหน้าซึ่งหากถึงตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีผลงานที่เลวร้ายไม่เลิก คนดวงแข็งอย่าง อโมริม ก็มีสิทธิ์ตกเก้าอี้ได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม  อโมริม ยืนกรานคุมทีมด้วยระบบ 3-4-3 ตามเดิมซึ่งเท่าที่ผ่านมาถูกพิสูจน์ให้เห็นมานานแล้วว่ามันเป็นแนวทางการเล่นที่ทำให้ทีมเสียประตูง่าย

ฉะนั้นแล้วหากทีมขยันโดนสอยตาข่ายก็ย่อมทำให้บรรดากองหน้าพลอยลำบากหนักที่จำเป็นต้องเร่งยิงประตูเพิ่มเป็นสองเท่าเพื่อพาทีมคว้าผลลัพธ์

แต่ก็นั่นแหละ แม้ อโมริม จะยึดมั่นในสไตล์ของตัวเอง เขาก็ยังมีทางแก้ปัญหาให้กับสโมสรได้หากจะวัดจากเกมล่าสุดที่ ผีแดง บุกไปบู๊กับ เรือใบสีฟ้า 

1. เมนู ต้องได้ออกสตาร์ต

ภายใต้ระบบวิงแบ็ค แมนฯ ยูไนเต็ด จะเหลือกองกลางแท้ๆในสนามสองรายซึ่งหนึ่งในนั้นคือ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมที่จะได้ออกสตาร์ตอย่างถาวร

และแน่นอนว่าอีกหนึ่งรายจะต้องเป็นกองกลางตัวรับซึ่งเท่าที่่ผ่านมา อโมริม จำเป็นต้องพึ่งพา กาเซมีโร่ แม้กองกลางทีมชาติ บราซิล จะสูงวัยมากขึ้นทุกที

กระทั่งเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม กุนซือ ผีแดง ตัดสินใจปรับเปลี่ยนให้ มานูเอล อูการ์เต้ ลงสนาม และปรากฏว่ากองกลางทีมชาติ อุรุกวัย ยังก่อความผิดพลาดแบบง่ายๆด้วยการผ่านบอลคืนหลังได้อย่างเลวร้ายไม่เลิกเฉกเช่นเกมในช่วงปรีซีซั่นหลายนัด

ถึงตรงนี้ มันจึงชี้ให้เห็นว่า อูการ์เต้ ไม่สามารถเล่นในลีกอังกฤษที่มีสปีดเกมรวดเร็วได้ และน่าจะถึงเวลาแล้วที่ อโมริม จำเป็นต้องเปลี่ยนความคิดที่มีอคติต่อ เมนู

ในวัย 20 ปี ดาวเตะอิงลิชมีพละกำลังเหลือเฟือที่จะช่วยงาน แฟร์นันด์ส ได้แม้เขาอาจมีช่วงฟอร์มตกอยู่บ้าง แต่เด็กปั้นของทีมสร้างชื่อได้ไม่เลวหลังจาก เอริค เทน ฮาก เจ้านายคนเก่ามอบโอกาสการประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ให้กับเขา

ถึงขณะนี้ เมนู ยังไม่ใช่กองกลางระดับท็อปก็จริง แต่ในเมื่อตัวเลือกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตำแหน่งดังกล่าวไม่มีสตาร์ชั้นยอด การส่งมิดฟิลด์หนุ่มลงเล่นเป็นตัวสำรองหลังจาก แมนฯ ยูไนเต็ด โดนทีมร่วมเมืองสอยตาข่ายไปแล้วสองตุงจึงไม่เกิดประโยชน์อันใด

2.อย่าจับ แฟร์นันด์ส ถอยลงต่ำ

กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ อโมริม โดนถล่มเละหลังเน้นให้ แฟร์นันด์ส เล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวต่ำในเกมดาร์บี้ แมตช์กระทั่ง ผีแดง มีอันต้องพ่าย เรือใบสีฟ้า อย่างยับเยิน

อโมริม อาจคิดมากไปที่หวังเน้นความรัดกุมในเกมบุกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ แต่เด็กสามขวบยังรู้ว่าสตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส ไม่ถนัดการเล่นเกมรับ มันจึงเป็นการใช้งานนักเตะแบบผิดตำแหน่งผิดธรรมชาติ

เท่าที่ผ่านมา กัปตัน ผีแดง แสดงให้เห็นมาตลอดว่าเขามีพิษสงในด้านการสร้างสรรค์เกมให้ทีม ฉะนั้นแล้วการเล่นเกมรุกอย่างเต็มตัวจึงเป็นจุดแข็งของเขาโดย อโมริม สมควรมองข้ามคำว่า "แทคติก" ไปก่อน

พูดง่ายๆได้เลยว่า อโมริม จำเป็นต้องสร้างทีมโดยมี แฟร์นันด์ส เป็นศูนย์กลางไม่ใช่มอบหน้าที่ให้จอมทัพของทีมถอยลงต่ำไปสร้างความสับสนให้กับตัวของเขาเองและเพื่อนร่วมทีม

เพื่อประโยชน์ของสโมสร ดาวเตะวัย 31 ปีสมควรได้เล่นเกมรุกอย่างมีอิสระเพื่อให้เขาสร้างโอกาสการทำประตูให้กับบรรดากองหน้าที่ย้ายมาใหม่ และหากทุกอย่างลงล็อกเมื่อไหร่ ผีแดง ก็มีโอกาสสร้างผลงานที่ดีวันดีคืนอย่างต่อเนื่องก็เป็นได้

3. มอบตำแหน่งโกลมือหนึ่งให้ ลัมเมนส์

กลายเป็นตลกร้ายอย่างไม่มีวันจบสิ้นสำหรับประโยคที่ว่านักเตะคนไหนที่ย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ล้วนได้ดีทุกคน

ไม่ว่าจะเป็น อันโตนี่ ที่สร้างชื่อกับ เรอัล เบติส ได้อย่างยอดเยี่ยม หรือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ร่ายลีลากับ แอสตัน วิลล่า ได้ไม่เลวช่วงที่ถูกปล่อยออกไปแบบยืมตัว

กระทั่ง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ย้ายไปคว้าแชมป์ เซเรีย อา กับ นาโปลี หรือจะเป็น ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่รับใช้ ปีศาจแดง ได้อย่างไม่เอาอ่าว แต่กลับประเดิมเกมกับแชมป์ลีกเมืองพิซซ่าด้วยการซัดประตูได้ทันที

แถมไม่เว้นแม้แต่ อ็องเดร โอนาน่า ที่ย้ายไปคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ตั้งแต่เกมประเดิมสนามกับ แทรบซอนสปอร์ แม้เขาจะไม่อาจช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความปราชัยในเกมบุกไปแพ้ เฟเนบาห์เช่ แบบหวุดหวิด 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ก่อนเกมบู๊กับ แมนฯ ซิตี้ เป็นที่คาดกันว่า อโมริม จะส่ง เซนเน่อ ลัมเมนส์ ประเดิมเฝ้าเสาทันที แต่สุดท้ายเขายังเลือกใช้งาน อัลตาย บายินดีร์ ให้เป็นมือหนึ่งของทีมตามเดิม และหนีไม่พ้นต้องแพ้ทีมร่วมเมืองอย่างย่อยยับ

ว่ากันตามจริง บายินดีร์ ไม่ต่างอะไรกับ โอนาน่า แถมอาจแย่กว่าด้วยซ้ำเนื่องจากเท่าที่ผ่านมาผู้รักษาประตูทีมชาติ ตุรเคีย แทบไม่มีลูกซูเปอร์เซฟให้กองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ ได้ฮือฮาสักเท่าไหร่เลย อีกทั้งแลดูไม่น่าไว้วางใจด้วยในจังหวะที่ทีมเสียลูกเตะมุม

และไหนๆในเมื่อทีมเสียประตูเป็นเข่งอยู่แล้ว อโมริม ก็น่าจะใช้งาน ลัมเมนส์ ไปเลยจะดีกว่าแม้นายทวารชาวเบลเยี่ยมจะอ่อนประสบการณ์เนื่องจากเพิ่งเฝ้าเสาให้กับทีมชุดใหญ่ของต้นสังกัดเดิมแบบเต็มตัวแค่ซีซั่นเดียวเท่านั้น แต่เขามีสถิติการเซฟลูกยิงที่น่าประทับใจ

ก็ในเมื่อ อโมริม ไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว เขาก็ควรลองเสี่ยงกับนายทวารคนใหม่ไปเลย ไม่ใช่ว่าเสียเงินดึงมาเป็นตัวสำรองทั้งๆที่เห็นกันอยู่ว่าสโมสรไม่อาจพึ่งพา บายินดีร์ ได้เลย