ส่วน ซันเดอร์แลนด์ ก็มีพระเอกนายทวารโชว์เซฟโดดเด่น
ผู้รักษาประตู : โรบิน โรฟส์ (ซันเดอร์แลนด์)
นายด่านชาวดัตช์ กลายเป็นพระเอกที่พา "แบล็ค แคท" บุกยันเสมอ คริสตัล พาเลซ โดยมีเซฟเน้น ๆ ในช่วงครึ่งหลังหลายต่อหลายครั้ง
กองหลัง : นอร์กดี มูกิเอเล่ (ซันเดอร์แลนด์)
ช่วยพา ซันเดอร์แลนด์ เก็บคลีนชีตพร้อม 1 แต้มกลับออกจาก เซลเฮิร์สต์ พาร์ค
กองหลัง : คริสเตียน โรเมโร่ (สเปอร์ส)
ยกระดับตัวเองขึ้นมา เล่นได้ดุดัน พร้อมแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ
กองหลัง : อับดูโกดีร์ คูซานอฟ (แมนซิตี้)
รับบทบาทแบ็กขวา รับมือผู้เล่นริมเส้นฝั่งซ้าย แมนยู ได้ดีและเข้าสกัดแม่นยำ
กองกลาง : มาร์ติน ซูบีเมนดี้ (อาร์เซน่อล)
วางเท้าได้อย่างยอดเยี่ยมจนพา อาร์เซน่อล เบิกสกอร์แรก แถมยังมาปิดท้ายลูกสองของตัวเองได้อีก รวมถึงคุมเกมแดนกลางให้ อาร์เซน่อล ไว้ได้ทั้งหมด
กองกลาง : ป๊าป มาทาร์ ซาร์ (สเปอร์ส)
สเปอร์ส ยุค โธมัส แฟรงค์ เหมือนว่า ซาร์ จะได้รับอิสระมากขึ้นในการเติมเกมรุก แสดงให้เห็นถึงพละกำลังมหาศาลและการวิ่งทะลุผ่านคู่แข่ง
กองกลาง : มอยเสส ไกเซโด้ (เชลซี)
มิดฟิลด์ทีมชาติเอกวาดอร์ ซัดประตูสุดสวยใส่ เบรนท์ฟอร์ด เป็นหนึ่งในนักเตะที่เล่นได้ดีที่สุดของ เชลซี ทุก ๆ เกม และช่วยยกระดับทีมให้สูงขึ้นอยู่เสมอ
กองกลาง : ฟิล โฟเด้น (แมนซิตี้)
กลับมามีฟอร์มที่โดดเด่นอีกครั้ง ทำสกอร์แรกให้ ซิตี้ ออกนำ และจบลงด้วยชัยชนะ
กองหน้า : อองตวน เซเมนโย่ (บอร์นมัธ)
เป็นตัวความหวังของแนวรุก บอร์นมัธ ช่วยพาต้นสังกัดคว้าชัยได้แล้ว 3 เกมติด
กองหน้า : เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนซิตี้)
จบสกอร์คมกริบ วิ่งฉีกแนวรับ แมนยู ขาดวิ่้น รวดเร็วและแข็งแกร่งมาก
กองหน้า : เฌเรมี่ โดกู (แมนซิตี้)
ฉีกแนวรับ แมนยู จนเละ แอสซิสต์ประตูแรก ความเร็วสร้างปัญหาแก่คู่แข่งได้เยอะ