5 สิ่งแฟนบอลลิเวอร์พูลอยากเห็นช่วงโปรแกรมโหดเดือนกันยายน

หลังจบช่วงพักเบรกทีมชาติ เกมฟุตบอลลีกจะกลับมาฟาดแข้งอย่างเข้มข้นอีกครั้ง และ ลิเวอร์พูล ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากพอสมควรสำหรับโปรแกรมในเดือนกันยายน เมื่อ "หงส์แดง" จะต้องลงสนาม 6 เกมภายใน 17 วัน 

ลิเวอร์พูล มีคิวที่จะต้องลงสนามทั้งหมด 3 รายการในช่วงเวลาดังกล่าว และแน่นอนว่านี่คือความท้าทายของ โค้ชอาร์เน่อ สล็อต และทีมงาน ในการเตรียมความพร้อมที่จะต้องเจอกับงานสุดหินที่รออยู่ข้างหน้า 

ขณะเดียวกันสาวก "เดอะ ค็อป" ก็ตั้งตาคอยที่จะได้เห็นทีมรักกลับมาฟาดแข้งทั้งในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ คาราบาว คัพ เพราะพวกเขาจะได้ดูอะไรเด็ดๆ จากทัพ "หงส์แดง" โดยเฉพาะการจะได้เห็น อเล็กซานเดอร์ อีซัค ลงสนาม 

งานนี้แฟนบอลลิเวอร์พูล คงตั้งตาคอย 5 สิ่งที่พวกเขาอยากเห็นจากสโมสรอันเป็นที่รักในช่วงเดือนกันยายนนี้ 

1. ลิเวอร์พูล ต้องลดความเสี่ยงเวลาถูกสวนกลับ

แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะเก็บชัยชนะ 3 แมตช์รวมในศึกพรีเมียร์ลีก ก่อนช่วงฟีฟ่าเดย์ แต่แฟนบอลหงส์แดงเห็นเต็มสองตาว่าทีมรักของพวกเขายังมีงานอีกเยอะที่จะต้องปรับแก้ในช่วงฝึกซ้อมถ้าหากอยากประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้

แม้ว่าในเกมที่เฉือนชนะ อาร์เซน่อล พวกเขาจะทำผลงานได้ดีในการเล่นเกมรับ อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงปรีซีซั่น และ 2 เกมในลีก กับ 1 แมตช์ในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ มีการปรับแท็กติกทำให้แนวรับมักถูกเปิดช่องเวลาถูกสวนกลับบ่อยๆ

"เดอะ เร้ดส์" มีการปรับเปลี่ยนจากระบบ 4-3-3 มาเป็นแผนที่ทำให้เกมรับในแดนกลางค่อนข้างหลวม และนั่นเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากๆ ในการโดนคู่แข่งรอจังหวะและสวนกลับ  

ฉะนั้นหาก ลิเวอร์พูล ต้องการประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้ จะต้องหาสมดุลที่เหมาะสมในแดนกลางให้ได้โดยเร็วที่สุด

2. อีซัค จะซัดประตูให้ทีมได้ไหม

"หงส์แดง" ได้กองหน้าหมายเลข 9 คนมาร่วมทัพในช่วงเดดไลน์ตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดย อเล็กซานเดอร์ อีซัค มีศักยภาพและความพร้อมทุกอย่างที่จะก้าวมาเป็นแข้งสำคัญของทีม 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าเป็นห่วงก็คือเรื่องสภาพความฟิต และแน่นอนว่าแฟนบอลหงส์แดงต้องอดทนสักพัก เนื่องจากนักเตะต้องใช้เวลาในการเรียกความเฉียบคมกลับมา เพราะเจ้าตัวไม่ได้มีโอกาสฝึกซ้อมและลงสนามเลยในช่วงที่ผ่านมา หลงมีปัญหากับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

อีซัค มีโอกาสได้ลงสนามอย่างจริงจังนับตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม นั่นก็คือการถูกส่งลงเล่น 18 นาทีให้กับทีมชาติสวีเดน ในเกมที่แพ้ โคโซโว 0-2 เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ 

สำหรับ อูโก้ เอกิติเก้ ซึ่งลงตัวจริงให้กับทีมมาตลอดในฤดูกาลนี้ ก็ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่ โค้ชอาร์เน่อ จะต้องรีบเร่งส่ง อีซัค ลงสนามหากนักเตะยังไม่พร้อม ดังนั้นไม่ใช่เรื่องที่แย่หากเจ้าตัวจะลงเล่นในฐานะตัวสำรองในเกมดวล เบิร์นลี่ย์ ที่สนามเทิร์ฟ มัวร์ 

บางทีเป้าหมายของ กุนซือชาวดัตช์ ก็คือการส่ง อีซัค ลงสนามในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ พบ เอฟเวอร์ตัน ที่สนามแอนฟิลด์ ในช่วงปลายสัปดาห์หน้า และถ้าเขาทำประตูในเกมนั้นได้จะถือเป็นการเปิดตัวในบ้านที่เจ๋งที่สุด เหมือนที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เคยทำมาแล้ว 

3. ได้เห็นเสื้อแข่งชุดที่ 3 ในสนาม

ลิเวอร์พูล เปิดตัวชุดแข่งที่ 3 เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเป็นชุดทีมเยือน ซึ่งสาวก "เดอะ ค็อป" ส่วนใหญ่รู้สึกประทับใจกับการออกแบบ และสีสัน นอกจากนี้พวกเขาตั้งตาคอยที่จะได้เห็นทีมรักใส่เสื้อตัวนี้ลงแข่งในเกมเยือน

 ด้วยสีสันที่เจ็บจี๊ดบาดตาม จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่สาวก "เดอะ ค็อป" ตั้งตารอที่จะได้เห็น ลิเวอร์พูล ลงเล่นในชุดสีเขียวฟ้าเทอร์ควอยซ์ 

แม้ว่าโปรแกรมในช่วงเดือนกันยายนจะไม่จำเป็นต้องใช้ชุดแข่งชุดที่สาม แต่เรื่องนี้มักไม่ใช่ปัญหาสำหรับสโมสรยุคใหม่ ที่มักเปลี่ยนชุดแข่งเพื่อการตลาดและข้อผูกพันสัญญามากกว่าเรื่องอื่นๆ 

4. โจวานนี่ เลโอนี่ และ ริโอ เอ็นกูโมฮา ลงสนามเกมคาราบาว คัพ

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ไม่ดีเมื่อซีซั่นที่ผ่านมาคือการบริหารจัดการขุมกำลัง โดยพวกเขาไม่ค่อยมีการหมุนเวียนผู้เล่นทำให้ทีมดูเหนื่อยล้าในเดือนกุมภาพันธ์ และท้ายที่สุดก็ทำให้เสียถ้วยลีกคัพ รวมถึงการตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย

แม้ว่าช่วงซัมเมอร์นี้ ลิเวอร์พูล มีการปล่อยนักเตะออกไปหลายคนก็ตาม แต่พวกเขาก็ได้ผู้เล่นใหม่มาร่วมทัพ ในขณะเดียวกันก็มีดาวรุ่งฟอร์มโดดเด่นสอดแทรกขึ้นมา และในเกมคาราบาว คัพ รอบ 3 ที่จะพบกับ เซาธ์แฮมป์ตัน จะเป็นโอกาสทองที่จะให้แข้งวัยละอ่อนเหล่านั้นได้โชว์ฝีเท้า

หนึ่งในดาวรุ่งวัยละอ่อนที่ทีมเพิ่งคว้าตัวมาร่วมทัพ และเป็นนักเตะที่แฟนบอลหงส์แดงอยากเห็นผลงานนั่นก็คือ เลโอนี่ ฉะนั้นเขาอาจจะได้ลงเดบิวต์ที่แอนฟิลด์ในแมตช์ปะทะทัพ "นักบุญ" เช่นเดียวกับ เอ็นกูโมฮา ที่จะได้เป็นตัวจริงแมตช์แรกในซีซั่นนี้

นอกจากนี้ เทรย์ นายโอนี่ ก็มีลุ้นลงตัวจริงร่วมกับบรรดารุ่นพี่ในทีมซึ่งจะได้ลงสนามเพื่อคอยทำหน้าที่ประคับประคองบรรดานักเตะดาวรุ่งสำหรับการแสดงผลงานในเกมถ้วยใบเล็กเมืองผู้ดี

5. เปิดฉากแชมเปี้ยนส์ ลีก

เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล สร้างผลงานชั้นยอดในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดคว้าชัยชนะ 7 แมตช์แรกพร้อมเข้ารอบน็อกเอาต์แบบสบายอุรา

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา โค้ชอาร์เน่อ ยอมรับว่าเขาไม่จำเป็นต้องทุ่มเททรัพยากรมากขนาดนั้นในช่วงลีก เฟส ดังนั้นฤดูกาลนี้สาวก "เดอะ ค็อป" อาจได้เห็นการหมุนเวียนผู้เล่นมากขึ้นกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ยังคงต้องเล่นให้เต็มศักยภาพ เนื่องจากพวกเขาต้องเจอกับโปรแกรมการแข่งขันที่ยากลำบากพอสมควร โดยเริ่มต้นด้วยการเปิดรังแอนฟิลด์รับมือ แอตเลติโก มาดริด ก่อนที่จะเดินทางไปอิสตันบูล เพื่อปะทะกับ กาลาตาซาราย ซึ่งขึ้นชื่อลือชาว่าบรรยากาศเกมเหย้าสุดโหด

การเก็บชัยชนะ 2 แมตช์จาก 2 เกมแรกจะช่วยสร้างความได้เปรียบให้ ลิเวอร์พูล อย่างมาก เนื่องจากทีมยังมีเกมสุดหินในการพบกับ เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน, โอลิมปิก มาร์กเซย, ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และ คาราบัก รออยู่

TOMMY TEE.