ลิเวอร์พูล กับการลงทุน 20 ล้านปอนด์ : พลิกโฉมอคาเดมี่เพื่อสร้างอนาคต

ลิเวอร์พูล กับการลงทุน 20 ล้านปอนด์ : พลิกโฉมอคาเดมี่เพื่อสร้างอนาคต
หากย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 วันที่ศูนย์ฝึกเยาวชนเคิร์กบี้ ถูกเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ลิเวอร์พูล อาจยังไม่ได้มองเห็นภาพชัดเจนว่าวันหนึ่งที่แห่งนี้จะกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงความสำเร็จของสโมสร

แต่ตลอดกว่า 25 ปีที่ผ่านมา ที่นี่ได้สร้างทั้งนักเตะและรายได้จนกลายเป็นขุมทรัพย์ที่จับต้องได้จริง

วันนี้ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (FSG) กลุ่มทุนเจ้าของสโมสร ตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อคาเดมี่ มูลค่า 20 ล้านปอนด์ เพื่อยกระดับทุกมิติ ตั้งแต่สนามฝึกซ้อม สภาพแวดล้อม ไปจนถึงบุคลากรโค้ช   

โดยเป้าหมายไม่ใช่แค่การสร้างนักฟุตบอลที่ดี แต่ต้องการสร้างนักฟุตบอลที่พร้อมจะต่อยอดไปสู่ทีมชุดใหญ่ และพร้อมแข่งขันเพื่อลุ้นถ้วยรางวัลต่าง ๆ  

หัวใจสำคัญของโปรเจกต์ครั้งนี้คือการสร้าง โดมในร่ม (Indoor Dome) บนสนามหลักปัจจุบัน โดยเชื่อมต่อเข้ากับอาคารศูนย์ฝึกเดิมที่ เคิร์กบี้ ห่างจากใจกลางเมืองลิเวอร์พูล ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 9 ไมล์  

โดมแห่งนี้จะทำให้ ลิเวอร์พูล มีสนามฟุตบอลในร่มขนาดมาตรฐานเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยการยกระดับพื้นที่ด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์การกีฬาให้ทันสมัยมากขึ้น  

สนามหญ้าเทียมด้านนอกจะถูกปรับเปลี่ยนกลับมาเป็นสนามหญ้าจริง โดยมีอัฒจันทร์ใหม่สำหรับรองรับผู้ชมประมาณ 500 คน สโมสรเตรียมยื่นขออนุมัติแผนงานภายในเดือนนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2028  

จูเลี่ยน วอร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค FSG เดินทางไปเยี่ยมชมสโมสรต่าง ๆ ในยุโรปมากกว่า 25 แห่ง เพื่อเก็บข้อมูลก่อนจะนำมาวางแผนโครงการครั้งนี้   

งานก่อสร้างใหญ่ถือเป็น "เฟสสอง" ของแผนงาน หลังจากที่ "เฟสแรก" ได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา  

"เฟสแรก" ใช้งบประมาณราว 2 ล้านปอนด์เพื่อเสริมความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น   

- สนามลูกกรงสำหรับฟุตบอลขนาดเล็ก  

- พื้นที่พัฒนาสมรรถภาพร่างกายที่เรียกว่า The Yard  

- คอร์ทแพดบอล (กีฬาลูกผสมระหว่างปาเดล ฟุตบอล สควอช และวอลเลย์บอล)  

- พื้นที่ฝึกทักษะที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปแบบการจัดการของสโมสรโรม่า  

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งไฟส่องสว่างใหม่ทำให้ทุกสนามของศูนย์เยาวชนสามารถใช้งานได้ในช่วงค่ำ  

อเล็กซ์ อิงเกิลธอร์ป ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกเยาวชนผู้คร่ำหวอดของสโมสร เปิดใจกับ The Athletic ว่า  

"นี่ถือเป็นการประกาศครั้งใหญ่ของสโมสร เจ้าของได้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงสองอัฒจันทร์ใหญ่ที่ แอนฟิลด์"  

"การสร้างศูนย์ฝึก AXA Training Centre ที่ เคิร์กบี้ เพื่อรวมทุกฝ่ายมาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และล่าสุดคือการปรับปรุง เมลวู้ด สำหรับทีมฟุตบอลหญิง"  

“ที่ผ่านมาเราอดทนเสมอ เข้าใจดีว่าอคาเดมี่อยู่ในลำดับความสำคัญตรงไหน แต่ตอนนี้ถึงเวลาของเราแล้ว และมันน่าตื่นเต้นมาก เราไม่เคยมีสนามในร่มขนาดเต็มเหมือนคู่แข่งเลย" 

"หลายครั้งต้องยกเลิกหรือคุณภาพการซ้อมตกลงเพราะลมฝนที่ เคิร์กบี้ การเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างความแตกต่างอย่างมาก"  

"เราเริ่มเห็นผลจากการปรับปรุงในซัมเมอร์นี้แล้ว เด็ก ๆ และครอบครัวได้เห็นการลงทุนที่เกิดขึ้น สโมสรเองก็ยอมรับว่าอคาเดมี่มีส่วนสำคัญ ทั้งในแง่การพัฒนานักเตะและรายได้จากการขายผู้เล่น"  

...  

ตลอดช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล สามารถสร้างรายได้มากกว่า 200 ล้านปอนด์จากการขายนักเตะที่เคยผ่านการลงเล่นในระดับเยาวชนของสโมสร   

เพียงแค่ตลาดที่เพิ่งปิดตัวไป ลิเวอร์พูล ก็ทำเงินได้ราว 100 ล้านปอนด์ (รวมแอดออน) จากการปล่อย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (เรอัล มาดริด), ควีวิน เคลเลเฮอร์ (เบรนท์ฟอร์ด), แนท ฟิลลิปส์ (เวสต์บรอมวิช), จาร์เรล ควอนซาห์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น), ไทเลอร์ มอร์ตัน (ลียง) และ เบน โด๊ค (บอร์นมัธ)  

ในวันเดดไลน์ตลาดนักเตะ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ซึ่ง ลิเวอร์พูล คว้ามาจาก ฟูแล่ม ตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี ด้วยค่าตัว 4.3 ล้านปอนด์ ก็ย้ายไปอยู่ แอสตัน วิลล่า ด้วยสัญญายืมตัวที่มีเงื่อนไขบังคับซื้อขาดในซัมเมอร์หน้าที่ราคา 35 ล้านปอนด์  

รายได้เหล่านี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในโมเดลธุรกิจแบบพึ่งพาตนเองของ FSG โดยทุกเพนนีจากการขายนักเตะถูกนำกลับมาลงทุนใหม่ทั้งหมด  

เมื่อพิจารณาว่าค่าใช้จ่ายประจำปีในการบริหารศูนย์ฝึก เคิร์กบี้ อยู่ที่ราว 11 ล้านปอนด์ รายได้จากการขายนักเตะเยาวชนจึงมากเกินพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้  

ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของเฮดโค้ชอาร์เน่อ ที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นที่แล้วนั้น มีนักเตะจากอคาเดมี่ (หมายถึงผู้เล่นที่เคยผ่านการเล่นระดับเยาวชนของสโมสร) มีส่วนร่วมถึง 18% ของนาทีในเกมพรีเมียร์ลีกทั้งหมด   

ตัวเลขนี้สูงกว่าสโมสรอื่น ๆ ทั้งหมด โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามมาเป็นอันดับสองที่ 16.3% และ เชลซี อันดับสามที่ 14.5% 

บรรดาผู้เล่นที่เป็นกำลังหลักของทีมชุดใหญ่ ได้แก่ เทรนต์ และ เคอร์ติส โจนส์ ตามด้วย คอเนอร์ แบรดลี่ย์, เอลเลียตต์, ควอนซาห์, เคลเลเฮอร์, เจย์เดน แดนส์ และ วีเตซสลาฟ ยาโรส   

ขณะที่ดาวรุ่งอย่าง เทรย์ นีโยนี่, มอร์ตัน, เจมส์ แม็คคอนเนลล์, ไอแซค มาบายา และ ริโอ เอ็นกูโมฮา ก็ได้โอกาสลงเล่นในรายการอื่น ๆ ให้ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว  

...  

ต้นปีนี้ บริษัทที่ปรึกษาด้านข้อมูลกีฬา Twenty First Group ซึ่งทำงานร่วมกับหลายสโมสรใน พรีเมียร์ลีก ได้คำนวณมูลค่าผลงานของ เทรนต์ ออกมาแล้วพบว่า เทรนต์ ช่วยเซฟเงินให้ ลิเวอร์พูล ราว 145 ล้านปอนด์ ตลอด 9 ฤดูกาลที่อยู่กับทีมชุดใหญ่ โดยประเมินจากผลงานที่เขาทำและค่าใช้จ่ายที่สโมสรอาจต้องใช้ไปกับการซื้อตัวและรักษาแบ็กขวาระดับท็อปไว้ในช่วงเวลานั้น  

"ผมอยากให้อคาเดมี่มีส่วนร่วมเสมอ" อิงเกิลธอร์ป กล่าว ผู้ที่ย้ายจาก สเปอร์ส มาคุม ลิเวอร์พูล ยู-21 เมื่อปี 2012 ก่อนจะได้เลื่อนตำแหน่งในอีกสองปีถัดมา 

"เราเคยคว้าแชมป์หลายรายการโดยมีนักเตะอคาเดมี่มีส่วนร่วม แต่การคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก พร้อมกับการใช้เวลาในสนามจากเด็กอคาเดมี่มากกว่าสโมสรอื่น นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว" 

"ผมคิดว่าไม่มีใครทำได้แบบนี้อีกเลยนับตั้งแต่ยุคของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"  

"อีกสิ่งที่สำคัญคือ เราอยู่อันดับ 6 ของลีกในด้านค่าใช้จ่ายอคาเดมี่ หมายความว่าเราไม่ได้ซื้อความสำเร็จ เพราะหลายทีมใช้เงินมากกว่าเรามาก แต่เราสร้างผลลัพธ์ได้ด้วยวิธีที่รอบคอบ"  

"เราก็รู้ว่านี่อาจเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน คุณไม่สามารถทั้งขายนักเตะได้เงินมหาศาลและยังคงหวังผลจากนักเตะอคาเดมี่ในสนามได้เท่าเดิม มันเป็นสิ่งที่ต้องสร้างกันใหม่อีกครั้ง"  

...  

อิงเกิลธอร์ป เชื่อว่าการปรับปรุงศูนย์ฝึกอคาเดมี่ ครั้งใหญ่นี้จะช่วยสโมสรบรรลุเป้าหมายในอนาคต  

โดมในร่มจะถูกสร้างขึ้นก่อนที่สนามหลักแห่งใหม่จะแล้วเสร็จ ซึ่งหมายความว่าทีม ลิเวอร์พูล ยู-21 จะต้องหาสนามเหย้าชั่วคราวสำหรับลงแข่งเกมพรีเมียร์ลีก 2 เช่นเดียวกับทีมยู-19 ที่ต้องเล่นรายการ ยูฟ่า ยูธ ลีก   

หนึ่งในทางเลือกที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคือสนาม Totally Wicked Stadium ของทีมรักบี้ เซนต์เฮเลนส์ ซึ่งเป็นสนามที่ทีมหญิง ลิเวอร์พูล ใช้ลงเล่นเป็นประจำ  

"การต้องรื้อสนามหลักออกไปมันทำให้ผมเจ็บปวดใจ เพราะสนามนี้มีความหมาย เป็นสัญลักษณ์และเต็มไปด้วยความทรงจำ แต่ผมก็รู้ว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้อง" อิงเกิลธอร์ป กล่าว   

"การที่ทีมยู-21 ต้องเล่นนอก เคิร์กบี้ ไปหนึ่งฤดูกาล มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เกินไป เราจะปรับตัวได้ เพราะเรารู้ว่ามันคือการเสียสละเพื่อสิ่งที่ดีกว่าในอนาคต"  

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในซัมเมอร์นี้ สะท้อนถึงความตั้งใจของ ลิเวอร์พูล ที่ต้องการเปิดโอกาสให้เหล่าเยาวชนได้เล่นฟุตบอลอย่างอิสระ นอกเหนือจากการฝึกซ้อมแบบเป็นทางการ  

"เราพยายามประเมินและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ"  

"เด็ก ๆ มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ฝึกซ้อมสัปดาห์ละ 4 ครั้ง คุณไม่สามารถปล่อยให้ความมหัศจรรย์นั้นหายไปได้"  

"คุณต้องหาวิธีใหม่ ๆ ทำให้พวกเขาอยากมาอยู่ที่นี่จริง ๆ คอร์ทแพดบอลก็ถูกใช้งานอย่างคึกคัก และสนามลูกกรงสำหรับฟุตบอลขนาดเล็กก็เช่นกัน"  

นอกจากการผลักดันดาวรุ่งท้องถิ่นให้เติบโตขึ้นมาตามลำดับอายุเหมือนที่เคยทำสำเร็จกับ เทรนต์,โจนส์ และ ควอนซาห์ แล้ว หากเห็นว่ามีตำแหน่งที่ต้องเติมเต็ม ลิเวอร์พูล ก็พร้อมเสริมเด็ก ๆ จากที่อื่นเข้ามาในอคาเดมี่   

เจ้าหนูริโอ คือ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด เขาย้ายมาจาก เชลซี เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว และเพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ให้กับสโมสร หลังทำประตูชัยเกมประเดิมสนาม พรีเมียร์ลีก ของตัวเองที่บุกชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด  

"ริโอ แสดงให้เห็นถึงคุณภาพอันน่าทึ่ง"   

"ผมชอบดูเขาเล่น แต่เส้นทางยังอีกยาวไกล การก้าวขึ้นมาได้เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การยืนระยะให้อยู่ต่อไปนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง"  

"เขาเป็นเด็กที่ทำงานด้วยแล้วเยี่ยมมาก มีความถ่อมตัว เป็นกันเอง ชอบถูกท้าทายและก็ท้าทายตัวเองอยู่เสมอ"  

"เขามีสภาพแวดล้อมรอบตัวที่เต็มไปด้วยอิทธิพลทางฟุตบอลที่ดี ผมพูดเลยว่าเขาเป็นนักเตะที่ไม่ต้องการการดูแลอะไรมากมายเลย"  

...  

ในแง่การสรรหาผู้เล่น แม็ตต์ นิวเบอร์รี่ ซึ่งเคยนั่งตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายรับสมัครอคาเดมี่กับผู้อำนวยการฝ่ายดูแลการยืมตัวและเส้นทางพัฒนานักเตะ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายสรรหาพรสวรรค์ระดับโลกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เขาจะยังคงทำหน้าที่สำคัญในการทำให้ ลิเวอร์พูล มองเห็นโอกาสที่ดีที่สุดในตลาดนักเตะภายในประเทศ ควบคู่ไปกับบทบาทที่กว้างขึ้นเมื่อ FSG มีแผนจะซื้อสโมสรที่สองในยุโรป  

คริส ดาวลิ่ง หัวหน้าฝ่ายรับสมัครของอคาเดมี่ ก็เป็นอีกบุคคลสำคัญในการดึงนักเตะเยาวชนอย่าง เอ็นกูโมฮา และ นีโยนี่ มิดฟิลด์ที่ย้ายมาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2023 เข้ามาสู่ทีม   

ส่วน วิล ไรท์ กองหน้าวัย 17 ปีที่ย้ายมาจาก ซัลฟอร์ด ซิตี้ ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 200,000 ปอนด์ ถือเป็นดีลที่ได้แรงผลักดันมาจากแมวมองท้องถิ่นของสโมสร  

ซัมเมอร์นี้ยังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในโครงสร้างทีมโค้ชของอคาเดมี่ ลิเวอร์พูล ด้วยเช่นกัน  

มาร์ก บริดจ์-วิลกินสัน โค้ชทีมยู-18 ก้าวลงจากตำแหน่งหลังจากรับใช้สโมสรยาวนานหนึ่งทศวรรษ เพื่อไปรับงานผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ในลีกวัน   

ขณะที่ แบร์รี่ ลูว์ตัส โค้ชทีมยู-21 ก็อำลาสโมสรหลังจากทำงานมากว่า 12 ปี และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชทีมชาติอังกฤษยู-16 รวมถึงผู้ช่วยโค้ชทีมชาติอังกฤษยู-20  

สำหรับคนที่เข้ามาทดแทน ลิเวอร์พูล สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการดึง ร็อบ เพจ อดีตกุนซือทีมชาติเวลส์ มาคุมทีมยู-21 ส่วน ไซม่อน ไวล์ส ย้ายมาจากอคาเดมี่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อเข้ามารับงานคุมทีมยู-18  

อิงเกิลธอร์ป อธิบายว่า "มันมาถึงจุดที่ทั้ง แบร์รี่ และ บริดจ์ กำลังมองหาความท้าทายครั้งใหม่ ผมเคยอยู่ทีมสำรองเดียวกับ ร็อบ ที่ วัตฟอร์ด เมื่อหลายปีก่อน และเส้นทางอาชีพของเราก็มีจุดตัดกันอยู่บ้าง"  

"การที่เขาเคยคุมทีมใน ฟุตบอลโลก และ ยูโร มาก่อน คุณคงไม่คิดว่าก้าวต่อไปของเขาจะเป็นโค้ชทีมยู-21 ลิเวอร์พูล แต่หลังจากได้พูดคุยกัน เรารู้สึกว่ามันคือสิ่งที่ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกัน"  

"ทุกวันนี้สภาพแวดล้อมของทีมยู-21 เปลี่ยนไปมาก มันกลายเป็นพื้นที่ที่ทีมชุดใหญ่มักใช้มองหาโค้ชเข้ามาร่วมงาน"  

"ร็อบ เข้าใจดีว่าความต้องการในเกมระดับซีเนียร์เป็นอย่างไร เขานำความเข้มข้นนั้นเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการส่งเด็ก ๆ ขึ้นไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่หรือการปล่อยยืมตัว"  

ส่วนในกรณีของทีมยู-18 อิงเกิลธอร์ป เสริมว่า "ทีมยู-18 เรามีรายชื่อหลายคนและได้คัดกรองจนเหลือจำนวนน้อยลง"

"จนเมื่อได้เจอกับ ไซม่อน เรารู้สึกว่ามันเข้ากันได้อย่างลงตัว ผมชอบเรื่องราวเบื้องหลังของเขามาก การที่เขาเคยเจ็บบ่อยจนต้องเลิกเล่นเร็ว แล้วหันมาเอาดีด้านโค้ช แม้เขาจะยังอายุไม่มาก (40 ปี) แต่มีชั่วโมงการทำงานในสนามฝึกเยอะมาก"  

"ผมชอบที่เขาเคยคุมทีมยู-18 ที่ แบล็คพูล และที่ ฟลีตวู้ด เขาก็พัฒนาโปรแกรมเยาวชนขึ้นมา อีกทั้งยังมีประสบการณ์คุมทีมชุดใหญ่กับ ซัลฟอร์ด ซิตี้ ซึ่งทำให้โปรไฟล์ของเขาครบเครื่องทีเดียว"  

ฤดูกาลที่แล้วไม่ได้เป็นปีที่น่าประทับใจนักในแง่ผลการแข่งขันของระดับอคาเดมี่   

ทีมยู-18 จบอันดับ 11 ของศึกพรีเมียร์ลีกยู-18 และตกรอบสามใน เอฟเอ ยูธ คัพ หลังพ่ายให้กับ เปรสตัน นอร์ท เอนด์   

ขณะที่ทีมยู-19 ก็แพ้ สตุ๊ทการ์ท ในรอบน็อกเอาต์รอบแรกของ ยูฟ่า ยูธ ลีก  

ส่วนทีมยู-21 จบอันดับ 16 ในพรีเมียร์ลีก 2  

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญกว่าคือ "การพัฒนา"   

การปล่อยนักเตะดาวรุ่งออกไปยืมตัวหลายคนทำให้ทีมยู-21 อ่อนกำลังลง และบีบให้ผู้เล่นยู-18 หลายคนต้องขยับขึ้นไปเล่นในรุ่นที่สูงกว่า แต่มันก็คือส่วนหนึ่งของแผนงานทั้งหมด   

ตัวอย่างเช่น โด๊ค ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ มิดเดิลสโบรช์ เมื่อซีซั่นที่แล้วจนมูลค่าของเขาเพิ่มสูงขึ้นถึงขั้นที่ บอร์นมัธ ยอมจ่าย 25 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวไปร่วมทีม ทั้งที่ ลิเวอร์พูล ซื้อมาจาก เซลติก เมื่อสามปีก่อนด้วยค่าตัวเพียง 600,000 ปอนด์เท่านั้น  

"สามประสานแดนหน้าใน ยูฟ่า ยูธ ลีกของเราฤดูกาลที่แล้ว อาจจะเป็น เบน โด๊ค, ลูอิส คูมาส และเจย์เดน แดนส์"  

"แต่ความจริงคือเรามองว่าการให้พวกเขาได้สัมผัสฟุตบอลระดับซีเนียร์และผลักดันคนอื่นขึ้นมาคือสิ่งที่ดีกว่า"  

"เบน และ ลูอิส (สโต๊ค ซิตี้) ทำผลงานได้ดีในการยืมตัว และ เจย์เดน ก็น่าจะได้ลงเล่นให้ ซันเดอร์แลนด์ หากไม่เจ็บเสียก่อน"  

"ถ้าเราสามารถคว้าชัยชนะและพัฒนาไปพร้อมกันได้ก็คงยอดเยี่ยม แต่ถ้าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ผมขอเลือกการพัฒนา"  

...  

ซัมเมอร์นี้ ลิเวอร์พูล ดึง โคลิน สจ๊วร์ต อดีตโค้ชผู้รักษาประตู เรนเจอร์ส เข้ามารับหน้าที่หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้รักษาประตูและดูแลเส้นทางสู่ทีมชุดใหญ่ ซึ่งถือเป็นจุดเชื่อมสำคัญระหว่าง อคาเดมี่กับทีมซีเนียร์  

หลุยซ์ แฟร์นานโด อูเบล ได้เข้ามารับตำแหน่งโค้ชดูแลพัฒนารายบุคคลคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล ส่งผลให้ แอร่อน บริกส์ เปลี่ยนบทบาทไปเป็นโค้ชลูกนิ่งของทีมชุดใหญ่ หลังจากที่เขาทำหน้าที่โค้ชพัฒนาบุคคลมาตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนกรกฎาคม 2024  

อูเบล จะทำงานกับทีมชุดใหญ่ ทีมยู-21 และทีมยู-18 รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการติดตามและสนับสนุนพัฒนาการของนักเตะที่ถูกปล่อยยืมตัว เพื่อให้พวกเขาเดินหน้าสู่ทีมชุดใหญ่ เขาจะมีส่วนสำคัญในการดูแลดาวรุ่งพรสวรรค์สูงอย่าง เอ็นกูโมฮา และ นีโยนี่  

แกรี่ โพรเบิร์ต อดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการฟุตบอล อิปสวิช ทาวน์ เตรียมเริ่มงานในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารการยืมตัวของ ลิเวอร์พูล คนใหม่ภายในเดือนนี้ เขาเคยเป็นผู้อำนวยการอคาเดมี่ของ บริสตอล ซิตี้ มาก่อน  

การพัฒนาอีกหนึ่งสิ่งที่ เคิร์กบี้ ในฤดูกาลนี้คือ การปรับเวลาเริ่มซ้อมของทีมชุดใหญ่ ยู-21 และยู-18 ให้ตรงกันเป็นครั้งแรก โดยส่วนใหญ่จะเริ่มซ้อมเวลา 11.45 น. ทำให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้นในการดึงผู้เล่นจากกลุ่มหนึ่งไปอีกกลุ่มหนึ่ง  

อิงเกิลธอร์ป ยังพูดคุยกับ อาร์เน่อ อยู่เป็นประจำ โดยช่วงปรีซีซั่นซัมเมอร์ที่ผ่านมา อาร์เน่อ ได้เชิญเขาไปร่วมทำหน้าที่โค้ชกับทีมชุดใหญ่  

ความสัมพันธ์ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากย้ายจากออฟฟิศจาก อคาเดมี่ มาอยู่ในอาคารทีมชุดใหญ่  

วอร์ด ก็มีบทบาทสำคัญในการดูแล อคาเดมี่ หลังจากกลับมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ FSG เขาคือคนสำคัญที่ผลักดันโครงการพัฒนาศูนย์ฝึกมูลค่า 20 ล้านปอนด์  

"ผมรู้จัก จูเลี่ยน มา 13 ปีแล้ว หนึ่งในข้อดีของการที่เขากลับมาคือไม่ใช่แค่ความรู้ของเขา แต่ยังรวมถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสิ่งที่เราทำ"  

"เขามีอิทธิพลเชิงบวกอย่างมาก และช่วยสนับสนุนเราในจุดที่เรารู้สึกว่ายังมีช่องโหว่ในโครงสร้างพื้นฐาน"  

"มาตรฐานตอนนี้สูงมากแล้ว แค่ลองมององค์ประกอบทีมตอนนี้กับเมื่อ 10 ปีก่อนก็แทบจะจำไม่ได้ ทั้งในแง่คุณภาพและความลึกของขุมกำลัง ซึ่งก็ทำให้ความท้าทายของอคาเดมี่มากขึ้นตามไปด้วย แต่เรายินดีที่จะเผชิญกับมัน"  

"สารตั้งต้นของ อคาเดมี่ นี้ชัดเจน คือการปั้นเด็กให้ก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ และพร้อมไล่ล่าความยิ่งใหญ่ในถ้วยรางวัลระดับสูงสุด"  

"การลงทุนครั้งนี้จะช่วยเราได้อย่างแน่นอน"  

...  

ลิเวอร์พูล กำลังสร้างรากฐานแห่งอนาคตผ่านการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ใน อคาเดมี่ เคิร์กบี้   

นี่ไม่ใช่เพียงการสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ แต่คือการสร้างวัฒนธรรมและมาตรฐานใหม่ให้กับการพัฒนาเยาวชน  

จากสนามโดมในร่มไปจนถึงทีมงานโค้ชรุ่นใหม่ ทุกองค์ประกอบสะท้อนให้เห็นถึงความจริงจังที่ว่า สโมสรไม่ได้มองแค่ปัจจุบัน แต่กำลังลงทุนเพื่ออนาคตระยะยาว  

และเมื่อเป้าหมายชัดเจนว่าจะต้องปั้นเด็กให้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ และพร้อมไล่ล่าความสำเร็จในระดับสูงสุด   

โครงการนี้จึงไม่ใช่เพียงโครงสร้างพื้นฐาน แต่คือหัวใจของการสืบสาน DNA ลิเวอร์พูล  

HOSSALONSO



ที่มาของภาพ : reuters
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport