ซัวเรซ ฉาวไม่เลิก! ย้อน 5 วีรกรรมกัด-เหยียด-แดงโดนแบนยาว

ซัวเรซ ฉาวไม่เลิก! ย้อน 5 วีรกรรมกัด-เหยียด-แดงโดนแบนยาว
หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงอุรุกวัยวัย 38 ปีเพิ่งก่อเรื่องถ่มน้ำลายจนโดนแบน 6 นัด แต่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีคดีฉาวมาแล้วถึง 5 ครั้ง ทั้งกัดคิเอลลินี่-อิวาโนวิช เหยียดผิวเอวร่า และใบแดงโทษแบนซ้ำซาก

หลุยส์ ซัวเรซ ชื่อนี้ไม่เคยหยุดก่อเรื่องฉาวทั้งๆที่เขาเคยโดนลงโทษแบนมาแล้วมากถึงห้าครั้ง

ดาวยิงทีม อินเตอร์ ไมอามี่ ก่อวีรกรรมในทางลบหนล่าสุดจนโดนแบนหกนัดเนื่องจากถ่มน้ำลายใส่สตาฟฟ์ทีม ซีแอตเติ้ล ซาวเดอร์ส หลังจบเกมที่ทีมของเขาปราชัยยับเยิน 3-0 ในนัดชิงชนะเลิศ ลีกส์ คัพ

และอย่างที่รู้กันว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สตาร์อุรุกวัยแสดงพฤติกรรมที่เลวร้าย แถมในวัยที่ปาเข้าไป 38 ปีแล้ว ซัวเรซ ยังก่อเหตุเป็นครั้งที่หกจนได้หลังย้ายไปหากินในอเมริกา

สำหรับพฤติกรรมห้าครั้งก่อนหน้านี้ที่ ซัวเรซ ได้รับโทษ เราจะพาทุกท่านกลับไปย้อนอดีตกันดูว่าพ่อค้าแข้งจอมฉาวสร้างวีรกรรมฉาวโฉ่อะไรเอาไว้บ้าง

1. กัด จอร์โจ คิเอลลินี่ (แบนสี่เดือน-9 นัด)

นี่คือการได้รับโทษสถานหนักสุดสำหรับการก่อความผิดหนที่สามของ ซัวเรซ

ฟีฟ่า ตัดสินใจลงดาบด้วยการปรับเงินเขา 66,000 ปอนด์ และแบนเขาห้ามเข้าสนามทุกแห่งนานสี่เดือนหลังก่อเหตุกัด คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติ อิตาลี ในศึก ฟุตบอลโลก ปี 2014

"พฤติกรรมดังกล่าวในสนามฟุตบอลไม่สามารถยอมรับได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึก ฟุตบอลโลก ซึ่งผู้คนนับล้านเฝ้ามองสตาร์ดังในสังเวียนแข้ง" เคลาดิโอ ซัลซาร์ ประธานคณะกรรมการด้านวินัยของ ฟีฟ่า แถลง

ด้วยเหตุนี้ ซัวเรซ จึงพลาดการลงเล่นให้ทีม จอมโหด ในเกมรอบ 16 ทีมนัดแพ้ โคลอมเบีย 2-0 ที่ บราซิล รวมทั้งการป้องกันแชมป์ โกปา อเมริกา ในช่วงซัมเมอร์หน้า

ขณะเดียวกัน อนาคตการค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ของ ซัวเรซ ก็ส่อแววมีปัญหากระทั่ง บาร์ซ่า ปราดเข้ามาดึงเขาไปร่วมทีมด้วยการจ่ายค่าตัวเป็นสถิติสโมสร 75 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ดี ซัวเรซ ต้องรออยู่นานกว่าจะประเดิมสนามให้ บาร์ซ่า ได้เนื่องจากต้องรอให้โทษแบนสิ้นสุดลงซะก่อนโดยเขาได้ลงเล่นเกมแรกให้กับทีมดังของกาตาลันแพ้ เรอัล มาดริด 3-1 ช่วงปลายเดือนต.ค.2014 แต่สุดท้ายในปีนั้น เขามีส่วนทำให้ทีมของกุนซือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ คว้าทริปเปิ้ลแชมป์มาครองได้

2. กัด บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (แบน 10 นัด)

ซัวเรซ โขกพังประตูช่วงท้ายเกมให้ ลิเวอร์พูล ตีเสมอ เชลซี ในรัง 2-2 เมื่อเดือนเม.ย.2013 แต่ประตูของเขาถูกกลบด้วยความฉาวจากการกัดแขนขวา อิวาโนวิช

แม้ผู้ตัดสินจะไม่ทันเห็นเหตุการณ์ในเกม แต่ เอฟเอ แจ้งข้อหาเขาในเวลาต่อมาโดยสตาร์ละตินยอมรับผิดแม้จะอ้างว่าเขาสมควรโดนแบนแค่สามนัดตามปกติมากกว่า

ด้าน หงส์แดง ระบุเช่นกันว่าช็อกและผิดหวังกับโทษแบนที่หนักเกินไป  แต่ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ตัดสินใจไม่ขออุทธรณ์

"ผมอยากขอโทษผู้จัดการทีม และทุกคนในทีม ลิเวอร์พูล ที่ทำให้พวกเขาต้องผิดหวัง" ซัวเรซ แถลง

"ผมคุยกับ อิวาโนวิช ทางโทรศัพท์แล้ว และผมขอโทษเขาโดยตรง"

หลังก่อความผิด ซัวเรซ พลาดการลงสนามในสี่เกมสุดท้ายของซีซั่น 2012/13 บวกกับเกมลีกห้านัดในซีซั่นหน้า

สตาร์ละตินคืนสนามได้อย่างยอดเยี่ยมพาทีม ลิเวอร์พูล มีลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่สุดท้ายการติดโทษแบนช่วงต้นซีซั่นของเขาส่งผลร้ายต่อทีม

ในการออกสตาร์ตห้านัดแรก ทีมของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กำชัยได้ตลอดสามเกมแรกด้วยสกอร์ 1-0 ทั้งหมดจากการปะทะกับ สโต๊ค , แอสตัน วิลล่า และ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่อีกสองเกมต่อมา เร้ด แมชีน ทำแต้มตกหล่นโดยพวกเขาบุกไปโดน สวอนซี ตีเสมอ 2-2 ก่อนแพ้คารังให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 กระทั่งคว้าอันดับรองแชมป์โดยมีแต้มน้อยกว่า แมนฯ ซิตี้ 2 แต้ม

3. เหยียดผิว ปาทริซ เอวร่า (แบน 8 นัด)

ในเดือนพ.ย.2011 ซัวเรซ โดน เอฟเอ ตั้งข้อหาโทษฐานเหยียดผิว เอวร่า แบ็คซ้ายทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมแดงเดือดที่สองทีมคู่แค้นเสมอกัน 1-1 ที่ แอนฟิลด์

"มีกล้องมากมาย คุณเห็นได้ว่า ซัวเรซ พูดบางอย่างกับผมอย่างน้อยสิบครั้ง" เอวร่า เผยกับสื่อเมืองน้ำหอม

จนในที่สุด เดือนต่อมา ซัวเรซ ได้รับโทษแบนแปดเกม และแม้นักเตะ ลิเวอร์พูล จะสวมเสื้อให้กำลังใจดาวยิงจอมฉาว แต่สโมสรตัดสินใจไม่คิดอุทธรณ์

"ไม่มีข้อสงสัยเลยที่เราก่อความผิดพลาด" เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตรองกัปตันทีม ลิเวอร์พูล สะท้อนถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2019

"ผมไม่คิดว่าทุกคนในทีม ลิเวอร์พูล คิดว่าเราทำถูก แต่ผมคิดว่าไม่ว่าคุณจะเป็นสโมสรฟุตบอลหรือครอบครัว ปฏิกริยาแรกของคุณคือการสนับสนุนเขาแม้คุณจะรู้ว่าเขาทำผิด"

ลิเวอร์พูล แพ้ต่อ โบลตัน และ แมนฯ ซิตี้ รวมทั้งเสมอกับ สโต๊ค 0-0 ในระหว่างที่ ซัวเรซ โดนแบนช่วงครึ่งหลังของซีซั่นจนทำให้ทีมของกุนซือ เคนนี่ ดัลกลิช จบอันดับ 8 โดยเก็บได้ 52 แต้มน้อยที่สุดของทีมนับตั้งแต่ก่อตั้ง พรีเมียร์ลีก

4. กัด อ๊อตมัน บัคคาล (แบน 7 นัด)

หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในศึก ฟุตบอลโลก ปี 2010 ซัวเรซ เริ่มต้นก่อวีรกรรมกัดคู่แข่งเป็นครั้งแรกโดยสื่อดัตช์ตั้งฉายาให้เขาว่า "ฮันนิบาลแห่งอาแจ็กซ์" จากการกัดใส่ บัคคาล มิดฟิลด์ทีม  พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น

อาแจ็กซ์ ประกาศปรับเงินเขา และแบนเขาสองเกม แต่สมาคมฟุตบอลดัตช์ลงโทษเขาสถานหนักด้วยการแบนเจ็ดนัดเนื่องจาการกัดคู่แข่งถือเป็นความผิดที่รุนแรง

โทษแบนของ ซัวเรซ กินเวลาไปจนถึงเดือนก.พ.2011 ซึ่งทำให้เขาย้ายกลางซีซั่นไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล พร้อมทั้งเป็นการปิดฉากการค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์

5.เข้าปะทะในเกมดัตช์ ซูเปอร์ คัพ (แบน 2 นัด)

ถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อไม่น้อยที่นักเตะจอมฉาวอย่าง ซัวเรซ ได้ใบแดงโดยตรงแค่สองหนเท่านั้นจากการลงสนามเกือบพันนัด และเป็นการโดนไล่ออกในซัมเมอร์เดียวกันด้วย

หลังก่อเหตุทำแฮนด์บอลในเกมบู๊กับ กาน่า ซัวเรซ ก็โดนตะเพิดออกจากสนามข้อหาพุ่งเข้าเสียบ ชีค  ติโอเต้ ในเกมที่ อาแจ็กซ์ พ่ายต่อ เอฟซี ทเวนเต้ 1-0  ในศึก ดัตช์ ซูเปอร์ คัพ 

จากความผิดดังกล่าวทำให้ดาวยิงฟันจอบโดนแบนสองเกมแรกของศึกลีกเมืองกังหันลมซีซั่น 2010/11

นอกจากนี้ สมัยเล่นให้ บาร์ซ่า เขาเคยโดนแบนสองเกมเช่นกัน รวมทั้งการโดนแบนที่ทำให้เขาพลาดลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ ปี 2017 ที่ทีมแกร่งแห่งกาตาลันชนะ อลาเบส 3-1



ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport