เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า
1. ถึงตอนนี้ เบนยามิน เชชโก้ ยังไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้ แมนยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกเลยสักนัด
ทั้งๆ ที่ 'ปีศาจแดง' มีปัญหาเรื่องการทำลายตาข่าย แถมกระชากตัวมาด้วยราคาประมาณ 74 ล้านปอนด์ การที่ รูเบน อโมริม ยังให้เขาวางตูดบนม้านั่งสำรอง มันต้องมีเงื่อนงำ เอ๊ย มีเหตุผล
เข้าใจว่าสาเหตุที่กองหน้าชาวสโลวีเนียผู้นี้ยังไม่ได้ลงตัวจริง น่าจะเเป็นเพราะการย้ายมาช้าเกินไปนี่แหละ
กว่าจะเซ็นสัญญากับซาตาน แมนยูไนเต็ด ก็ผ่านช่วงพรี-ซีซั่นไปเรียบร้อยจึงขาดเกมเคาะสนิมแข้งพลางปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีม
แตกต่างกับ วิคตอร์ เยอเคเรส หรือ อูโก้ เอกิติเก้ ที่เดินทางมาซ้อมและลงทีมให้ต้นสังกัดใหม่ ก่อนที่พรีเมียร์ลีกจะเปิดซีซั่นกันคนละไม่ต่ำกว่า 2 นัด
2. เกมเดียวที่กุนซือปีศาจแดงส่งเขาเป็นตัวจริง คือนัดอัปยศที่ถูกทีมระดับ ดิวิชั่น 4 อย่าง กริมสบี้ บรรจงถีบตกรอบ คาราบาว คัพ
การศึกครั้งนั้น กองหน้าวัย 22 ปีผู้นี้สับตีนอยู่บนฟลอร์หญ้าครบ 90 นาที โดยมีโอกาสทำประตู 6 ครั้ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า 'ไอ้เบน' ยังดูกระโดกกระเดกชอบกล จุดหนึ่งอาจเป็นเพราะเจอพื้นสนามคุณภาพบัดซบ แถมฝนตกหนักจนน้ำเจิ่ง มันเลยออกอาการเก้ๆ กังๆ
มิหนำ
หลังจบเกมยังถูกตะคริวแดกจนไม่ได้สังหารจุดโทษเป็นคนแรกๆ อีกตะหาก และนั่นน่าจะเป็นเหตุผลบอกว่าทำไมถึงไม่ได้เป็นตัวจริงอีกในเกมต่อมากับ เบิร์นลี่ย์
3. รูเบน อโมริม ฝากถึงเด็กผีให้ใจเย็นๆ และกินน้ำอึกใหญ่ๆ หน่อย
อย่าลืมว่านี่คือกองหน้าวัยว้าวุ่นและซอยยิกที่เพิ่งย้ายมาจากต่างแดน มันต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม
กุนซือพันธุ์อสูรวัยสี่หมิบกล่าวว่า...
“ผมคิดว่าเขาต้องการเวลา”
“บางครั้งมันก็ไม่ง่ายเมื่อคุณเป็นตัวสำรอง แล้วถูกส่งลงเล่น แถมเล่นกันเร็วมาก
ตอนนี้เขาคงเข้าใจแล้วว่าสปีดเกมของที่นี่มันเร็วกว่าใน บุนเดสลีกา”
4. อดีตกองหน้าปีศาจแดงอย่าง หลุยส์ ซาฮา หล่นความเห็นถึงเรื่องนี้ว่าการที่ แมนยูไนเต็ด ไม่ได้เสริมตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางเข้ามาใหม่ จะยิ่งทำให้ เบนยามิน เชชโก้ มีโอกาสทำประตูยากยิ่งขึ้นไปอีก
'เฮียดุ๊ก' ชี้ว่าปัญหาในแดนกลางอันเป็นจุดยุทธศาสตร์ ยิ่งจะทำให้มิดฟิลด์สร้างสรรค์โอกาสให้กองหน้าได้น้อยเกินไป
ไอ้ที่น่าเป็นห่วงก็คือโปรแกรมหลังเบรกทีมชาติมีงานหนักรอ แมนยูไนเต็ด อยู่ถึง 2 นัด คือเกมบุกเยือน แมนซิตี้ และเปิดบ้านพบ เชลซี
เป็นเรื่องยากที่กองหน้าผู้นี้จะเปิดซิงได้ใน 2 เกมนี้
อย่างไรก็คงต้องส่ง 'หัวหอก' จริงๆ ลงสนามเป็นตัวจริงบ้างแล้วล่ะ เพราะ 3 เกมที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก 'ปีศาจแดง' มีโอกาสทำประตูคู่แข่งรวมกันถึง 58 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในลีก
แต่เปลี่ยนเป็นประตูแค่ 4 ครั้ง แถม 2 จาก 4 ยังมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่งด้วย
5. การลงเล่นเป็นสำรองทั้ง 3 นัดของ เบนยามิน เชชโก้ เพิ่งรวมเวลากันได้แค่ 80 นาทีเองนะครับ
มันยังไม่ถึง 1 นัด ด้วยซ้ำ
สิ่งที่พอมองเห็นจากกองหน้าผู้นี้คือ 'วิ่งช่อง' และ 'หาตำแหน่ง' ได้ดีกว่ากองหน้าคนเก่าอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ แน่ๆ
อีกอย่างที่เห็นคือเทคตัวขึ้นเล่นลูกกลางอากาศได้สูงมาก ลีลาถือว่าผาดโผนใช้ได้
ปัญหาคือถ้าประตูแรกยังไม่มา หรือมาช้ามากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งกดดันไปเรื่อยๆ มากขึ้นเท่านั้น
พ.ศ.นี้ เด็กผีแม่งโคตรเหนื่อย ไหนจะต้องลุ้นผู้รักษาประตูคนใหม่ไม่ให้เหวอแดก ไหนจะต้องใจหายใจคว่ำเวลาเสียลูกเตะมุม ไหนจะประสาทแดกเรื่องมิดฟิลด์ตัวกลาง ไหนจะต้องภาวนาไม่ให้ใครบาดเจ็บ
แล้วยังต้องมาเครียดอีกว่าเมื่อไหร่ ไอ้กองหน้าคนใหม่ มันจะกระทุ้งประตูแรกได้สักที...เฮ่อออ