แผนลับ ริชาร์ด ฮิวจ์ส ปิดดีลมหึมา พา ลิเวอร์พูล สู่ยุคใหม่เต็มตัว

แผนลับ ริชาร์ด ฮิวจ์ส ปิดดีลมหึมา พา ลิเวอร์พูล สู่ยุคใหม่เต็มตัว
เมื่อครั้งตอบรับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาสโมสรลิเวอร์พูล ตอนเดือนมีนาคมปี 2024 เวลานั้น ใครต่อใครก็ต่างมองว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมากอบกู้และวางรากฐานใหม่ หลัง เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังก้าวลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ที่รับหน้าที่มานานเกือบหนึ่งทศวรรษ

แต่เพียงไม่ถึงสองปี ชายชาวสก็อตช์คนนี้ไม่เพียงพาทีมผ่านพ้นรอยต่อสำคัญ หากยังทำให้ ลิเวอร์พูล กลายเป็นเจ้าตลาดกับการใช้เงินเสริมทัพมหาศาลที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร 

และนี่คือเรื่องราวว่า ฮิวจ์ส ทำสิ่งที่เกิดขึ้นให้เป็นจริงได้อย่างไร ?

...

หลัง ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ตอบตกลงกลับคืนสู่รั้ว ลิเวอร์พูล อีกครั้งภายใต้บทบาทใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมในตำแหน่ง CEO ฝ่ายฟุตบอลของ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (FSG) เมื่อเดือนมีนาคม 2024 

สิ่งแรกที่เขาทำคือหยิบมือถือขึ้นมาโทรหา ฮิวจ์ส ซึ่งตอนนั้นกำลังอยู่ในช่วงพักงาน (gardening leave) หลังเพิ่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิค บอร์นมัธ

ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งคู่ย้อนไปได้กว่า 20 ปี ตั้งแต่สมัยที่ ฮิวจ์ส ยังเป็นกองกลางกัปตันทีม พอร์ทสมัธ ยุค แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ 

ส่วน เอ็ดเวิร์ดส์ ทำงานเป็นนักวิเคราะห์ฟอร์มการเล่น "ปอมปีย์" ทั้งสองต่างเป็นคนที่ชอบใช้ความคิดและก็คลิกกันได้ทันทีจากการแลกเปลี่ยนมุมมองการวิเคราะห์เกม

...

แม้ ฮิวจ์ส จะยังไม่ถึงกำหนดเริ่มงานอย่างเป็นทางการจนกว่าจะถึงเดือนมิถุนายน 2024 แต่เขาก็ได้รับการบ้านกองโตทันที 

ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาสัญญาใหม่ให้กับ 3 ซูเปอร์สตาร์อย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รวมถึงภารกิจที่ยากที่สุดอย่างการหาตัวแทน คล็อปป์

แน่นอนว่า ภารกิจอย่างหลัง ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด เพราะการทำงานเกือบ 10 ปีของ คล็อปป์ ที่ แอนฟิลด์ กำลังจะสิ้นสุดลง แถม ลิเวอร์พูล ยังเจอข่าวร้ายเมื่อ ชาบี อลอนโซ่ ที่เป็นตัวเต็งที่จะมารับช่วงต่อจากกุนซือชาวเยอรมัน ตัดสินใจอยู่คุม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ต่อไป

รูเบน อโมริม หนึ่งในโค้ชยังบลัดที่เป็นที่เนื้อหอมมากที่สุดของยุโรป หลังจากพา สปอร์ติง ลิสบอน ใกล้การคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกสส มัยที่สอง ก็ถูกยกให้เป็นอีกแคนดิเดตลำดับต้น ๆ ในตอนนั้น 

อย่างไรก็ตาม ฮิวจ์ส กลับมองต่างออกไป...

หลังพิจารณาข้อมูลเชิงลึกที่ วิลล์ สเปียร์แมน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของสโมสรจัดเตรียมให้ ฮิวจ์ส มั่นใจว่ามีเพียงคนเดียวที่เขาต้องการพูดคุยด้วย 

และเดือนเมษายน ปี 2024 เขาก็บินตรงไปยัง เนเธอร์แลนด์ เพื่อพบปะกับ อาร์เน่อ เฮดโค้ช เฟเยนูร์ด ถึงบ้านพักที่เมืองซโวลล์

กุนซือชาวดัตช์รายนี้มีคะแนนสูงเป็นพิเศษในเรื่องการพัฒนานักเตะและการรักษาสภาพร่างกาย 

อีกทั้ง ที่สำคัญเอามาก ๆ เลยคือ แผนการเล่นและสไตล์ฟุตบอลที่เหมือนกับ คล็อปป์ แทบทุกประการ ซึ่งแตกต่างจาก อโมริม โดยสิ้นเชิง

อาร์เน่อ เล่าว่า การพบกันครั้งแรก ฮิวจ์ส ถือแฟ้มข้อมูลกองโตที่มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับตัวเขาและทีมของเขามาด้วย พร้อมติดตลกว่า ฮิวจ์ส รู้เรื่องบางอย่างที่ตัวเองไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำ

"ริชาร์ด ดูเกมที่ผมคุมมามากมาย และยังรู้ถึงการปรับเปลี่ยนแท็กติกระหว่างเกมของผมเกือบทุกครั้ง ไม่มีประเด็นไหนที่ถูกมองข้ามไปเลย" อาร์เน่อ กล่าวถึงการเจอ ฮิวจ์ส ครั้งแรก

"ลิเวอร์พูล แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการผมจริง ๆ และพวกเขารู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับผม" 

"ทันทีที่เจอกัน ผมก็รู้สึกว่าโอเคแล้ว ริชาร์ด ดูเกมที่ผมคุมมามากมาย รวมถึงการประเมินผลและการเปลี่ยนแท็กติกต่าง ๆ ขณะคุมทีม"

"จูเลี่ยน วอร์ด (ผู้อำนวยการเทคนิค FSG) ยังเดินทางไปเยี่ยมสนามซ้อม เฟเยนูร์ด และพูดคุยกับผู้คนมากมายเพื่อเก็บข้อมูลว่าผมทำงานอย่างไร ไม่มีอะไรที่ถูกมองข้ามเลยจริง ๆ"

ในสายตาคนนอก การแต่งตั้ง อาร์เน่อ อาจดูเสี่ยง เพราะเขามีประสบการณ์เกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก น้อย และเคยคว้าแชมป์ใหญ่ใน ฮอลแลนด์ เพียงสองรายการเท่านั้น

ถึงกระนั้น ฮิวจ์ส มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองพิจารณามาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เหมือนกับตอนที่เขาตัดสินใจไม่เก็บเพื่อนรักอย่าง แกรี่ โอนีล คุม บอร์นมัธ ต่อตอนซัมเมอร์ 2023 แล้วไปเลือกกุนซือชาวบาสก์ที่แทบไม่มีใครรู้จักอย่าง อันโดนี่ อิราโอล่า ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดจนมาถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม การเสริมทัพในซัมเมอร์ 2024 ของ ลิเวอร์พูล กลับไม่เป็นที่น่าประทับใจนัก เพราะมีนักเตะใหม่เพียง เฟเดริโก้ เคียซ่า ที่ย้ายมาพร้อมปัญหาสภาพร่างกาย ส่วน จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ ก็ยังปล่อยให้ บาเลนเซีย ใช้งานต่ออีกหนึ่งซีซั่น

ตอนนั้น การทำงานของ ฮิวจ์ส ในสายตาแฟนบอลเริ่มถูกตั้งคำถาม เมื่อเขาล้มเหลวในการปิดดีล 51 ล้านปอนด์กับ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ หลังเดินทางไป สเปน และได้รับการยืนยันจากนักเตะเองว่าต้องการย้ายมา แอนฟิลด์ 

แต่ท้ายสุด ซูบีเมนดี้ กลับเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย

ขณะที่แฟน ๆ ลิเวอร์พูล จำนวนไม่น้อยโกรธเคืองกับความเงียบเชียบในตลาดซื้อขายซัมเมอร์ปีที่แล้ว แต่ ฮิวจ์ส กลับมั่นใจว่า การฝึกซ้อมและแท็กติกบนสนามซ้อมของ อาร์เน่อ จะช่วยยกระดับทีมชุดนี้ 

โดยเฉพาะการตัดสินใจครั้งสำคัญอย่างการถอย ไรอัน กราเฟนแบร์ก ลงไปเล่นมิดฟิลด์ตัวรับ

ลิเวอร์พูล เดินหน้าสู๋ฤดูกาล 2024/25 ด้วยขุมกำลังที่ คล็อปป์ ทิ้งไว้ ปล่อยให้ อาร์เน่อ ใช้เวลาทั้งปีเพื่อประเมินนักเตะ ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องอนาคตของทีมอีกครั้งหลังจบฤดูกาล

"เจอร์เก้น ทิ้งทีมไว้ในสภาพที่ดี และเรากำลังพยายามต่อยอดจากตรงนั้น" อาร์เน่อ กล่าวตอนช่วงก่อนเปิดฤดูกาลแรกกับ ลิเวอร์พูล

"เราไม่ได้เปลี่ยนทุกอย่าง จริง ๆ แล้วเราแทบไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย เพราะหลายสิ่งหลายอย่างมันดีอยู่แล้ว"

อย่างไรก็ตาม ทุกสายตายังคงจับจ้องไปที่ ฮิวจ์ส ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของฤดูกาล เพื่อดูว่าทีมจะทำผลงานอย่างไรเมื่อไม่มี คล็อปป์ ยืนคุมข้างสนาม 

ถึงแม้ อาร์เน่อ จะเปิดตัวในฐานะเฮดโค้ช ลิเวอร์พูล ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สำหรับ ฮิวจ์ส แล้ว ภารกิจที่รออยู่คือการจัดการเรื่องอนาคตของ 3 ผู้เล่นคนสำคัญ

สัญญาของ ฟาน ไดค์, ซาลาห์ และ เทรนต์ ต่างกำลังจะหมดลงพร้อมกันในซัมเมอร์ถัดไป 

นั่นหมายความว่าทั้งหมดสามารถเปิดการเจรจากับสโมสรนอก อังกฤษ ได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 

ฮิวจ์ส เคยสารภาพว่า หวังจะรั้งหนึ่งในสามคนนี้ให้อยู่ต่อได้ แต่เมื่อฤดูกาลดำเนินไป ความหวังนั้นก็ริบหรี่ลงเรื่อย ๆ เมื่อฝั่งของ เทรนต์ และฟาน ไดค์ ไม่แสดงท่าทีใด ๆ ขณะที่ ซาลาห์ ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะว่าไม่มีใครจาก ลิเวอร์พูล มาพูดคุยเรื่องสัญญาเลย และน่าจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับสโมสร คำพูดนี้เกิดขึ้นกลางสนามในบทสัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ตส์ หลังเกม ลิเวอร์พูล บุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ช่วงต้นฤดูกาล 24/25

ซาลาห์ ที่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด ยังเพิ่มแรงกดดันต่อ ฮิวจ์ส ต่อไป โดยยืนยันว่าเขายังไม่ได้รับข้อเสนอสัญญาใหม่ และกล่าวว่าน่าจะ "ย้ายออก" มากกว่า "อยู่ต่อ" หลังซัดสองประตูช่วยให้ ลิเวอร์พูล พลิกแซงชนะ เซาแธมป์ตัน และรั้งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024

ฮิวจ์ส ขึ้นชื่อว่าเป็น นักเจรจาที่แข็งกร้าวและไม่หวั่นเกรง ยังคงนิ่งสงบได้แม้เผชิญกับสถานการณ์กดดันที่สุด 

เขาเคยถูกเอเยนต์รายหนึ่งขนานนามไว้ว่าเหมือนกับหุ่นยนต์ ขณะเดียวกัน ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับเกมลูกหนังก็กลายเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยให้เขาปิดดีลได้สำเร็จ

ฮิวจ์ส พูดได้ถึงสี่ภาษา เพราะเติบโตที่เมืองมิลาน ซึ่ง เควิน พ่อของเขาทำงานให้สำนักพิมพ์ เพนกวิน บุ๊คส์ และมักพาเจ้าหนูริชาร์ด ซึ่งอยู่ในอะคาเดมี่ชื่อดังของ อตาลันต้า ไปชมเกมที่ ซาน ซิโร่ เพื่อดู เอซี มิลาน ยุคทองของ อาร์ริโก้ ซาคคี่ ตอนช่วงปลายทศวรรษ 80-90

ทักษะและประสบการณ์เหล่านี้ถูกนำมาใช้เต็มตัวเมื่อ ฮิวจ์ส พยายามหาทางเจรจากับเอเยนต์ทั้งสามราย รวมถึง รามี่ อับบาส ทนายสุดเขี้ยวชาวโคลอมเบีย ที่เป็นตัวแทนของ ซาลาห์

ท้ายที่สุด ฟาน ไดค์ กับ ซาลาห์ ก็ตกลงเซ็นสัญญาใหม่ 2 ปีตอนเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ลิเวอร์พูล ใกล้คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 

แม้ ฮิวจ์ส จะไม่สามารถโน้มน้าวให้ เทรนต์ ต่อสัญญาได้ แต่การเก็บผู้เล่นสำคัญได้ 2 จาก 3 คนก็ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้อำนวยการกีฬาชาวสก็อตช์รายนี้

ต่อมา ยังไม่ทันที่ ฮิวจ์ส จะได้เอนหลังเฉลิมฉลองความสำเร็จ หลัง ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 เทียบสถิติเป็นประวัติศาสตร์ ซึ่งมาจากผลงานที่สร้างขึ้นจากโค้ชที่เขาเป็นคนพามา 

สโมสรลิเวอร์พูล ก็เดินหน้าสู่การปรับทีมครั้งใหญ่ในซัมเมอร์นี้ทันที ด้วยการคว้าตัว ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ จาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

เวียร์ตซ์ ถูกคาดหมายว่าจะย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค หรือไม่ก็ แมนฯ ซิตี้ แต่สุดท้าย ฮิวจ์ส ร่วมมือกับ อาร์เน่อ และ เอ็ดเวิร์ดส์ สามารถโน้มน้าวใจแข้งวัย 22 ปี และครอบครัวสำเร็จด้วยการนำเสนอโปรเจ็กต์เชิงลึกที่ทำให้ตัวนักเตะเชื่อว่าอนาคตของเขาอยู่ที่ แอนฟิลด์

"มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายสำหรับผม แต่การพูดคุยกับโค้ช, ริชาร์ด และทุกคนตั้งแต่ครั้งแรก มันยอดเยี่ยมมาก และทุกครั้งที่พูดคุยมันก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ" เวียร์ตซ์ กล่าวถึงการย้ายมา ลิเวอร์พูล ด้วยสถิติค่าตัว 116 ล้านปอนด์ 

"ทุกครั้งที่ผมคุยกับคนของสโมสร ผมรู้สึกว่า -นี่แหละคือที่ที่ผมอยากอยู่- และสุดท้ายผมก็มั่นใจเต็มร้อยว่าต้องการย้ายมา ลิเวอร์พูล มันคือการตัดสินใจที่ดีที่สุด"

การย้ายทีมแบบสุดเซอร์ไพรส์ของ เวียร์ตซ์ มีอะไรที่ชวนให้นึกถึงการปิดดีลอันกล้าหาญที่ เอ็ดเวิร์ดส์ เคยทำได้เป็นประจำสมัยที่รับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬา ลิเวอร์พูล มาก่อน เช่น ดีล เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่ย้ายมาด้วยค่าตัวสถิติค่าตัวกองหลังแพงสุดในโลก หรือการดึง อลีสซง เบ็คเกอร์ มาเสริมแกร่งได้อีกในเวลาต่อมา

ข้อมูลจาก สเปียร์แมน และทีมวิจัยชี้ให้ ฮิวจ์ส เห็นว่า เวียร์ตซ์ คือนักเตะระดับปรากฏการณ์แห่งยุคที่ ลิเวอร์พูล ไม่อาจปล่อยโอกาสหลุดมือไปได้ แม้ค่าตัวจะสูงมากก็ตาม 

เช่นเดียวกับกรณีของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่ย้ายมาจาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แบบเซอร์ไพรส์เช่นกัน

ฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูล ทำสถิติยิงได้มากที่สุดในลีกถึง 86 ประตูตลอดเส้นทางสู่การคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก แล้วในเดือนกรกฎาคม ลิเวอร์พูล ก็คว้าตัว อูโก้ เอกิติเก้ กองหน้าชาวฝรั่งเศส มาด้วยค่าตัว 79 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นดีลที่ ฮิวจ์ส วางรากฐานไว้ตั้งแต่ซัมเมอร์ที่แล้ว จนนำไปสู่คำถามจากบางฝ่ายว่า ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องมีศูนย์หน้าเบอร์ 9 อีกคนจริงหรือ

แต่ตามโมเดลสถิติแล้ว อิซัค ถูกจัดอันดับให้อยู่ระดับเดียวกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ในบรรดากองหน้าชั้นนำ ยุโรป 

นั่นทำให้เกิดการไล่ล่า อิซัค ตลอดซัมเมอร์ แม้ความสัมพันธ์ระหว่าง ฮิวจ์ส กับ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือ นิวคาสเซิ่ล จะมีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยค้าแข้งร่วมกันที่ พอร์ทสมัธ และ บอร์นมัธ

แต่ธุรกิจคือธุรกิจ ฮิวจ์ส ต้องวางมิตรภาพที่ยาวนานกว่า 20 ปีไว้ข้างหลัง เพื่อปิดดีลสถิติใหม่ของเกาะอังกฤษ ให้กับ ลิเวอร์พูล

ดีลของ อิซัค มูลค่า 125 ล้านปอนด์ ทำให้ยอดใช้จ่ายของ ลิเวอร์พูล ในตลาดครั้งนี้พุ่งสูงถึง 446 ล้านปอนด์ 

มันกลายเป็นสถิติใหม่ของสโมสร และแซงหน้าสถิติเดิมที่ 177 ล้านปอนด์ สมัยที่ เอ็ดเวิร์ดส์ ทุ่มซื้อนักเตะหลังทีมของ คล็อปป์ เพิ่งคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซัมเมอร์ปี 2019 อย่างขาดลอย

ทางตรงกันข้าม ฮิวจ์ส กลับสามารถสร้างรายรับจากการขายนักเตะได้สูงถึง 218.4 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์นี้ (มีอีก 62.5 ล้านปอนด์ที่ทำได้ในตลาดแรกของเขาเมื่อปีก่อน) ทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายสุทธิ (Net Spend) ของ ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 218.4 ล้านปอนด์ ซึ่งน้อยกว่า อาร์เซน่อล ที่มียอดสุทธิ 257 ล้านปอนด์

สำหรับ ฮิวจ์ส มันแทบจะเป็นการทำงานแบบไม่หยุดพักตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง 

เขาแทบไม่ได้ใช้เวลากับภรรยาและลูกทั้งห้าคนในช่วงพักผ่อนที่เกาะครีต ประเทศกรีซ เลย ก่อนจะกลับมาทำงานหนักจนถึงวันเดดไลน์เพื่อพยายามปิดดีล มาร์ก เกฮี แต่สุดท้ายก็พลาดเมื่อ คริสตัล พาเลซ ยกเลิกดีลช่วงนาทีสุดท้าย

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฮิวจ์ส ยังต้องเจรจาสัญญาใหม่ของ เจมส์ แม็คคอนเนลล์ ควบคู่กับการปล่อยยืมไป อาแจ็กซ์ รวมถึงการขยายสัญญาของ โคดี้ กัคโป

ขณะเดียวกัน เขายังต้องหันไปโน้มน้าว อิบราฮิม่า โกนาเต้ ให้ฝากอนาคตระยะยาวไว้กับ ลิเวอร์พูล อีกด้วย

แต่ทั้งหมดนั้นยังพอรอได้ ตอนนี้ผู้อำนวยการกีฬา ลิเวอร์พูล ขอพักหายใจในช่วงเบรกทีมชาติที่เหมาะสม 

ก่อนที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะพยายามฟื้นดีล เกฮี ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อตลาดซื้อขายเดือนมกราคมเปิดขึ้น...

Ref. Sky Sports

HOSSALONSO



ที่มาของภาพ : reuters
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport