ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนาน "เบบี้โกล" เปิดใจทั้งน้ำตา เคยคว้าบัลลงดอร์-ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกตั้งแต่อายุ 18 แต่กลับถูกจดจำเพียงช่วงล้มเหลวในอาชีพ ยอมรับเลิกเล่นเพราะใจใกล้พังมากกว่าปัญหาร่างกาย
นักฟุตบอลหลายคนได้รับการจดจำจากผลงานในอดีต แต่บางคนอาจถูกลืมว่าเคยเก่งมากแค่ไหน อย่างในรายของ ไมเคิ่ล โอเว่น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพนักเตะด้วยการคว้าบัลลงดอร์ แต่หลายคนกลับจดจำเขาในฐานะแข้งที่ล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ !!
โอเว่น เติบโตมาจากอคาเดมี่ของ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ตอนอายุ 12 ปี พร้อมกับทำลายสถิติมากมาย ก่อนจะกลายเป็นผู้คว้ารางวัลรองเท้าทองคำ (Golden Boot ) หรือดาวซัลโวสูงสุดศึกพรีเมียร์ลีกที่อายุน้อยที่สุดในฤดูกาล 1997/1998 ด้วยการยิง 18 ประตู ในวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น
เขายังเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ซัด 100 ประตูในพรีเมียร์ลีกด้วยวัยเพียง 23 ปี 4 เดือน กับ 12 วัน และยังเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่ได้ "บอลทองคำ" หรือ บัลลงดอร์ ตอนอายุ 22 ปี เมื่อปี 2001 พร้อมกับเป็นแข้งชาวอังกฤษคนที่ 4 ที่ได้รับเกียรตินี้
แม้ว่าจะได้รางวัลรองเท้าทองคำ 2 ครั้งติดต่อกัน แต่อาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาในฤดูกาล 1998/1999 สร้างความเสียหายให้กับอาชีพของเขาอย่างมาก แต่กระนั้นเจ้าตัวยังมีโอกาสได้ย้ายไปเล่นให้กับทีมชั้นนำอย่าง เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิ่ล และ สโต๊ค ซิตี้ ก่อนจะแขวนเกือกในปี 2013 ด้วยวัยแค่ 33 ปีเท่านั้น
อดีตดาวยิงเจ้าของฉายา "เบบี้โกล" ซึ่งซัดไป 40 ประตูจากการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 89 เกม ยอมรับว่าตนรู้สึกเจ็บปวดมากๆ ที่หลายคนไม่เคยจดจำช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของเขาตอนเป็นนักเตะอาชีพ แต่จำได้แค่ช่วงที่ล้มเหลวเท่านั้น
"หลายคนอาจเห็นผมหรือจดจำผมได้เพียงในช่วงปีหลังๆ ที่ผมกำลังอยู่ในช่วงที่ย่ำแย่ และดำดิ่งสุดขั้ว มันน่าเจ็บปวดสำหรับผมที่ไม่มีใครจำจดช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของผม มีแค่ไม่กี่คนที่จดจำสิ่งที่ผมเคยทำได้ตอนอายุ 10, 12 , 15, 18 และบางทีก็ช่วง 22 ปี"
"ผมเริ่มหมดสภาพและค่อยๆ ถดถอยลงราวๆ อายุ 21 ปีเห็นจะได้ นั่นเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะว่าจะมีใครที่อายุ 18 ปีแล้วเก่งใกล้เคียงกับผมบ้างไหมตอนที่ผมอายุ 18 ปี ? ผมทิ้งห่างคนอื่นในรุ่นเดียวกันไปเป็นปีแสงในอังกฤษ"
"คุณอาจจะได้เจอกับเด็กคนต่อไป และคนต่อไป และคนต่อไป ที่สามารถยิงได้ 10 ประตู จากนั้นทุกๆ คนก็พูดว่า -โอ้ นี่แหละ นิว ไมเคิ่ล โอเว่น- แต่ตอนนั้นผมต้องต่อสู้แข่งขันกับกองหน้าชั้นยอดมากมาย ตอนนี้ในพรีเมียร์ลีกมีแค่สี่หรือห้ารายที่เป็นกองหน้าชั้นดีเท่านั้น"
ผลงานซัดไป 118 ประตูจากการเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก 216 เกมให้ ลิเวอร์พูล นั่นทำให้ โอเว่น ได้ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ในปี 2004 แต่ฟอร์มสวนทางอย่างสิ้นเชิงโดยได้ลงเล่นแค่36 เกมแถมเป็นตัวสำรองส่วนใหญ่ และยิงได้เพียง 13 ประตูในลา ลีกา เท่านั้น
ช่วงสี่ปีที่ นิวคาสเซิ่ล ถือว่าผิดหวัง โดยจบลงด้วยการตกชั้นกับทัพ "สาลิกาดง" ก่อนที่ โอเว่น จะย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2009 ซึ่งเป็นการย้ายที่มีข้อถกเถียง โดยเขาทำไป 5 ประตูจาก 31 นัดในพรีเมียร์ลีกตลอดสามปีที่อยู่กับ "ปีศาจแดง" แต่ได้เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่นั่นก็คือแชมป์ลีก 1 สมัย
ตำนานหัวหอกทีมชาติอังกฤษ กล่าวต่อไปว่า "ผมแบ่งอาชีพนักเตะของตัวเองออกเป็นสองช่วงตอนอยู่ ลิเวอร์พูล กับ (เรอัล) มาดริด หลังจากนั้น ผมก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ผมรักการเล่นให้ (แมนเชสเตอร์) ยูไนเต็ด นะ แต่ไม่ใช่ตัวตนของผม ครึ่งหนึ่งผมรู้สึกอายจริงๆ"
"มันเหมือนกับว่า ผมอยากเปลี่ยนชื่อแล้วเรียกผมด้วยชื่ออื่นได้ไหม ? ผมไม่อยากให้ใครจำผมได้ มันทำร้ายจิตใจผมอย่างมาก ผมยังคงยิงประตูได้ แต่ผมไม่ใช่นักเตะตัวหลักในการเล่นงานทีมคู่แข่งอีกต่อไปแล้ว"
"ผมไม่ได้แขวนสตั๊ดเพราะปัญหาสภาพร่างกาย แต่ผมเลิกเล่นเพราะจิตใจของผมมันใกล้แตกสลาย ผมทนไม่ได้อีกต่อไปที่ตัวเองเป็นแค่ผู้เล่นพรีเมียร์ลีกคนหนึ่งเท่านั้น"
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2001 โอเว่น ได้รับบัลลงดอร์ โดยทำผลงานได้เหนือกว่า ซีเนดีน ซีดาน และ หลุยส์ ฟิโก้ ซึ่งตอนนั้นเขายังเล่นให้ ลิเวอร์พูล โดยเจ้าตัวย้อนความรู้สึกในเวลานั้นว่า "ผมไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ ตอนที่ผมได้รางวัล ผมเพิ่งมารู้สึกก็ตอนไปเล่นให้ มาดริด"
"ที่นั่นถ้าพวกเขาพูดถึงชื่อคุณ ก็จะต้องพ่วงด้วยประโยคที่ว่าคุณเป็นนักเตะที่ได้รางวัลบัลลงดอร์ แต่ในอังกฤษ ไม่มีใครพูดอะไรแบบนั้นเลย"
ขณะเดียวกัน โอเว่น ยอมรับว่าตนเข้าใจสิ่งที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งโดนสาวก "เดอะ ค็อป" โห่ตอนที่ตัดสินใจอำลา "หงส์แดง" เพื่อไปเล่นกับ "ราชันชุดขาว" ในช่วงซัมเมอร์นี้
"ผมไม่ชอบเลย (การวิจารณ์ เทรนต์) แฟนบอลจะไม่มีวันเข้าใจ เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในสโมสรของตัวเองจนวันตาย แต่นี่คืออาชีพของเรา ชีวิตเรา นักเตะอย่าง แจ็ค กรีลิช โดนแฟนบอล แอสตัน วิลล่า โห่ และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ชอบเขา มันทำให้ผมรู้สึกแย่จริงๆ"
"ถ้าเขาตอบปฏิเสธ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้ววงการฟุตบอลหรือแนวทางการเล่นของเราจะเป็นยังไง ? มันคงแย่สุดๆ นี่คือคนที่กล้าแสดงอะไรบางอย่าง กล้าที่จะเสี่ยง ภาษาใหม่, เพื่อนร่วมทีมใหม่, ประเทศใหม่ และทุกอย่างใหม่หมด มันเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก เราก็แค่คนธรรมดาที่พยายามจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้" โอเว่น ระบุ