ซัมเมอร์ 2025 หลายทีมดัง พรีเมียร์ลีก หันเสริมทัพกองหน้าสูงใหญ่แต่คล่องตัวนำโดย อีซัค, เอกิติเก้, เซสโก้, โวลเทอมาเดอ สะท้อนเทรนด์ใหม่แทนฟอลส์ไนน์ หวังตามรอยความสำเร็จแบบ ฮาลันด์
ดูเหมือนเทรนด์กองหน้าในศึกพรีเมียร์ลีก จะกลับมาเน้นประเภทสูงยาวเข่าดี แต่เพิ่มเติมเรื่องความคล่องตัว และความสามารถที่หลากหลาย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าหลายทีมชั้นนำในลีกจะเลือกดาวยิงประเภทนี้มาร่วมทัพในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มเงินมหาศาลเป็นสถิติเกาะอังกฤษ ด้วยการเซ็นสัญญากับ อเล็กซานเดอร์ อีซัค จำนวนรวม 130 ล้านปอนด์ (ราว 5,720 ล้านบาท) จาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ช่วงซัมเมอร์นี้ โดยนักเตะมีส่วนสูงถึง 6 ฟุต 4 นิ้วหรือประมาณ 192 เซนติเมตร
การทุ่มเงินของ "หงส์แดง" ไม่ใช่ได้กองหน้าที่สูงใหญ่เท่านั้นแต่เขายังมีความคล่องตัว และการจบสกอร์ที่โดดเด่นทั้งบนพื้นและลูกโด่ง อย่างไรก็ตาม อีซัค ไม่ใช่ดาวยิงสูงโปร่งคนเดียวของทีม เพราะพวกเขายังเซ็นสัญญากับ อูโก้ เอกิติเก้ ซึ่งมีส่วนสูง 6 ฟุต 3 นิ้วหรือประมาณ 190 เซนติเมตร จาก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต
ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เลือกกองหน้าใหม่ที่เน้นส่วนสูงและความคล่องตัวอย่าง เบนจามิน เซสโก้ ที่มีส่วนสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว (ราว 195 เซนติเมตร) สำหรับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็ได้ตัว นิค โวลเทอมาเดอ เจ้าของส่วนสูง 198 เซนติเมตร (6 ฟุต 6 นิ้ว) เพื่อมาทดแทน อีซัค ในถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค
จะว่าไปแล้วในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา หลายๆ ทีมพยายามที่จะเลียนแบบ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เน้นสไตล์ครองบอล ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะถึงเวลาหรือยังที่ทีมจากเมืองผู้ดีจะกลับมาเล่นบอลโยนสาดยาวเข้าไปในเขตโทษแบบเดิมๆ อีกครั้ง ?
บางทีอาจจะไม่ใช่ทั้งหมด ! แต่หวังว่าในช่วงซัมเมอร์นี้การเสริมทัพในแนวทางแบบนี้ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดของเทรนด์การเล่นแบบ "ฟอลส์-ไนน์" (false-nine) ซะที
การย้ายทีมของบรรดากองหน้าในช่วงซัมเมอร์นี้ทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนกำลังย้อนกลับไปในอดีตสมัยที่ดาวยิงพรีเมียร์ลีกมีพวกสูงยาวเข่าดีอย่าง ดันแคน เฟอร์กูสัน, แอนดี้ คาร์โรลล์ และ ปีเตอร์ เคร้าช์ เป็นต้น
พรีเมียร์ลีกตอนนี้อาจไม่เคยมีนักเตะแนวรุกที่มีฝีเท้าระดับพรสวรรค์มากมายขนาดนี้มาก่อน และไม่ใช่แค่เรื่องความสูงหรือร่างกายใหญ่โตเท่านั้น เพราะนักเตะเหล่านี้ยังมีทักษะการเล่นบอลด้วยเท้าได้ดีอีกด้วย
อย่างไรก็ตามสำหรับกองหน้าสิ่งสำคัญก็คือการยิงประตูที่เฉียบคม แต่กระนั้นการปฏิวัติการจ่ายบอลของ เป๊ป นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งในอคาเดมี่และทีมชุดใหญ่ โดยให้ความสำคัญกับกองหน้าที่วิ่งและเคลื่อนตลอดเวลา มากกว่าการเน้นแค่ดาวยิงที่จบสกอร์เก่งๆ เพียงอย่างเดียว
กุนซือเกือบทุกคนมักจะใช้ระบบ 4-3-3 ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก กวาร์ดิโอล่า โดยกองหน้าไม่เพียงแต่จะเป็นของหายากแล้ว พวกเขายังถูกบังคับให้มีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้น และต้องสามารถครองบอลได้ดีด้วย
การทำให้กองหน้าเป็นผู้เล่นที่ทั้งแข็งแกร่งและครองบอลเหนียวแน่น นั่นเป็นเพราะกองหลังเริ่มมีความแข็งแกร่งและคล่องตัวมากขึ้น ดังนั้น กวาร์ดิโอล่า จึ่งเป็นหนึ่งในกุนซือคนแรกๆ ที่ลงมือปรับตัว
ยกตัวอย่างง่ายๆ ในกรณีของ เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ ที่มีส่วนสูงแค่ 5 ฟุต 8 นิ้ว หรือประมาณ 173 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ทำหน้าที่กองหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม แต่หลังจากหลายปีผ่านไป "เป๊ป" ก็ได้สุดยอดหัวหอกชาวนอร์เวย์ นั่นก็คือ เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่มาพร้อมกับส่วนสูง 195 เซนติเมตร (6 ฟุต 5 นิ้ว)
การได้หน้าเป้าสูงใหญ่ เก่งทั้งลูกบนพื้น และกลางอากาศ แถมยังมีความคล่องตัวสูง ครองบอลเหนียวแน่น และจบสกอร์แม่นยำ นั่นทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประสบควมสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นสมัยแรก และยังสร้างประวัติศาสตร์คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ด้วย
สำหรับตอนนี้ทุกๆ ทีมเริ่มหันมาเปลี่ยนเทรนด์ด้วยการหากองหน้าที่สูงใหญ่และมีสไตล์คล้ายกับ ฮาลันด์ เพื่อหวังจะประสบความสำเร็จเหมือนที่ กวาร์ดิโอล่า ทำได้กับ "เรือใบสีฟ้า" ในช่วงที่ผ่านมา
แม้กระทั่งกุนซือหัวแข็งอย่าง มิเกล อาร์เตต้า ก็ต้องยอมเซ็นหน้าเป้าขนานแท้มาร่วมทัพ หลังทู่ซี้ใช้งาน ไค ฮาแวร์ตซ์ ในตำแหน่งนี้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดย "ปืนใหญ่" คว้าตัว วิคตอร์ โยเคเรส แม้จะไม่ได้สูงใหญ่เหมือนกับกองหน้ารายอื่นๆ ที่กล่าวเอาไว้ข้างตน แต่ก็สูงถึง 189 เซนติเมตร เลยทีเดียว
เช่นเดียวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้ตัว เซสโก้ มาเสริมทัพ แม้ผลงานของ ดาวยิงชาวสโลวีเนีย ยังไม่โดดเด่นและเปรี้ยงปร้างอย่างที่คาดหวัง แต่ถ้าเขาสามารถปรับตัวได้เมื่อไหร่ สาวก "เร้ด อาร์มี่" คงได้เห็นฟอร์มที่สุดยอดเหมือนช่วงที่เล่นกับ แอร์เบ ไลป์ซิก แน่นอน
ไม่ใช่แค่สโมสรชั้นนำเท่านั้นที่กำลังมองหานักเตะสูงใหญ่ โดย วูล์ฟส์ ตัดสินใจทุ่มเงิน 24 ล้านปอนด์ (ราว 1,056 ล้านบาท) คว้าตัว โตลู อโรโกดาเร่ ดาวยิงร่างยักษ์ชาววไนจีเรีย เจ้าของส่วนสูง 197 เซนติเมตร จาก เกงค์ มาเสริมแกร่งในแนวรุก
ขณะที่ ฟูแล่ม ก็เพิ่งเปิดตัว โจนาห์ คูซี่-อซาเร่ หัวหอกดาวรุ่งเจ้าของความสูง 196 เซนติเมตร หลังยืมตัวมาจาก บาเยิร์น มิวนิค โดยนักเตะนอกจากสูง ทักษะดีแล้ว ยังอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น
สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนนั่นก็คือการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากองหน้ายิ่งใหญ่ยิ่งดี และน่าจะพึ่งพาได้มากกว่า แต่สำหรับตอนนี้แฟนบอลคงต้องรอดูว่าการเปลี่ยนแนวมาใช้กองหน้าร่างใหญ่ แต่เต็มไปด้วยความคล่องตัวและรวดเร็ว จะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน