อธิบายลิเวอร์พูลใช้ไป415ล้านแต่ทำไมไม่ผิดกฎการเงิน

อธิบายลิเวอร์พูลใช้ไป415ล้านแต่ทำไมไม่ผิดกฎการเงิน
แม้จะพลาดในตัวมาร์ค เกฮี กองหลังคริสตัล พาเลซไปในนาทีสุดท้ายแต่ทันทีที่อเล็กซานเดอร์ อิซัคเปิดตัวในเครื่องแบบสีแดงพร้อมหมายเลข9ก็เท่ากับยอดรวมจ่ายเงินเสริมทัพของลิเวอร์พูลในตลาดซัมเมอร์นี้ทะยานไปแตะ415ล้านปอนด์เรียบร้อย

ไม่มีสโมสรไหนอีกแล้วที่ใช้เยอะเท่านี้(เชลซีเคยทำไว้400ล้านในปี2023)

ใช่ครับ ตัวเลขนี้ถือว่าน่าตกใจว่าทำไมทีมแชมเปี้ยนถึงเปลี่ยนบทบาทมาเป็น'เจ้าบุญทุ่ม'โดยขณะเดียวกันก็ย่อมทำให้มีคนคิดตามได้ว่าเหตุใดพวกเขาถึงสามารถถลุงคลังได้มากขนาดนี้แบบไม่กลัวผิดกฎPSR(Profitability & Sustainability Rules)

ให้อธิบายก็ต้องชื่นชมวิธีกาารบริหารของกลุ่มเฟนเวย์ฯอันดับแรก นับแต่ที่กลุ่มทุนจากบอสตันเข้ามาเทกโอเวอร์ซึ่งแน่นอนว่าก็มีหลายครั้งที่เจอแฟนตัวเองโจมตี ทว่าท้ายที่สุดก็พิสูจน์ว่าก็ทำให้สโมสรสีแดงของเมอร์ซี่ย์ไซด์มีถ้วยเข้ามา มีการปรับปรุง-ต่อเติมแอนฟิลด์รวมไปถึงทำสนามซ้อมใหม่

คนภายนอกมองกับคนภายในเห็นมักต่างกันเสมอ

"FSGอาจไม่ได้ใช้เงินเหมือนบางทีมแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็พยายามยกระดับทีมให้ขึ้นไปด้วยแนวทางระยะยาว การที่ตลาดนี้ทีมใช้เงินได้เยอะเป็นผลพวงจากแนวทางบริหาร ถึงเวลาต้องใช้ก็จะใช้โดยไม่ต้องคิดเยอะ"เพื่อนนักข่าวรายหนึ่งที่ตามหงส์พูดให้ฟังเร็วๆนี้

วิเคราะห์ลงลึกก็มาจากทักษะเจรจาเวลาจะขายใครออกไป พวกเขามักได้เงินกลับเข้ามาแบบที่ทำให้เอาไปต่อยอดทำอย่างอื่นต่อได้ ยกตัวอย่างซัมเมอร์2025นี้จ่ายไป415ล้านปอนด์แต่ก็ปล่อยผู้เล่นได้รวมถึง187ล้านปอนด์ เท่ากับยอดสุทธิใช้ไปจริงๆก็228ล้านปอนด์    

228 ล้านกับการเพิ่มความแข็งแกร่งได้อิซัค, ฟลอเรียน เวิร์ตซ์, ฮูโก้ เอกิติเก้, มิลอส เคอร์เคซจนถึงเฌเรมี่ ฟริมปงย่อมถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม

ความจริงยอดที่ได้จากการปล่อยผู้เล่น187ล้านปอนด์แค่เบื้องต้นด้วย ยังไม่ได้รวมพวกadds onต่างๆที่จะทำให้ทีมได้เงินเพิ่มอีกเป็นร้อยล้านปอนด์

ขายหลุยส์ ดิอาซให้บาเยิร์น มิวนิค65.5ล้าน ตามด้วยดาร์วิน นูนเยซไปซาอุฯอีก46.3ล้านปอนด์ แม้แต่เบน ดัวร์ค ตัวรุกวัย19ที่ก็ไม่ค่อยมีส่วนทีมชุดใหญ่ยังขายให้บอร์นมัธได้ราคาถึง20ล้านปอนด์เลย    

นี่ครับเป็นความหลักแหลมของทีมบริหารซื้อขาย

มันอาจจะไม่มีเคสอย่างฟิลิปป์ คูตินโญ่อีกแล้ว ทำได้ไงตอนซื้อลงทุนแค่8.5ล้านแต่ไปเคาะราคาใส่ริบบิ้นประเคนให้บาร์เซโลน่า142ล้านได้

กระนั้นลำพังเท่านี้ก็ทำให้ซัมเมอร์นี้หลายๆทีมได้แต่มองตาปริบๆ ทีมที่ได้แชมป์มาแล้วยังไม่หยุดต่อยอดหวังจะรักษาเข็มขัดให้ได้ การออกสตาร์ท3เกมที่ผ่านมากวาด9แต้มเต็มก็บอกอะไรบางอย่างว่า"นี่เพิ่งแค่ออเดิร์ฟ..."

นับแต่กลุ่มFSGเข้ามาในปี2010มีถึง4ครั้งที่ทีมได้กำไรจากการซื้อขาย พอคำนวนยอดรวมสุทธิก็ใช้เงินไปจริงๆเพียง660ล้านปอนด์ ตัวเลขนี้น้อยกว่าพวกเชลซี, แมนฯซิตี้, อาร์เซน่อลหรือแมนฯยูไนเต็ด

ครั้งหนึ่งตอนที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้เก็บกระเป๋าย้ายออกจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดไปเรอัล มาดริด ก็มีประโยคคลาสสิคจากเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือในเวลานั้น"นักเตะทุกคนมีราคาของตัวเอง"

อย่างเดียวกับที่กำลังเป็นไปในแอนฟิลด์ การที่ยอมทำสถิติเกาะอังกฤษกับอิซัคเพราะพวกเขาไตร่ตรองแล้ว่าคุ้มค่า จะด้วยอายุ, ฝีเท้าไปถึงแพสชั่น

ถูกต้องว่าการที่ทำตัวขาดความเป็นมืออาชีพดึงดันจะย้ายออกจากนิวคาสเซิ่ลให้ได้ก็ทำให้พวกทูน อาร์มี่ส์โมโหที่สุด ยุคนี้นักเตะมีอำนาจเหนือสโมสรไปแล้ว ศักราชนี้จะมาทำตัวสุภาพบุรุษเช่นเกฮีแล้วเป็นไงสุดท้ายก็อดย้าย     

ตลกแต่จริง

โลกนี้มีโมเดลให้ศึกษาในทุกๆแวดวง ในเกมลูกหนังก็เช่นกันที่มีโมเดลให้ก้าวตามมาทุกยุคสมัย ยุคนี้ก็ต้องให้ลิเวอร์พูลเป็นโมเดลที่ควรแก่การเรียนรู้

บางทีมมีปัญหาในสนามบ้าง นอกสนามบ้างหรือทั้งสอง

สำหรับสโมสรที่พร่ำบอกใครต่อใครว่าไม่เคยเดินเดียวดายก็ไม่เคยมีเรื่องให้ปวดหัวมากเท่าทีมอื่น ต่อให้บางทีพวกแฟนบอลเองต่างหากท่ีใจร้อนกันไปเอง

ถลุงเงินไป415ล้านโดยไม่ต้องกลัวผิดกฎการเงินแถมยักไหล่สองทีตามมา...

"อาหารหลักกำลังจะเสิร์ฟออกมาหลังเบรกทีมชาติ"

"ไก่ป่า"



ที่มาของภาพ : getty images
BY : ไก่ป่า
เอกราช นิติสุทธิ์สกุล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport