เกล็นน์ ไฮเซ่น ปัดแมนยู 2 รอบ ก่อนเลือกซบลิเวอร์พูลแข้งสวีดิชหนึ่งเดียว

ถ้าหากหลังจากนี้ไม่มีอะไรผิดพลาดแบบล็อกถล่ม อเล็กซานเดอร์ อิซัค ก็น่าจะได้เปิดตัวเป็นนักเตะคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล เพราะล่าสุดรายงานจากสื่อและนักข่าวทุกสำนักบอกตรงกันว่า "หงส์แดง" บรรลุข้อตกลงกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า สวีเดน จะเป็นหนึ่งในชาติที่มีชื่อเสียงของโลกลูกหนัง แต่เชื่อหรือไม่ว่าในประวัติศาสตร์อันยาวนานของ ลิเวอร์พูล ก่อนหน้านี้เคยมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นนักเตะเชื้อสายสวีดิชและได้เล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของที่นั่น ซึ่งคนๆ นั้นก็คือ เกล็นน์ ไฮเซ่น

เกริ่นก่อนว่า ไฮเซ่น เล่นในตำแหน่งกองหลัง เขาเคยทำผลงานได้โดดเด่นกับ ไอเอฟเค โกเตบอร์ก จนถึงขั้นได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของ สวีเดน ในปี 1983 ด้วย ซึ่งนั่นทำให้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ดึงเขาไปร่วมทีมตั้งแต่ปีนั้นเลย แต่เขามักจะโดนส่งลงเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด โดยเขาถึงขั้นเคยถูกใช้งานเป็นกองหน้าด้วยซ้ำ

2 ปีหลังจากนั้น ไฮเซ่น ก็กลับสู่อ้อมอกของ โกเตบอร์ก และเขากลับมาเล่นได้ยอดเยี่ยมจนทำให้เขาเป็นที่สนใจของ แมนยูไนเต็ด ที่ตอนนั้นมี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เข้ามาทำงานเป็นผู้จัดการทีมแล้ว แต่ว่า ไฮเซ่น ก็บอกปัดข้อเสนอของ "ปีศาจแดง" แล้วย้ายไปอยู่กับ ฟิออเรนติน่า ในปี 1987 เพราะว่าตอนนั้นกุนซือของ "ม่วงมหากาฬ" คือ สเวน-โกรัน อีริคส์สัน อดีตเจ้านายของเขาที่ โกเตบอร์ก

พอถึงปี 1989 แมนยูไนเต็ด ก็พยายามจะดึง ไฮเซ่น อีกครั้ง พวกเขาถึงขั้นเชิญนักเตะไปที่อังกฤษเพื่อพารทัวร์ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และเลี้ยงมื้อเที่ยงให้ด้วย ก่อนที่ ไฮเซ่น จะเดินทางกลับ อิตาลี ซึ่งมีแนวโน้มว่าดีลน่าจะจบลงด้วยดี โดยที่ มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส์ ประธาน แมนยูไนเต็ด ในตอนนั้น ถึงขั้นโทรศัพท์หา เฟอร์กูสัน เพื่อบอกว่า ไฮเซ่น ตกลงที่จะเซ็นสัญญากับทีมแล้วด้วย

ในเวลาต่อมาดีลเกิดติดปัญหานิดหน่อยจนทำให้ เอ็ดเวิร์ดส์ กับ เฟอร์กูสัน เดินทางไปที่ อิตาลี เพื่อที่จะสะสางเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่พอไปถึงเมืองฟลอเรนซ์ พวกเขาก็ได้รับการแจ้งจากเอเยนต์ของ ไฮเซ่น ว่าไม่กี่วันก่อน ไฮเซ่น เซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว

แค่ฤดูกาลแรกกับ ลิเวอร์พูล ไฮเซ่น ก็ทำผลงานได้โดดเด่นจนช่วยให้ทีมได้ทั้งแชมป์ แชริตี้ ชิลด์ ปี 1989 ภายหลังชนะ อาร์เซน่อล 1-0 กับแชมป์ ดิวิชั่น 1 หรือลีกสูงสุดประจำฤดูกาล 1989-90 ไปครอง ขณะที่ในปี 1990 ลิเวอร์พูล ก็ต้องครองแชมป์ แชริตี้ ชิลด์ ร่วมกับ แมนยูไนเต็ด จากการเสมอกัน 1-1

น่าเศร้าที่หลังจากนั้นกราฟของ ไฮเซ่น กับ ลิเวอร์พูล พุ่งดิ่งลง เขาทั้งได้รับบาดเจ็บจนต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน ขณะที่ เซอร์ เคนนี่ ดัลกลิช ที่เคยชอบฝีเท้าของเขาก็ลาออกไปอีก โดยคนที่เข้ามารับงานต่อคือ แกรม ซูเนสส์

ทั้งนี้ ซูเนสส์ มีวิสัยทัศน์ต่างจาก ดัลกลิช จนทำการปรับเปลี่ยนหลายอย่างในทีมและทำให้เขามีปัญหากับนักเตะบางคน ใช่แล้ว ไฮเซ่น คือหนึ่งในนั้น จนสุดท้าย ไฮเซ่น ก็ต้องออกจากทีมในปี 1992 จากการหมดสัญญากัน โดยหลังจากนั้น ไฮเซ่น ก็กลับไปเล่นที่ สวีเดน กับ กาอิส ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 1994

หลังจากนี้คงต้องมารอดูกันว่า อิซัค ในฐานะแข้งชาวสวีดิชคนที่ 2 ที่จะได้เล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล นั้น จะมีเรื่องราวแบบไหนในถิ่น แอนฟิลด์