ลิเวอร์พูล เฉือนเอาชนะ อาร์เซน่อล 1-0 ด้วยฟรีคิกปลิดวิญญาณของ โดมินิค โซบอสไล ทะยานขึ้นนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ก่อนเบรคทีมชาติ
และต่อไปคือสิ่งที่ผมอยากจะบอกแบบพอสังเขป
1. นี่คือการห้ำหั่นกันระหว่างทีมที่เกมรุกทรงประสิทธิภาพมากที่สุดกับทีมที่เกมรับแข็งแกร่งที่สุดในชั่วโมงนี้
แม้น เกมรุกของ ลิเวอร์พูล จะทำอะไรเกมรับของ อาร์เซน่อล ไม่ได้ แต่ 'ดาร์ค อาร์ต' ของ อาร์เซน่อล ก็ทำอะไรเกมรับของ ลิเวอร์พูล ไม่ได้เช่นกัน
สุดท้ายต้องตัดสินด้วยความเป็น 'แมตช์ วินเนอร์' ที่ 'หงส์แดง' มีมากกว่า
2. ไอ้ปืนใหญ่เหนือกว่าในครึ่งแรกนะครับ เมื่อบดบี้ทำลายเกมรุกของเจ้าถิ่นจนทำอะไรไม่ค่อยถนัดนักพลางทำเกมรุกแล้วหาจังหวะจบอย่างได้น้ำได้เนื้อมากกว่าชัดเจน
อย่างไรก็ตาม
ลิเวอร์พูล ไม่มีความผิดพลาด และเล่นเกมรับได้เหนียวแน่น เฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันลูกเตะมุมอันเป็นทีเด็ดของผู้มาเยือน
3. ตลอดทั้งเกม 'ช่างปั้นหม้อ' เอ๊ย...ไม่ใช่ !!! ตลอดทั้งเกม 'เดอะ กันเนอร์ส' ได้ใช้ลูกหากินของตัวเองอย่าง 'เตะมุม' ถึง 8 ครั้ง แต่กลับไม่ระคายผิวของเจ้าบ้านเลย
เห็นการป้องกันลูกเตะมุมของพวกพรี่ๆ เขาแล้ว เข้าใจว่า อาร์เน่อ ชล๊อต คงจะทำการบ้านมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพราะจัดการได้อยู่หมัดทุกจังหวะ
4. ครึ่งหลังกลับกลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่เหนือกว่าบ้าง
บางทีอาจเป็นเพราะลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ใช้พลังงานเข้าบดบี้ในครึ่งแรกไปอย่างหนักหน่วง ครึ่งหลังจึงลดความเข้มข้นลงไปพอสมควร
พลพรรคหงส์แดงจึงเริ่มครองบอลบุกพลางสร้างจังหวะในการทำประตูได้มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เกมรุกของทีมสีหนาทปืนใหญ่แทบจะดับไปเลย
หน้ากึ่งปีก 2 ข้างวูบวาบ แต่ก็ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ หัวหอกตัวเป้าอย่าง วิคตอร์ เยอเคเรส จึงถูกลักพสตัวไปจากเกมโดยปริยาย
5. ฟรีคิกจังหวะนั้น แม้จุดยิงจะอยู่ตรงกลางประตู แต่ก็ถือว่าห่างไกลจากกรอบประตูพอสมควรนะครับ
ระยะประมาณ 32 หลา
โอกาสที่จะยัดลูกเข้าไปซุกตาข่ายมีน้อยมาก
หมายความว่าผู้รับหน้าที่ต้องสังหารได้อย่างบริบูรณ์แบบจริงๆ มันถึงจะพุ่งเข้าไปได้
ในเกมที่มันตื้อๆ ตันๆ ทำอะไรกันไม่ถนัดนัก
ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นว่ามีคุณสมบัติของ 'ผู้ชนะ' มากกว่า อาร์เซน่อล จริงๆ
แม่งเอ๊ย !!!