ลิเวอร์พูล เฉือน อาร์เซน่อล 1-0 จากฟรีคิกสุดสวยของ โดมินิค โซโบซไล ศึกพรีเมียร์ลีก 31 ส.ค. 68 เก็บ 9 แต้มเต็ม ชนะรวด 3 นัด ขึ้นนำจ่าฝูงเดี่ยว
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2025/2026 สัปดาห์ที่ 3 คู่ระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ อาร์เซน่อล ที่สนามแอนฟิลด์ วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคมนี้
ลิเวอร์พูล ยังคงใช้ โดมินิค โซโบซไล ทำหน้าที่แบ็กขวาจำเป็นอีกเกม และได้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กลับมายืนเป็นหัวใจหลักในแดนกลาง ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ยังคงเหมือนเดิม ขณะที่ อาร์เซน่อล ไม่มี บูกาโย่ ซาก้า เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บ จึงเป็นโอกาสชอง โนนี่ มาดูเอเก้ ที่ได้ทำหน้าที่แนวรุกฝั่งขวา ส่วน มาร์ติน โอเดอการ์ด ยังไม่ฟิตเป็นเพียงตัวสำรอง
เริ่มต้นเกมไม่ถึงสิบนาที อาร์เซน่อล จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น เนื่องจาก วิลเลี่ยม ซาลิบา มีปัญหาบาดเจ็บ จำเป็นต้องเปลี่ยนตัว คริสเตียน มอสเกร่า เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งที่เพิ่งดึงตัวมาจาก บาเลนเซีย ช่วงซัมเมอร์นี้ ลงมาทำหน้าที่แทน
ผ่านไป 20 นาทีกว่าๆ "ปืนใหญ่" มีลุ้นได้ประตูจากจังหวะเตะมุม และ โนนี่ มาดูเอเก้ ได้โอกาสทองซัดไกลบริเวณกรอบเขตโทษบอลพุ่งตรงดิ่งไปที่หน้าประตู แต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ปฏิกิริยารวดเร็วพุ่งปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด
ทีมเยือนมีโอกาสทำเกมบุกและกดดันแนวรับของ "หงส์แดง" ได้มากกว่า แต่ไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ขณะที่เจ้าบ้านพยายามรอจังหวะ และสวนกลับแต่บอลไม่ค่อยไปถึงแนวรุก จบครึ่งแรกเสมอกันแบบไร้สกอร์
ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล 0-0 อาร์เซน่อล
ครึ่งหลังเกมยังออกแนวอึดอัดเหมือนเดิม โดย ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้ครองเกมมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กับแนวรับของ อาร์เซน่อล เลย โดยจังหวะหวาดเสียวที่สุดคงหนีไม่พ้นโอกาสซ้ำของ อูโก้ เอกิติเก้ ที่เข้าประตูไป แต่วีเออาร์เช็ค โกดี้ คักโป ยืนล้ำหน้าไปก่อน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเกม ทำให้ไม่ได้ประตู
ลิเวอร์พูล ได้ประตูที่รอคอยจนได้จากจังหวะสังหารฟรีคิกระยะ 30 หลา โดมินิค โซโบซไล สวมบทเพชฌฆาตซัดบอลโค้งข้ามกำแพงมนุษย์เสียบเสาเข้าประตูชนิดที่ ดาบิด ราย่า ไม่สามารถพุ่งปัดได้ ส่งให้ "หงส์แดง" ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 82
หลังจากเจ้าบ้านได้ประตู อาร์เซน่อล ครองเกมได้ตลอด แต่ไม่สามารถทำอะไรแนวรับของ ลิเวอร์พูล ได้ จบเกมเจ้าบ้านคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 1-0 และเป็นทีมเดียวที่ชนะรวด 3 เกมแรก มี 9 คะแนนเต็มขึ้นไปรั้งจ่าฝูง
รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; โดมินิค โซโบซไล, อิบราฮิม่า โกนาเต้ (โจ โกเมซ น. 79), เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (กัปตันทีม), มิลอช เคอร์เคซ ; อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (เคอร์ติส โจนส์ น. 61), ไรอัน กราเฟนแบร์ก, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (วาตารุ เอ็นโด น.88) , โกดี้ คักโป ; อูโก้ เอกิติเก้ (เฟเดริโก เคียซ่า น.79)
อาร์เซน่อล : ดาบิด ราย่า ; เจอร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรียล มากันเญส (กัปตันทีม), ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ; มิเกล เมรีโน่ (มาร์ติน โอเดอการ์ด น. 70), มาร์ติน ซูบีเมนดี้, เดแคลน ไรซ์ ; โนนี่ มาดูเอเก้ (แม็กซ์ ดาวแมนน์ น. 89) , วิคตอร์ โยเคเรส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (เอเบเรชี่ เอเซ่ น. 70)