ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล สองทีมอันดับท็อปทูจากซีซั่นก่อน จะโคจรมาปะทะกันตั้งแต่นัดที่ 3 ของซีซั่น และเมื่อผ่านไป 2 เกมแรก ทั้งคู่ต่างก็เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด
สถิติที่ออกมา จากการพบกันช่วงหลังคือ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเก็บชัยเหนือ อาร์เซน่อล ได้เลยใน 6 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุด (เสมอ 4 แพ้ 2)
ซึ่งถือเป็นช่วงที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007-2011 ที่เคยติดหล่มไม่ชนะ "ปืนใหญ่" ถึง 8 นัดติดต่อกัน ยิ่งไปกว่านั้น 3 นัดหลังที่ แอนฟิลด์ จบด้วยผลเสมอทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อล ก็ไม่เคยบุกมาชนะที่นี่เลยตลอด 12 เกมหลัง (เสมอ 5 แพ้ 7) นับตั้งแต่ชัยชนะ 2-0 เมื่อกันยายน 2012 โดยตอนนั้น มิเกล อาร์เตต้า ยังสวมปลอกแขนลงบัญชาการแดนกลางให้กับ "เดอะ กันเนอร์ส"
ใน พรีเมียร์ลีก มีแค่คู่ ลิเวอร์พูล-สเปอร์ส เท่านั้นที่มีประตูรวมกันมากกว่าการเจอกันระหว่าง ลิเวอร์พูล-อาร์เซน่อล (206 กับ 198)
และนับตั้งแต่ฤดูกาล 2015/16 เป็นต้นมา นี่คือคู่ที่ยิงกันมากที่สุดในลีกมากสุด (78 ลูก จาก 20 เกม) แล้วทุกครั้งที่เจอกัน มักมีเรื่องราวดราม่ากับประตูที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อาร์เซน่อล ออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ได้อย่างแข็งแกร่ง ชนะสองนัดแรกโดยไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว ซึ่งในรอบ 20 ฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาเพิ่งทำแบบนี้ได้เพียงครั้งเดียวคือปี 2022/23
และถ้าย้อนกลับไปหาโอกาสที่ อาร์เซน่อล จะชนะสามนัดแรกแบบไม่เสียประตูเลย ก็ต้องถอยไปถึงปี 1924-25 เลยทีเดียว
อีกหนึ่งอาวุธสำคัญของทีมอาร์เตต้า คือลูกเตะมุม เพราะนับตั้งแต่ฤดูกาล 2023/24 พวกเขายิงจากลูกคอร์เนอร์ไปแล้วถึง 33 ลูก มากกว่าทุกทีมในบิ๊กไฟว์ลีกยุโรป และยิงจากลูกเตะมุมได้ติดต่อกันมาแล้ว 3 เกม
หากทำได้อีกนัดก็จะสร้างสถิติใหม่ทันที
ฝั่ง ลิเวอร์พูล เกมนี้คือโอกาสสำคัญในการสร้างสถิติใหม่ของสโมสร
หากพวกเขายิงได้ จะทำให้ทุบสถิติการทำประตูต่อเนื่องในลีกสูงสุดเป็น 37 นัดติดต่อกัน ปัจจุบันพวกเขายิงมาแล้ว 36 นัดติดต่อกัน เทียบเท่าสถิติเดิมเมื่อปี 2019/2020
ภายใต้การคุมทีมของเฮดโค้ชอาร์เน่อ ลิเวอร์พูล ยิงได้ถึง 98% ของเกมทั้งหมด (39 จาก 40 นัด) นี่คือสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก สำหรับผู้จัดการทีมคนหนึ่งเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ความหวังใหม่อย่าง ริโอ เอ็นกูโมฮา ก็เพิ่งจารึกชื่อตัวเองบนหน้าประวัติศาสตร์ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับสองที่ทำประตูได้ตั้งแต่เกมเปิดตัวพรีเมียร์ลีก (16 ปี 361 วัน)
หากพูดถึงเกมนี้ คงหนีไม่พ้นการพูดถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เขายิงใส่ อาร์เซน่อล ไปแล้ว 11 ลูกบนเวที พรีเมียร์ลีก มีเพียงแฮร์รี่ เคน (14) และเวย์น รูนี่ย์ (12) ที่ยิงใส่ "ปืนใหญ่" มากกว่า
และในจำนวนนี้ หนึ่งประตูเกิดขึ้นสมัยอยู่ เชลซี ส่วนอีก 10 ลูกสวมเสื้อหงส์แดง ซึ่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ก็ทำใส่ อาร์เซน่อล 11 ลูกเช่นกัน
ขณะที่ อาร์เซน่อล ได้เห็นกองหลังอย่าง เยอร์เรียน ทิมเบอร์ มีส่วนร่วมกับประตูถึง 5 ครั้งในการออกสตาร์ต 5 เกมหลัง (2 ประตู 3 แอสซิสต์)
และในเกมถล่ม ลีดส์ 5-0 เขายังกลายเป็นกองหลังคนแรกที่ยิงสองประตูพร้อมทำแอสซิสต์ในเกม พรีเมียร์ลีก เกมเดียว นับตั้งแต่ มาร์ติน สเคอร์เทล เคยทำไว้กับ ลิเวอร์พูล ตอนเจอ คาร์ดิฟฟ์ เมื่อเดือนมีนาคมปี 2014
#HOSSALONSO