แค่ไปดู "กรีลิช" ก็คุ้มแล้ว

เอฟเวอร์ตันไม่ได้เพิ่งเปิดสนามใหม่ภายใต้ชื่อตามสปอนเซอร์ 'Hill Dickinson Stadium' ให้แฟนบอลเข้าครั้งแรก ก่อนนี้เคยมีเกมทดสอบมาแล้วรวม3ครั้ง หนล่าสุดก็แมตช์อุ่นเครื่องกับโรม่าเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว

ก็ตามประโยคข้างต้นจากแฟนบอลที่เคยถือตั๋วปีที่ กูดิสัน พาร์ค มา 20ปี พูดไว้ อารมณ์มันไม่เหมือนกันหรอกเพราะหนนี้เป็นเกมพรีเมียร์ลีก มันเหมือนการเริ่มต้นยุคใหม่ของสโมสรกับการตัดสินใจออกบ้านหลังเก่าที่อยู่มานานถึง 133 ปี

ผมเองเคยสะพายเป้มาสัมผัสบ้านหลังใหม่ติดริมแม่น้ำนี้แล้วสองครั้งแต่ก็คงเก็บซ่อนความตื่นเต้นไม่ได้ 

เอาตั้งแต่ตอนนักเตะวิ่งลงมาวอร์ม ตอนนั้นแฟนบอลก็ค่อยๆทยอยเข้าสนาม วินาทีที่ดนตรีประจำสโมสร Z Cars แผดลั่นอันเป็นสัญญาณว่าผู้เล่นสองทีมจะเดินออกจากอุโมงค์ท่ามกลางพลุควันสีน้ำเงินที่ถูกจุดลอยขึ้นฟ้าก็ทำให้ใจยิ่งสั่น เสียงโห่ร้องจากคนกว่าห้าหมื่นชีวิตกับการเริ่มต้นยุคใหม่

นับรวมได้8ปีครับนับแต่การประกาศถึงแผนสร้างสนามใหม่ตรงพื้นที่ซึ่งรกร้างมาเก่าก่อน ในเวลานั้นทีมก็ต้องฝ่าฟันอะไรหลายอย่าง ตั้งแต่ปีโควิดระบาด, เจอตัดแต้มอย่างไม่เป็นธรรม, แฟนรุกฮือประท้วงบอร์ดบริหารตลอดจนต้องเคยดิ้นรนหนีตายในวันสุดท้ายมาแล้ว

ใครที่ไม่ได้ตามข่าวก็คงคิดว่ามันก็แค่ใช้เงินสร้างก็จบ

ข้อมูลจาก The Athletic สื่อดังศักราชนี้ระบุไว้ว่าเมื่อบ่ายวันอาทิตย์มีการวัดค่าความดังในสนามสูงสุดถึง 115 เดซิเบลซึ่งก็เกิดขึ้นตอนที่อิลมัน เอ็นดายสอดมากระทุ้งประตู 1-0 ในนาที23 วิเคราะห์จากตัวเลขนี้แล้วก็ต้องให้เครดิตผู้ออกแบบสนามที่ไม่ได้สูญเสียบรรยากาศเก่าๆสมัยใช้กูดิสัน

ครับ เอฟเวอร์ตันประเดิมสวยด้วยชัยชนะ

มีจุดที่น่าหยิบมาพูดถึงหลายข้อเลย อย่างแรกพวกเขาไม่ได้ออกสตาร์ทเก็บสามแต้มเร็วแบบนี้มานับแต่ปี2021ซึ่งก็บังเอิญด้วยว่าไบร์ทตัน ก็เป็นคู่ต่อสู้ทีมแรกในบ้านเหมือนซีซั่นที่แล้ว จะต่างก็ตรงผลการแข่งขัน ปีที่แล้วเละคารัง0-3

เดวิด มอยส์ไม่ใช่โค้ชที่เพอร์เฟกต์แต่ชายเลือดสกอตคนนี้มีบางสิ่งบางอย่างที่ราวกับว่าเกิดมาเพื่อเอฟเวอร์ตัน ฟุตบอล คลับ

บนใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเขาก็ยังให้เกียรติคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในอารีน่าที่จุคนได้52,769ในวันรูดม่าน"ผมรู้ว่ามีบางคนที่มีส่วนกับสนามนี้ที่มาไม่ได้ ผมอยากจะขอบคุณพวกเขาจากใจที่ทำให้มันเกิดขึ้น นี่คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของทีมไปอีกร้อยปี"

ขณะเดียวกันก็ยังย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นด้วยว่าตอนนี้ทีมมีสนามที่สุดวิเศษแล้ว งานต่อไปซึ่งก็เป็นงานของเขาได้แก่"ต่อยอดทีมที่มีให้วิเศษตาม"

ผมเชื่อว่าเอฟเวอร์โตเนี่ยนทุกคนก็คาดหวังจะได้เห็นสิ่งนั้น อย่างน้อยเมื่อวันอาทิตย์ก็มีบางหลักฐานให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย ก็ใครบ้างจะนั่งก้นติดเบาะได้ในทุกครั้งที่บอลมาถึงอุ้งสตั๊ดของแจ็ค กรีลิช

กรีลิชทำให้เกมของเอฟเวอร์ตันเปลี่ยนชัดเจน

ด้วยคลาส ด้วยทักษะและด้วยความรอบจัดก็ช่วยทำให้ทีมได้สองประตูจากสองแอสซิตส์ที่สะท้อนว่าเจ้าตัวกลับมามีความสุขอีกครั้งในการเล่นบอล

ลูกแรกกระชากหนีแบ็กขวาไบร์ทตันเข้ามาตบด้วยซ้ายเข้าจุดนับพบให้เอ็นดาย

ลูกสองจับบอลลงอย่างนิ่มนวลดึงผู้เล่นอีกฝั่งเข้าหาสองคนจนทำให้เจมส์ การ์เนอร์ที่รับบทแบ็กซ้ายจำเป็นมีทั้งเวลากับพื้นที่มากพอตะบันเสียบโคนเสาสุดสวย

ปีที่แล้วเอฟเวอร์ตันมีแจ็ค แฮร์ริสัน ปีนี้มีกรีลิช นี่คือความแตกต่างที่ไม่ต้องอธิบายใดๆอีกว่าทำไมมอยส์กำลังจะยกระดับทีมตามที่ได้ลั่นวาจา

มันก็ไม่ใช่แค่การสร้างโอกาสเกมรุก ในเกมรับก็ยังเห็นอดีตกัปตันแอสตัน วิลล่าวิ่งลงมาช่วยอย่างขยันขันแข็ง จะแปลกใจตรงไหนที่ทั่วทั้งสนามลุกยืนปรบมือให้ตอนถูกเปลี่ยนออกช่วงท้ายเกม

การเสริมทัพก็ยังไม่หยุดแค่ตรงนี้ ต่อให้เซ็นเข้ามารวมแล้ว6คนก็ตาม รายต่อไปที่กำลังเข้ามาขูเสื้อสีน้ำเงินในเร็วๆนี้ก็จะเป็นไทเลอร์ ดิบลิ้ง ปีกวัย19จากเซาธ์แฮมป์ตัน ขณะเดียวกันก็พยายามติดต่อหามิดฟิลด์ตัวกลางกับผู้เล่นในแดนหลังโดยแบ็กขวาเป็นเป้าหมายหลักมาอีก

มันคือการล้างไพ่ของมอยส์จากชุดที่ได้จากฌอน ไดซ์มากลางฤดูกาลก่อน

ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป ภาษาฝรั่งก็step by stepแต่ตอนนี้เอาแค่ตีตั๋วมาดูเอฟเวอร์ตันในสนามใหม่และดูกรีลิชวาดลวดลายในแบบกรีลิชที่คุ้นชินก็คุ้มค่าแล้ว

"ไก่ป่า"......