แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประเดิมพรีเมียร์ลีก 2025/26 ด้วยความพ่ายแพ้ต่อ อาร์เซน่อล 0-1 ทั้งที่ลงทุนเสริมทัพมหาศาล แต่ยังเจอ 3 ปัญหาหลักทั้งเรื่องนายทวาร การจบสกอร์ และแผงกองกลาง ที่ รูเบน อโมริม ต้องเร่งหาทางแก้ไข ก่อนวิกฤติลุกลามทั้งซีซั่น
สาวก "เร้ด อาร์มี่" อาจจะมองในเชิงบวกแม้ทีมรักจะแพ้ แต่ฟอร์มการเล่นดีขึ้นกว่าเดิม สามารถไล่กดดัน และสร้างโอกาสในการยิงประตูถึง 22 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากขาดความเฉียบคม และโดนฟอร์มหนึบของ ดาบิด ราย่า โชว์ซูเปอร์เซฟหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีหลายเรื่อง และที่เห็นได้อย่างชัดเจนในเกมแพ้ "ปืนใหญ่" มีอยู่ 3 ประเด็น ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมจำเป็นต้องแก้ไขโดยด่วน ไม่งั้นอนาคตของเขาอาจจะอยู่ไม่ครบสัญญาก็ได้
1. นายทวารมือ 1 ต้องรีบแก้ไข
แมนฯ ยูฯ มีข่าวพัวพันกับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า และ ดาบิด เด เคอา ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แน่นอนว่าพวกเขาจำเป็นต้องเซ็นสัญญาผู้รักษาประตูคนใหม่ก่อนตลาดพ่อค้าแข้งปิดในวันที่ 1 กันยายนนี้
อโมริม ค่อนข้างให้ความเชื่อมั่นในตัวของ อ็องเดร โอนาน่า แม้แฟนบอลส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่เขายังคงพิจารณา นายทวารชาวแคเมอรูน ว่าพร้อมที่จะเป็นมือ 1 ของทัพ "ปีศาจแดง"
โกลทีมชาติแคเมอรูน ไม่ได้ลงเล่นในช่วงปรีซีซั่นทุกแมตช์เนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขา ดังนั้น อัลตาย บายินดีร์ ซึ่งได้ลงเฝ้าเสาตลอดในช่วงอุ่นเครื่อง จึงได้รับโอกาสลงสนาม สุดท้ายเขาเป็นคนที่ทำพลาดในเกมเปิดซีซั่น และนำไปสู่ความพ่ายแพ้ของทีม
นายทวารชาวตุรกี โดน วิลเลี่ยม ซาลิบา กดดันจนทำให้ชกบอลไม่ดีและไปเข้าทาง ริคคาร์โด คาลาฟิออรี่ ที่โหม่งสบายๆ เข้าประตู ความจริงแล้ว บายินดีร์ มีปัญหาในการรับมือกับลูกตั้งเตะมาก่อนหน้านี้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
ดังนั้น อโมริม กับ เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการกีฬา มีเวลา 2 สัปดาห์ที่จะรีบเร่งแก้ไขปัญหานี้ ก่อนที่ตลาดจะปิด ไม่งั้น แมนฯ ยูไนเต็ด อาจต้องเจอปัญหานี้ตามหลอกหลานอีกหลายแมตช์
2. ไร้ประตูอีกแล้ว
ปัญหาใหญ่อีกเรื่องที่ต้องรีบแก้ไขนั่นก็คือการจบสกอร์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงได้แค่ 44 ประตูเท่านั้น และแมตช์ประเดิมฤดูกาล 2025/2026 พวกเขาก็ยิงประตูไม่ได้อีกครั้ง
"ปีศาจแดง" ทุ่มเงินไปกว่า 200 ล้านปอนด์ (ราว 8,800 ล้านบาท) ในการเสริมแนวรุกช่วงซัมเมอร์นี้ มีสัญญาณที่น่าพอใจจากผลงานของ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ และ มาเตอุส คุนญ่า แต่ เบนจามิน เซสโก กองหน้าค่าตัว 74 ล้านปอนด์ (ราว 3,256 ล้านบาท) รายใหม่ ต้องนั่งสำรองจนถึงนาทีที่ 65 จึงได้ลงสนาม
มีบางจังหวะที่ "ปีศาจแดง" เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ดันไม่มีใครอยู่ในตำแหน่งที่จะจบสกอร์ได้ อย่างไรก็ตามการที่ทีมมี เซสโก้ ทำหน้าที่หน้าเป้าธรรมชาติน่าจะทำให้ผลงานการจบสกอร์ของทีมดีขึ้นในอนาคต
ดูเหมือนเป็นการตัดสินใจที่แปลกที่ปล่อยให้ เซสโก้ นั่งสำรองนานขนาดนั้น แต่ดูเหมือนว่าแฟนบอลเห็นด้วย เพราะเขาได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลามเมื่อเดินลงสนาม มีโอกาสจบสกอร์ช่วงท้ายครึ่งหลัง 2-3 ครั้งแต่พลาดไป กระนั้นกองหน้าชาวสโลวีเนีย ก็แสดงให้เห็นว่าเขามีความอันตรายต่อแนวรับคู่แข่ง
3. แผงกองกลางต้องปรับปรุง
หลังจากถอดใจไม่คว้าตัว คาร์ลอส บาเลบา กองกลางตัวเก่ง ไบรท์ตัน แอนด์ โฮล อัลเบี้ยน ในช่วงซัมเมอร์นี้ เนื่องจากโดนโก่งค่าตัวแพงลิบลิ่ว ทำให้ทีมต้องมีการเล็งมิดฟิลด์ใหม่เพื่อเข้ามาช่วยทำให้แผงกองกลางของ "ผีแดง" แข็งแกร่งขึ้น
ตอนนี้มีรายงานว่า แมนฯ ยูฯ สนใจอยากได้ตัว มอร์เตน ยูลมันด์ มิดฟิลด์สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ อดัม วาร์ตัน กองกลางคริสตัล พาเลซ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้ใครสักคนมาร่วมทัพก็ได้ และงานนี้แฟนผีโปรเจกต์คงจะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับตัวเลือกในแผงมิดฟิลด์ที่มีค่อนข้างจำกัด
กาเซมีโร่ อาจจะทำผลงานได้ดีในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่กลับเล่นได้น่าผิดหวังในเกมพรีเมียร์ลีก ขณะที่ มานูเอล อูการ์เต้ ฟอร์มก็ไม่ค่อนน่าประทับใจเท่าไหร่ ดังนั้นนี่เป็นอีกจุดที่ อโมริม จำเป็นต้องรีบปรับแก้เป็นการด่วน
จากผลงานในเกมเปิดซีซั่นเชื่อว่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" คงรู้สึกตื่นเต้นกับทีมรักของพวกเขา แต่สิ่งสำคัญก็คือหากแดนกลางยังไม่แข็งแกร่งแบบนี้ แมนฯ ยูฯ อาจต้องเจอกับเรื่องน่าผิดหวังก็ได้
TOMMY TEE.