แมนฯ ยูไนเต็ด ยุคปรับปรุงใหม่ ประเดิมศึกฟาดแข้งพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/26 ด้วยการ 'คาบ้าน' หลังถูก อาร์เซน่อล บุกมาเฉือนชัยหวุดหวิด 1-0 และต่อไปคือสิ่งที่ผมอยากจะบอก
1. ตอนเห็นรายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริง 'ปีศาจแดง' ขอเรียนตามตรงว่าแอบผิดหวังนิดหน่อย
ประการหนึ่งคือผมคิดว่าการจัดทีมโดยไม่มีกองหน้าตัวเป้า มันไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่
อีกประการหนึ่งคือ อาหมัด ควรจะได้ลงตัวจริงในตำแหน่งวิง-แบ็คขวา ก่อน ดิโอโก้ ดาโลต์
แต่ก็เข้าใจว่าผู้เป็นกุนซืออย่าง รูเบน อโมริม ที่คุมทีมฝึกซ้อมย่อมรู้ดี และเห็นอะไรมากกว่าแฟนบอลอย่างเราๆ ท่านๆ
2. ผิดหวังในการจัดทีมก็จริง แต่ก็ผิดคาดอย่างแรงในรูปเกมที่บังเกิด
แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลพลางทำเกมรุกได้มากกว่า อาร์เซน่อล เฉยเลย !!!
นอกจากนี้ยังแสดงออกถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเท รวมถึงเล่นด้วยความฮึกหาญ พวกเขาขึ้นไปบีบสูงแล้วบดบี้เข้าใส่จนผู้มาเยือนต่อบอลทำชิ่งกันไม่ถนัด
บอลจังหวะ 2 และจังหวะเก็บตกก็ทำได้ดีกว่า
ที่สำคัญคือเล่นกันเป็นรูปเป็นทรง ไม่สะเปะสะปะต่างคนต่างเล่นเหมือนเก่า
ไอ้ฟอร์มที่เห็นในช่วงพรี-ซีซั่น มันไม่ใช่ภาพลวงตา
3. เกมรับก็ทำได้ไฉไลเป็นบ้า เซ็นเตอร์แบ็ค 3 ตัว ไม่มีข้อผิดพลาดอะไร แถมตัดบอลในจังหวะสำคัญของ อาร์เซน่อล ได้หมดจด
เฉพาะอย่างยิ่ง มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ ที่หยุดอันตรายจากคู่แข่งได้ตลอด
ปัญหาคือดันมาเสียประตูง่ายๆ จากลูกเตะมุมอีกแล้ว
แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาในการป้องกันลูกเตะมุมมาแต่ไหนแต่ไร แถมแก้ไม่เคยตก พวกเขาจึงเสียประตูจากลูกเตะมุมเป็นประจำ
อันดับแรกคือมักจะเสียเตะมุมง่ายไปหน่อย
ประตูที่เสียให้ อาร์เซน่อล ก็เช่นกัน มันเกิดจากการเล่นที่ไม่ละเอียดของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จนนำมาซึ่งการเสียลูกเตะมุม
ต่อมาคือความอ่อนแอ และไม่เก๋าเกมของผู้รักษาประตูในวงเล็บว่า (อีกแล้วครับท่าน)
การเบียดๆ ดันๆ รบกวนนายทวารเป็นกลยุทธ์ของทีมสีหนาทปืนใหญ่เขาอยู่แล้ว แทนที่จะเบียดๆ ดันๆ กระแทกกระทั้นคืนไปกลับปล่อยให้เขากระทำอยู่ฝ่ายเดียวซะอย่างนั้น
อัลตาย บายินดีร์ ควรจะแอ็คทีฟมากกว่านี้ หาทางออกมาชกบอลให้ได้ ไม่ใช่เอามือแปะบอล อห
หรือไม่ก็ต้องวัดใจกับผู้ตัดสินตอนโดนคู่แข่งกระแทก ด้วยการทิ้งตัวลงไปดิ้นเป็นปลาชะโดโดนทุบหัวไปเลย
คิดแล้วก็โมโห
4. เกมรุก และการทะลวงตาข่ายก็ยังไม่ดุดันพอที่จะทำประตูทีมที่เกมรับแข็งแกร่งอย่าง อาร์เซน่อล นะครับ - ขอโทษ
พลพรรคปีศาจแดงมีโอกาสทำประตู ทั้งหมดถึง 22 ครั้ง ตรงกรอบ 7 ครั้ง แต่มีจังหวะที่ใกล้เคียงกับการเป็นประตูแค่ไม่กี่ครั้งเอง
การไม่ใช้กองหน้าตัวเป้าขนานแท้เป็นตัวค้ำยิ่งทำให้กองหลังคู่แข่งเล่นง่าย แล้วกว่าจะส่งหัวหอกอย่าง เบนยามิน เชชโก้ ลงมาก็กลับรอถึงนาทีที่ 65 ทั้งที่ควรส่งลงมาตั้งแต่ต้นครึ่งหลังเลย
5. มองโลกในแง่ดี ภาพรวมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูดีขึ้นจริง ไม่อิงนิยาย
การแก้เพรสส์ การรับส่งบอลทั้งสั้นและยาว สปีดเกมก็รวดเร็วขึ้น มิหนำยังครองบอล 61.2% โอกาสยิงสูงถึง 22 ครั้ง กับคู่เล่นที่น่าขามเกรง
แต่ฟุตบอลตัดสินที่การทำประตู
ลูกทีมของ รูเบน อโมริม เสียประตูง่ายๆ โดยอาจบอกได้ว่าเสียโง่ๆ ด้วย เพราะความไม่ละเอียดเพียงพอของตัวเอง
ส่วนเกมรุกแม้จะดูดุดันขึ้นจากการมาของ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ กับ มาเตอุส คุนญ่า ทว่าสุดท้ายก็ทำลายเกมรับที่เหนียวแน่นของคู่แข่งไม่สำเร็จ
ไม่ต้องไปโทษผู้ตัดสินหรอกครับ โทษตัวเองนี่แหละ
คิดแล้วก็น่าเสียดายจริงๆ แม่งเอ๊ยยยย !!!
"บอ.บู๋"