10 นัดแรกรู้เรื่อง!? ซีซั่นชี้ชะตา อโมริม กับ แมนยู

1. เป้าหมายในฤดูกาลนี้ อย่างต่ำที่สุด คือต้องกลับไปติด 'ท็อป 6' เพียงสถานเดียวเท่านั้น

เพราะการระเบิดท้องพระคลังตัวเองจนกระจุยกระจายไปราวๆ 200 ล้านปอนด์ เพื่อยกเครื่องแผนกเกมรุกใหม่ทั้ง มาเตอุส คุนญ่า, ไบรอัน เอ็มเบอโม่ และ เบนยามิน เชชโก้ 

ลงทุนมหาศาลขนาดนี้ หากทำเป็นเจี๋ยมเจี้ยม หวังต่ำกว่าอันดับ 6 ของตาราง มันก็ทุเรศเกินไปหน่อย

2. ฤดูกาลที่แล้ว เอริค เทน ฮาก ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังคุมทีมผ่านไปแค่ 9 นัดเท่านั้น

ช่วง 10 นัดแรกของซีซั่นนี้ หาก รูเบน อโมริม ยังทำให้ลูกทีมของตัวเองโชว์ฟอร์มไฉไลขึ้นไม่ได้ หรือมีผลงานอันน่าละเหี่ยใจ ขอบอกว่าผนังตูดร้อนผะผ่าวอย่างแน่นอน

สำนักสถิติลูกหนังแห่งชาติอย่าง Opta ประเมินว่าพลพรรคปีศาจแดง คือทีมที่เจอโปรแกรม 10 นัดแรกอันระห่ำโคตรโหดหินที่สุด

แค่นัดแรกก็ต้อง อาร์เซน่อล แถมยังต้องไปเยือน แมนซิตี้ ต่อด้วยเปิดบ้านเจอแชมป์โลกอย่าง เชลซี

ศึกแดงเดือดขบวนแรก ต้องบุกไปเยือน แอนฟิลด์ ในนัดที่ 8 จากนั้นเปิดบ้านปะทะ ไบรท์ตัน ก่อนบุกเยือน ฟอเรสต์ ในเกมที่ 10

เจ๊ตเข้...อะไรมันจะหนักขนาดนั้น

3. จุดที่ แมนยูไนเต็ด ได้เปรียบทีมระดับพญายักษ์ทีมอื่นในฤดูกาลนี้คือการไม่ต้องไปเล่นในถ้วยยุโรป

เมื่อคิวแข้งน้อยลง โดยไม่ต้องเดินทาง พวกเขาสามารถฝึกซ้อมและเตรียมทีมได้แบบเต็มพิกัด ปัญหาบาดเจ็บก็น่าจะลดน้อยลง แถมผู้เป็นกุนซือก็ไม่ต้องคิดมาก สามารถใช้ 11 ตัวจริงชุดที่ดีที่สุดลงสนามอย่างต่อเนื่องได้ทุกสัปดาห์ 

ถ้ามีเวลาขนาดนี้แล้วยังต่างคนต่างเล่น สะเปะสะปะก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

4. ตัวอย่างจากหลายทีมที่ไม่ต้องเล่นเกมยุโรป มักทำผลงานในพรีเมียร์ลีกได้สะเด่าขึ้น

ตอน เลสเตอร์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2015-16 จิ้งจอกสยามไม่ต้องไปเล่นถ้วยยุโรป

เชลซี ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ทะยานคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2016-17 โดยไม่เปลืองพลังงานในถ้วยยุโรปเช่นกัน 

ลิเวอร์พูล ใช้ซีซั่น 2016-17 ที่ไม่ได้เข้าร่วมการศึกระดับทวีป ช่วยให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีเวลาสร้างทีมจนกลายเป็นโคตรทีมในเวลาต่อมา

ขณะที่ 'เดอะ กันเนอร์ส' จากการทำงานของ มิเกล อาร์เตต้า ก่อนลุ้นแชมป์ 3 ฤดูกาลล่าสุด พวกเขาใช้ฤดูกาล 2021-22 ที่ไม่ได้เตะฟุตบอลยุโรปสร้างระบบที่ลงตัว 

นิวคาสเซิ่ล เมื่อไม่ได้เล่นถ้วยยุโรป พวกเขาติดอันดับ 4 ในฤดูกาล 2022/23 และติดอันดับ 5 ในฤดูกาล 2024/25

ส่วนฤดูกาล 2023/24 ที่ไปเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก 'สาลิกาดง' หลุดมาเป็นอันดับ 7 ในพรีเมียร์ลีก

5.ผลงานอันแสนห่วยเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มันอาจอ้างได้ว่า รูเบน อโมริม ต้องมาสานต่อเศษซากที่ เอริค เทน ฮาก ทิ้งเอาไว้

ทว่า ณ นาทีนี้ พี่แกได้นักเตะใหม่ตามสเป๊คที่ต้องการ 5 คน แถมยังได้ลองผิดลองถูกในช่วงพรี-ซีซั่นแบบเต็มๆ

มิเท่านั้น

นิวคาสเซิ่ล, แอสตัน วิลล่า, ฟอเรสต์ หรือ สเปอร์ส ก็ไม่ได้ใช้เงินเสริมทัพมากกว่า แมนยูไนเต็ด

ขืนจบต่ำกว่าอันดับ 6 ของตารางพรีเมียร์ลีก แสดงว่าผู้จัดการทีมคุณภาพบัดซบแล้วล่ะมึง