เปลี่ยนตัวจุดเปลี่ยน! สิ่งที่อยากบอกหลัง ลิเวอร์พูล บดชนะ บอร์นมัธ

เปลี่ยนตัวจุดเปลี่ยน! สิ่งที่อยากบอกหลัง ลิเวอร์พูล บดชนะ บอร์นมัธ
แชมป์เก่าอย่าง ลิเวอร์พูล เปิดฉากพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ที่ แอนฟิลด์ ด้วยการอัด บอร์นมัธ 4-2 และต่อไปคือสิ่งที่ผมอยากจะบอก

1. ผู้มาเยือนทำให้ผิดคาดเล็กน้อย เพราะด้วยสภาพทีมที่ไม่ค่อยสมประกอบ ตอนแรกจึงคิดว่าพวกเขาจะมาตั้งรับในแดน และอุดประตู

ปรากฏว่า บอร์นมัธ ยังยึดมั่นในสไตล์ของตัวเอง คือเข้าบดบี้ตรงกลางอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง ไม่ได้ถอยมาตั้งรับแบบรถบัส ก่อนหาจังหวะบุกแบบฉาบฉวย

2. เจ้าบ้านครองบอลบุกมากกว่าพลางหาโอกาสทะลวงตาข่ายได้มากกว่าตามเชิงนั่นแหละ

แต่จังหวะเข้าทำยังขาดๆ เกินๆ และเสียในจังหวะสุดท้ายเสมอ บทจะได้ประตูดันมาได้แบบดื้อๆ ซะงั้น

ประตูนำ 1-0 มาจากจังหวะที่เป็นใจ เมื่อบอลกระเด้งกระดอนมาให้ อูโก้ เอกิติเก้ หลุดเข้าไปสับไก

ต่อเมื่อชิงจังหวะทิ้งห่างเป็น 2-0 ในช่วงต้นครึ่งหลังก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

3.ปัญหามาเกิดตอนเปลี่ยนตัวครั้งแรก

เมื่อ วาตารุ เอ็นโด ถูกส่งลงมาเป็นแบ็คขวา 

จังหวะถูกตีไข่แตก นักเตะพันธุ์ปลาดิบไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดนะครับ ทว่าหลังจากนั้นต่างหากที่โดนผู้มาเยือนเจาะใส่จนปั่นป่วนจน อาร์เนอ ชล๊อต ต้องเปลี่ยนตัวอีกครั้ง ด้วยการส่ง โจ โกเมซ ลงมาเป็นแบ็คขวา

ทว่าก็ไม่รอดอยู่ดี !!!

ทั้ง 2 ประตูที่ ลิเวอร์พูล โดน จุดเริ่มต้นเหมือนกันคือมาจากการเสียบอลหน้ากรอบเขตโทษของคู่แข่ง และต้องชมจังหวะสวนของ บอร์นมัธ ที่ทำได้เด็ดขาดดีนักแล

4. กรีดตูดสาบาน !!!

ตอนสกอร์ 2-2 ผมพูดกับตัวเองในใจว่า...ตีเสมอเร็วเกินไป เพราะเหลือเวลาอีกประมาณ 15 นาที ซึ่งมันมากพอที่จะทำให้พวกพรี่ๆ เขากลับมา

บ่อยครั้งที่ 'แชมป์เก่า' ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้วสามารถเอาตัวรอดได้สำเร็จ

นักเตะหงส์แดงที่เขี้ยวยาวลากดินมีความชำนิชำนาญในเรื่องแบบนี้นะครับ แถมแสดงให้เห็นเป็นประจำ

หลังถูกตีเสมอ พวกเขาก็เร่งเครื่องเข้าใส่ ก่อนมาได้ประตูขึ้นนำในช่วงท้ายเกมอีกแล้ว และอีกครั้ง

5. ท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยหงส์แดงอาจเปลี่ยนตัวไม่ค่อยถูกใจ เดอะ ค็อป สักเท่าไหร่ แล้วดันมาถูกไล่ตีเสมออีกต่างหาก

การขยับ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ ขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้าก็ดูไม่ค่อยจะเวิร์คอันเป็นเหตุให้ต้องส่งผู้เล่นที่เป็นกองหน้าจริงๆ อย่าง เฟเดริโก้ เคียซ่า ลงมาเป็นไพ่ใบสุดท้าย ก่อนที่เขาจะยืนอยู่ถูกที่ถูกเวลาจนตะบันประตู 3-2 ในช่วงท้ายเกม

อาร์เน่อ ชล๊อต เป็นกุนซือที่กล้าตัดสินใจแบบไม่รอช้า เมื่อเห็นท่าไม่ดีก็รีบแก้ไขโดยพลัน

การส่งกองหน้าชาวอิตาลีลงมาแล้วกระทุ้งตาข่ายได้ กลายเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และแทงตรงจุด

ส่วนประตูตอกฝาโลงของ โม ซาล่าห์ คือโบนัส

แม้เกมรับของ ลิเวอร์พูล จะดูน่าเป็นห่วงก็ตาม แต่เกมรุกที่น่ากลัวยังเพียงพอที่จะช่วยให้พวกเขาได้รับชัยชนะ



ที่มาของภาพ : Reuters
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport