สรุปเหตุการณ์ตั้งแต่คำสัญญาที่ถูกผิดคำ จนถึงการประกาศไม่เล่นให้ต้นสังกัดอีกต่อไปของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ดาวยิงสวีดิช ที่กลายเป็นศูนย์กลางดราม่าระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า อเล็กซานเดอร์ อิซัค จะเปลี่ยนสถานะจากฮีโร่เป็นซีโร่ของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โดยนักเตะกลายเป็นศูนย์กลางของความขัดแย่งระหว่าง "สาลิกาดง" กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้
อิซัค คือเพชรเม็ดงานของทัพ "สาลิกาดง" และเป็นที่รักของบรรดาสาวก "เดอะ แม็กพายส์" หลังสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นนับตั้งแต่ย้ายจาก เรอัล โซเซียดาด มาสู่ถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อปี 2022
สตาร์ชาวสวีดิช วัย 25 ปี มีส่วนสำคัญในการนำ นิวคาสเซิ่ล คว้าแชมป์แรกในรอบ 70 ปีด้วยการนำต้นสังกัดปราบ "หงส์แดง" ที่สนามเวมบลีย์ ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
กระนั้นในช่วงซัมเมอร์นี้ อิซัค สร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอลนิวคาสเซิ่ล อย่างมาก หลังเจ้าตัวประกาศชัดเจนต้องการย้ายทีม โดยมีเป้าหมายไปสวมเครื่องแบบลิเวอร์พูล ขณะที่ต้นสังกัดประกาศจับนักเตะดองหากไม่กลับมาช่วยทีม
ส่วนนักเตะสวนกลับด้วยการใช้มาตรการสุดโต่งเพื่อกดดันเช่นกัน โดยจะไม่กลับมาเล่นให้ต้นสังกัดอีกต่อไปแม้ตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้จะปิดตัวแล้วก็ตาม
จากที่เคยเป็นที่รัก และถูกยกย่องดั่งอัญมณีล้ำค่าแห่งถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง อิซัค กับ นิวคาสเซิ่ล กลับแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ หลัง ดาวยิงชาวสวีดิช ปฏิเสธที่จะลงเล่นให้กับสโมสรอีกต่อไปแม้ว่าการย้ายทีมจะไม่เกิดขึ้นก็ตาม แต่คำถามคือ เหตุใดเรื่องราวถึงได้มาถึงจุดนี้ได้ยังไง ?
- คำสัญญาที่ถูกทำลาย: ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนปี 2024
เรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นจากความทะเยอทะยานของ นิวคาสเซิ่ล ย้อนไปเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2024 อแมนด้า สเตฟลี่ย์ และ เมอร์ดาด โกดูซี่ สองเจ้าของ "สาลิกาดง" ในขณะนั้นได้นั่งเจรจากับ อิซัค และตัวแทนของเขา พร้อมกับวาดภาพสวยหรูถึงอนาคตที่แสนรุ่งเรืองของสโมสร
หลังจากสร้างชื่อในฐานะหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดในโลก โดย อิซัค ได้รับคำมั่นว่าจะมีการปรับสัญญาใหม่ที่ดีกว่าในอนาคต เพื่อเป็นรางวัลสำหรับผลงานที่โดดเด่นของเขา และเป็นสัญญาณว่า สโมสรมีแผนจะสร้างทีมโดยยึดเขาเป็นศูนย์กลาง
อย่างไรก็ตาม ความฝันนั้นกลับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ในเดือนกรกฎาคม สเตฟลี่ย์ และ โกดูซี่ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ขณะที่ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาคนใหม่ พอล มิทเชลล์ มีแนวคิดที่แตกต่างออกไป
มิทเชลล์ ซึ่งให้ความสำคัญกับกฎกำไรและความยั่งยืน (PSR) อย่างเข้มงวด ได้สั่งเบรกการเจรจาสัญญาใหม่ทั้งหมด โดยมองว่าสัญญาปัจจุบันของ อิซัค ที่มีถึงปี 2028 และทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดของสโมสรที่ประมาณ 150,000 ปอนด์ (ราว 6.6 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ นั้นเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับปรุงสัญญา และไม่มีการเจรจาต่อรองเพิ่มเติม
กองหน้าชาวสวีดิช รู้สึกโกรธจัดและถูกมองข้าม จึงนำไปสู่ความไม่พอใจที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในจิตใจ จากนั้น อิซัค เริ่มตั้งคำถามว่าความทะเยอทะยานของ นิวคาสเซิ่ล นั้นสอดคล้องกับความฝันของเขาจริงหรือไม่
- โดนทรยศจาก "เดอะ แม็กพายส์" : ตุลาคม 2024
อิซัค เริ่มต้นฤดูกาล 2024/2025 ด้วยฟอร์มที่น่าผิดหวัง ยิงได้แค่ประตูเดียวจาก 7 เกม กระนั้นสิ่งที่น่ากังวลกว่าตัวเลขสถิติ คือภาษากายของเขาที่บางครั้งดูตึงเครียดและครุ่นคิด บ่งบอกถึงความไม่พอใจที่มันมากกว่าแค่การยิงประตูได้น้อย
นักเตะรู้สึกว่าตัวเองถูกสโมสรประเมินค่าต่ำเกินไป ความไม่พอใจที่สะสมอยู่จึงแปรเปลี่ยนกลายเป็นความแค้น เมื่อ นิวคาสเซิ่ล มอบสิ่งที่เคยสัญญากับเขาให้กับคนอื่นแทน
ในเดือนตุลาคม แอนโธนี่ย์ กอร์ดอน ต่อสัญญาระยะยาวฉบับใหม่ที่มีรายได้สูงขึ้น และจะอยู่กับ "สาลิกาดง" จนถึงปี 2030 สำหรับ อิซัค แล้ว เหตุการณ์นี้เหมือนกับการตบหน้าฉาดใหญ่
ลิเวอร์พูล เคยสนใจ กอร์ดอน ช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ และความต้องการของ นิวคาสเซิ่ล ที่จะรั้งนักเตะเอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องลับ ดังนั้นการประกาศต่อสัญญาจึงส่งเสียงดังไปยัง อิซัค และทีมงาน เพราะมันเป็นสัญญาณที่ชัดเจนสำหรับพวกเขาว่าสโมสรให้ความสำคัญกับใครมากกว่ากัน
- ความรุ่งโรจน์และความไม่พอใจ: ฤดูใบไม้ผลิ 2025
ดาวเตะชาวสวีดิช เปลี่ยนความผิดหวังให้เป็นพลังแห่งความดุดัน โดยเขาจบฤดูกาล 2024/2025 ด้วยการซัดไป 27 ประตูจากการเล่นในทุกรายการ รวมทั้งการยิงประตูสำคัญในรอบชิง คาราบาว คัพ นำทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จและยุติ 70 ปีที่รอคอยแชมป์ในประเทศ
อิซัค สลักชื่อตัวเองอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของนิวคาสเซิ่ล แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นกลับมีรอยร้าวที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และความไม่พอใจที่สั่งสมมานานค่อยๆ ปะทุออกมาในช่วงซัมเมอร์นี้
ในช่วงที่ผ่านมา นิวคาสเซิ่ล ได้เตรียมสัญญาฉบับใหม่ที่มีมูลค่าสูงมากให้กับ อิซัค ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดในพรีเมียร์ลีก แต่ตอนนั้น อิซัค เริ่มพิจารณาทางเลือกของตัวเอง ท่ามกลางข่าวลือเรื่องความสนใจจากลิเวอร์พูล
เข้าสุ่ช่วงต้นซัมเมอร์นี้ มีแหล่งข่าวอ้างว่า อิซัค ต้องการค่าเหนื่อย 300,000 ปอนด์ (ราว 13.2 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์สำหรับการเซ็นสัญญาฉบับใหม่ แต่ นิวคาสเซิ่ล ให้ได้เต็มที่แค่ 200,000 ปอนด์ (ราว 8.8 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ เท่านั้น ซึ่งเพิ่งจากเดิมแค่ 50,000 ปอนด์ (ราว 2.2 ล้านบาท)
ก่อนหน้านี้ อิซัค ได้รับแจ้งจาก มิทเชลล์ ซึ่งปัจจุบันอำลาทีมไปแล้ว ว่าจะไม่มีการต่อสัญญาฉบับใหม่ แถมความสนใจจาก ลิเวอร์พูล ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้ อิซัค ไม่เปลี่ยนใจ เขาต้องการย้ายทีม สัญญาฉบับใหม่จึงไม่เคยถูกนำเสนอ และการเจรจาก็หยุดชะงักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
- ชนวนระเบิดเกิดขึ้นช่วงปรีซีซั่น : กรกฎาคม 2025
เมื่อเวลาผ่านเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์ ความตึงเครียดที่สะสมไว้ก็ปะทุขึ้นอย่างเต็มที่ อิซัค หายหน้าจากทีมที่เตรียมออกทัวร์ปรีซีซั่นในทวีปเอเชีย โดยสโมสรแจ้งว่านักเตะต้องพักเพราะมีปัญหาบาดเจ็บเล็กน้อยที่ต้นขา แต่เหตุผลที่แท้จริงกลับปรากฏชัดเมื่อ อิซัค แสดงจุดยืนด้วยการปฏิเสธไม่ร่วมทัวร์ครั้งนี้
ลิเวอร์พูล แสดงออกอย่างชัดเจนว่า อิซัค คือเป้าหมายหลักในการเสริมทัพกองหน้าของพวกเขาในช่วงซัมเมอร์นี้ เมื่อได้รับคำตอบว่าสโมสรไม่ต้องการขาย พวกเขาจึงหันไปให้ความสนใจที่ อูโก้ เอกิติเก้
แม้ ลิเวอร์พูล จะคว้าตัว เอกิติเก้ มาร่วมทัพ แต่หลังจากมีรายงานว่า อิซัค แจ้งกับ นิวคาสเซิ่ล ว่าต้องการย้ายทีม และต้องการไปเล่นให้ ลิเวอร์พูล เท่านั้น งานนี้ "หงส์แดง" จึงหวนกลับมาสนใจนักเตะอีกครั้ง
นิวคาสเซิ่ล ตกอยู่ในภาวะวุ่นวายอย่างหนัก การพลาดได้ตัว เอกิติเก้ ถือเป็นความเจ็บปวดอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากพลาดได้ตัว เลียม ดีแลป และ ชูเอา เปโดร มาแล้วก่อนหน้านี้ในช่วงตลาดซัมเมอร์ ทำให้พวกเขาไม่มีนักเตะที่จะแทนที่ อิซัค และการที่เจ้าตัวยืนยันจุดยืนนั่นเป็นการจุดไฟแห่งควมหวังของ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง
- โดนตัดออกจากทีม-ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น : สิงหาคม 2025
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ลิเวอร์พูล ยื่นข้อเสนอจำนวน 110 ล้านปอนด์ (ราว 4,840 ล้านบาท) เพื่อขอซื้อตัว อิซัค จากนั้นก็เพิ่มสูงขึ้นเป็น 120 ล้านปอนด์ (ราว 5,280 ล้านบาท) พร้อมแอดออน แม้จะมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ นิวคาสเซิ่ล ยังยืนกรานว่าต้องได้ค่าตัว 150 ล้านปอนด์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม "หงส์แดง" ไม่คิดจะเพิ่มข้อเสนอไปมากกว่านี้อีกแล้ว เว้นแต่ "สาลิกาดง" จะผ่อนปรนเงื่อนไข ซึ่งหมายความว่าการตัดสินใจขึ้นอยู่กับ อิซัคโดยตรง ขณะที่นักเตะโดนจับแยกซ้อมเดียว ซึ่งน่าจะมาจากพฤติกรรมของนักเตะที่พยายามบีบสโมสรให้ขายเขาออกไป
ช่วงที่ผ่านมาภาพของ อิซัค โดนถอดออกจากร้านขายสินค้าของสโมสร ขณะที่พนักงานของอาดิดาส เปิดใจกับ Chronicle Live สื่อในเมืองนิวคาสเซิ่ล ว่าในช่วงที่สโมสรเดินทางไปเกาหลีใต้ ยอดขายเสื้อที่มีชื่อและหมายเลขของนักเตะลดลงอย่างมาก
นอกจากนี้ เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีม สั่งห้าม อิซัค เข้าร่วมงานปาร์ตี้บาร์บีคิวครอบครัวที่สนามซ้อมสโมสรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้เกิดบรรยากาศตึงเครียด ที่สำคัญ ฮาว ยังยอมรับว่านักเตะอาจะไม่ได้ลงสนามในเกมลีกนัดเปิดซีซั่นพบ แอสตัส วิลล่า กระนั้น การที่ นิวคาสเซิ่ล ไม่ยอมลดค่าตัว และ ลิเวอร์พูล ไม่ยอมเพิ่มข้อเสนอ ทำให้ดีลนี้ดูเหมือนจะหยุดชะงัก โดยตอนนั้นมีรายงานว่า อิซัค ยอมแพ้และพร้อมกลับมาร่วมทีม รวมทั้งยอมเซ็นสัญญาใหม่หากการย้ายทีมล้มเหลว แต่อยู่ดีๆ กลับมีเหตุการณ์ใหม่ที่เหมือนจะทำลายความหวังของแฟนบอล "สาลิกาดง"
- แตกหักไม่เผาผี : สิงหาคม 2025
เมื่อวันอังคารที่ 12 สิงหาคม อิซัค แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการกลับมาเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล เพื่อเป็นการกดดันให้สโมสรขายออกไปในช่วงซัมเมอร์นี้ นอกจากนี้นักเตะได้ขายบ้านที่นอร์ธัมเบอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าไม่อยากเล่นในเซนต์ เจมส์ พาร์ค อีกแล้ว
จากมุมมองของ อิซัค ความไว้วางใจที่เขามีให้กับ นิวคาสเซิ่ล มันพังทลายไปแล้วหลังสโมสรผิดสัญญาเรื่องมูลค่าในสัญญาใหม่ที่สูงขึ้น ด้วยเหตุนี้นักเตะยืนยันว่าซีซั่น 2024/2025 เป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับทีม
ตอนนี้ตลาดนักเตะซัมเมอร์กำลังค่อยๆ คืบคลานเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว และไม่ว่า นิวคาสเซิ่ล จะยอมถอยหรือ "หงส์แดง" จะถอนตัวไป แต่สิ่งที่ อิซัค ทำคงสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงเอาให้กับสโมสรแน่นอน