ลิเวอร์พูล เกมรุกมีประกาย แต่เกมรับยังไม่ลงตัว

นี่คือทีมที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างแท้จริง 

การเปลี่ยนฟูลแบ็กพร้อมกันทั้งสองฝั่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการปรับจูน และอาจมีปัญหาให้ต้องเรียนรู้ในช่วงแรก 

ขณะเดียวกัน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จำเป็นต้องลบภาพฟอร์มที่ เวมบลีย์ แล้วกลับมานำแนวรับให้แข็งแกร่งเหมือนที่เคยพาทีมยืนหยัดมาตลอดซีซั่นก่อน

สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งก่อนตลาดปิด คือการเสริมเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเพิ่มอีกหนึ่งคน เพราะหาก ฟาน ไดค์ หรือ อิบราฮิม่า โกนาเต้ บาดเจ็บ ลิเวอร์พูล จะมีตัวเลือกในตำแหน่งนี้ไม่เพียงพอ ต่อให้ อาร์เน่อ จะเอ่ยถึง วาตารุ เอ็นโด หรือ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ในฐานะกองหลังจำเป็นก็ตาม

ข่าวดีของเกมนี้คือการได้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ลงสนามในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ภาพที่มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์เชื่อมเกมร่วมกับแนวรุกหน้าใหม่ ถือว่าน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

แม้เกมรุกของลิเวอร์พูลจะมีหลายจุดที่น่าประทับใจ แต่เกมรับยังต้องปรับอีกมาก โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งลุ้นแชมป์ต่างเสริมทัพกันหนักในซัมเมอร์นี้ ขณะเดียวกัน แดนหน้าก็ยังต้องหาทางเพิ่มความลึกของขุมกำลัง

การเสีย ดาร์วิน นูนเญซ ทำให้ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าถูกจำกัดเหลือเพียง อูโก้ เอกิติเก้ เพียงคนเดียว ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงสำหรับทีมที่ต้องลุย 4 รายการใหญ่ตลอดฤดูกาล แม้เอกิติเก้จะมีคุณสมบัติของกองหน้าสมัยใหม่ ทั้งความเร็ว ความคล่องตัว และการหาพื้นที่ แต่การฝากความหวังไว้กับนักเตะวัย 22 ปีตลอดทั้งซีซั่น อาจเป็นภาระที่หนักเกินไป

เวลาที่เหลือในตลาดซื้อขายจึงต้องใช้ให้คุ้ม การหากองหน้าที่สามารถหมุนเวียนกับเอกิติเก้ หรืออย่างน้อยเป็นตัวเสริมคุณภาพเมื่อจำเป็น เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะฤดูกาลที่ต้องกรำศึก พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก จะไม่ปรานีทีมที่ขุมกำลังไม่หนาพอ

นี่คือโจทย์ที่ อาร์เน่อ จำเป็นต้องหาคำตอบให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อคู่แข่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล และ เชลซี ต่างอัปเกรดทีมแบบไม่มีลังเล ลิเวอร์พูลเองก็ไม่มีเวลามากนัก

ท้ายที่สุด เกมพ่าย คริสตัล พาเลซ ในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ อาจไม่ใช่เครื่องชี้วัดเส้นทางทั้งฤดูกาล แต่ชัดเจนว่าทีมยังมีงานต้องทำ ทั้งในตลาดนักเตะและในสนาม เพื่อให้พร้อมลุยศึกใหญ่ตลอดปี

HOSSALONSO