เจาะลึก 5 ไฮไลต์สำคัญจากเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่น 2 นัดของ ลิเวอร์พูล พบ แอธเลติก บิลเบา ทั้งชัยชนะ 4-1 และ 3-2 รวมถึงฟอร์ม ดาร์วิน นูนเญซ, โซโบซไล, แข้งใหม่ทุกคน และดาวรุ่ง ริโอ เอ็นกูโมฮา
ลิเวอร์พูล ลงสนามอุ่นเครื่องปรีซีซั่นอย่างเป็นทางการ 2 เกมสุดท้ายกับ แอธเลติก บิลเบา เมื่อวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ผลงานโดยรวมของ "หงส์แดง" ถือว่าน่าประทับใจอย่างมาก โดยเฉพาะในเกมรุกที่เล่นได้อย่างโดดเด่นและอันตรายทุกจังหวะ แต่เกมรับยังมีปัญหาให้ต้องแก้ไขอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม อาร์เน่อ สล็อต เฮดโค้ช คงยิ้มไม่หุบกับฟอร์มของ ริโอ เอ็นกูโมฮา และบรรดาแข้งใหม่ที่ดึงตัวมาเสริมทัพ ที่สำคัญกุนซือชาวดัตช์ น่าจะมีไลน์อัพเอาไว้ในใจสำหรับลุยศึกหนักฤดูกาลนี้เรียบร้อยแล้ว
1. เปิดตัวเสื้อใหม่ยุค อาดิดาส - รำลึกถึง โชต้า
ลิเวอร์พูล สวมเสื้อแข่งใหม่อย่างเป็นทางการในแมตช์ไล่ต้อน แอธเลติก บิลเบา 4-1 และถือว่าเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย สำหรับฤดูกาล 2025/2026 กับสปอนเซอร์ใหม่หน้าเก่าของสโมสร
อาดิดาส และทัพ "หงส์แดง" เปิดตัวเสื้อแข่งขันเหย้าและเยือนประจำฤดูกาล 2025/26 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา และนับเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในรอบ 13 ปี
ลิเวอร์พูล ซึ่งเคยร่วมมือกัน อาดิดาส มาแล้วในช่วงปี 1985–1996 และ 2006–2012 สร้างผลงานได้น่าประทับใจมากๆ สำหรับเกมอุ่นเครื่องครั้งสุดท้ายก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ในช่วงสัปดาห์หน้า
นอกจากความประทับใจสำหรับเสื้อแข่งใหม่แล้ว สาวก "เดอะ ค็อป" ทั่วโลก ยังได้เห็นความรักของสโมสรที่มีต่อ ดีโอโก้ โชต้า โดยก่อนเกมมีการทำพิธีรำลึกและไว้อาลัยให้กับนักเตะที่จากไปก่อนวัยอันควร ขณะเดียวกันในนาทีที่ 20 แฟนบอลร่วมกันปรบมือดังลั่นแอนฟิลด์ เพื่อเป็นการระลึกถึง สตาร์ชาวโปรตุกีส ด้วย
สำหรับสิ่งที่ "หงส์แดง" แสดงให้เห็นเป็นการบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่มีวันลืม โชต้า และยังคงระลึกถึงเขาตลอดไป สำหรับความจงรักภักดีและความทุ่มเทให้กับสโมสรนับตั้งแต่วันแรกที่ย้ายมาร่วมทัพ จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
2. นูนเญซ ยกระดับผลงานสุดเดือด
นับตั้งแต่ออกสตาร์ทปรีซีซั่น ดาร์วิน นูนเญซ แสดงให้เห็นถึงหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่ทรงผมที่สั้นเกรียนเท่านั้น เพราะฟอร์มของเขาในเวลานี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ และมีประสิทธิภาพ
อนาคตของ สตาร์ทีมชาติอุรุกวัย ไม่มีความแน่นอนหลังมีรายงานออกมาอย่างต่อเนื่องว่าเจ้าตัวอยู่ในลิสต์รายชื่อที่จะโดนขายทิ้ง แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ทำให้ นูนเญซ เสียสมาธิ และพยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาจะกลับมาเป็นยอดดาวยิงอีกครั้ง
เกมอุ่นเครื่องล่าสุดพบ แอธเลติก บิลเบา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นูนเญซ ซัด 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ "หงส์แดง" ไล่ต้อนคู่แง 4-1 ในเกมแรก และเป็นประตูที่ 5 ของเขาในการเล่นช่วงปรีซีซั่น
ก่อนหน้านี้ นูนเญซ ซัดแฮตทริกเกมอุ่นเครื่องแบบปิดสนามถลุง สโต๊ค ซิตี้ 5-0 และตะบัน 1 ประตูในแมตช์สอย เปรสตัน นอร์ธเอนด์ 3-1 โดยผลงานของเขาที่ทำได้เทียบเท่ากับจำนวนประตูที่ยิงในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาล 2024/2025
สำหรับตอนนี้ โค้ชอาร์เน่อ อาจต้องชั่งใจและคิดทบทวนให้ดี เพราะหากทีมไม่ได้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ในช่วงซัมเมอร์นี้ การเก็บ นูนเญซ เอาไว้ใช้งานน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะหากพิจารณาจากความมุ่งมั่นของนักเตะในตอนนี้ น่าจะทำให้ ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์มากกว่าเดิมหลายเท่า
3. แข้งใหม่ฟอร์มเลิศเจิดจรัส
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญสำหรับเกมอุ่นเครื่อง 2 แมตช์กับ แอธ.บิลเบา ก็คือการได้เห็นแข้งใหม่ของ ลิเวอร์พูล ได้รับโอกาสลงสนามโชว์ผลงานของตัวเองอย่างเต็มที่ และทุกคนก็ฟอร์มโดดเด่น
เฟร็ดดี้ วู้ดแมน, อาร์มิน ปิซี่, จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่, เจเรมี่ ฟริมปง, มิลอส เคอร์เคซ, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ และ อูโก้ เอกิติเก้ โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจอย่างมาก และทำให้ "หงส์แดง" มีขุมกำลังเชิงลึกที่แข็งแกร่งเวียร์ตซ์ ช่วยสร้างมิติในการเล่นเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ให้มีความหลากหลายและอันตรายมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะวิสัยทัศน์ในการเล่น และการผ่านบอลที่เฉียบคมทำให้ทีมมีความอันตรายมากยิ่งขึ้น
สำหรับ เอกิติเก้ ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำไม ลิเวอร์พูล จึงทุ่มเงินเพื่อกระชากตัวเขามาจาก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต เพราะความสามารถเเฉพาะตัว, ความรวดเร็วในการกระชากบอล และความใจกว้าง จะทำให้เกมรุกของ "เดอะ เร้ดส์" มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ มามาร์ดาชวิลี่ ต้องยอมรับว่าไหวพริบและปฏิกิริยาในการเซฟบอลยอดเยี่ยมจริงๆ จะเห็นได้ว่านักเตะต้องทำงานหนักในช่วงครึ่งหลัง และมีชอตซูเปอร์เซฟ 2-3 ครั้งด้วย ด้าน ฟริมปง แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่ดุดัน ความเร็วในการขึ้นเกมรุกสร้างประโยชน์ให้กับทีมมากๆ ส่วน เคอร์เคซ ฟอร์มถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน
4. เรื่องน่ากังวลในเกมรับ
ลิเวอร์พูล มีการเสริมทัพได้โดดเด่นก็จริง แต่ขุมกำลังเชิงลึกในตำแหน่งกองหลังยังคงน่าเป็นห่วง โดยล่าสุดพวกเขาต้องขาด ฟาน ไดค์ ในเกมอุ่นเกือกสองแมตช์กับ แอธเลติก บิลเบา เนื่องจากมีการอาการป่วย
การที่ทีมมีเซนเตอร์แบ็กตัวหลักแค่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ , ฟาน ไดค์ และ โจ โกเมซ ถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากๆ สำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดฉากในเร็วๆ นี้ และเกมกับ แอธ.บิลเบา พิสูจน์แล้วว่า นี่คือสิ่งที่ทำให้ โค้ชอาร์เน่อ ต้องหาทางแก้ปัญหาให้ได้
การใช้งาน วาตารุ เอ็นโด้, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ อมาร่า นัลโล่ ยังไม่สามารถไว้วางใจได้เลย ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงออกมาให้เห็นจากการที่ทีมเสียประตูทั้ง 2 แมตช์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ดังนั้นในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก่อนตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้จะปิดตัวในวันที่ 1 ก.ย. โค้ชอาร์เน่อ ต้องพยายามให้กองหลังใหม่มาร่วมทัพให้ได้ ไม่อย่างนั้นอาจส่งผลกระทบในระยะยาวได้
5. ภาพชัดไลน์อัพฤดูกาล 2025/2026
หลังจบเกมอุ่นเครื่องแมตช์สุดท้ายอย่างเป็นทางการของ ลิเวอร์พูล แล้ว คาดว่าแฟนบอลหงส์แดง น่าจะได้เห็นภาพ 11 ตัวจริงของทีมรัก ที่โค้ชอาร์เน่อ จะใช้สำหรับป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก และลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้
แม้ว่า "เดอะ เร้ดส์" ชุดแรกที่ปะทะ แอธ. บิลเบา จะโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะ ริโอ เอ็นกูโมฮา ที่สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างโดดเด่นเกินวัย และไม่ใช่แค่เกมล่าสุด แต่ช่วงปรีซีซั่นนี้ เจ้าหนูริโอ ยกระดับฝีเท้าจนสามารถก้าวขึ้นไปอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม จากฟอร์มของ ลิเวอร์พูล เกมสองที่เฉือนชนะคู่แข่งทีมเดิม 3-2 ต้องบอกว่าน่าสนใจมากๆ เพราะภาพรวมของทีมโดดเด่นโดยเฉพาะเกมรุกที่เล่นได้อย่างดุดัน ขณะที่เกมรับยังคงต้องมีการปรับปรุงบ้าง แต่อาจจะอ้างได้ว่าเป็นเพราะขาด เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ทำให้กองหลังขาดความมั่นคง
ฟอร์มของ โกดี้ คักโป, โม ซาลาห์, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ และ โดมินิค โซโบซไล โดดเด่นมากๆ แต่เชื่อว่าสาวก "เดอะ ค็อป" ส่วนใหญ่น่าจะคิดไปในทางเดียวกันก็คือ "โซโบ" พัฒนาฝีเท้าได้แบบก้าวกระโดด ทั้งเกมรุก เกมรับ การครองบอล และสายตาเฉียบคมในการผ่านบอล ทำได้ดีกว่าเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
ดังนั้นหากให้คาดเดาความคิดของ กุนซือชาวดัตช์ เชื่อว่าตอนนี้เขามี 11 ตัวจริงอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว และน่าจะเป็นนักเตะจากทัพ "เดอะ เร้ดส์" ที่ลงเล่นเกมสองกับ แอธ.บิลเบา มากกว่าครึ่งทีมแน่นอน
คาดไลน์อัพ ลิเวอร์พูล ประจำฤดูกาล 2025/2026
อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เจเรมี่ ฟริมปง, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, มิลอส เคอร์เคซ ; ไรอัน กราเฟนแบร์ก, โดมินิค โซโบซไล, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ; โกดี้ คักโป, โม ซาลาห์, อูโก้ เอกิติเก้
สำหรับ อลีสซง ยังต้องลุ้นว่าจะพร้อมสำหรับช่วงต้นซีซั่นหรือเปล่า หลังต้องคอยดูภรรยาที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ขณะที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สภาพร่างกายยังไม่ฟิตเต็มร้อย ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะต้องโดนดร็อปเป็นตัวสำรองไปก่อนในช่วงแรก
TOMMY TEE.