แคล็ตเท่นเบิร์ก เผยฝันร้าย! เกือบโดนมิเกลชก-คิดเลิกเป็นกรรมการ

ตลอดอาชีพการเป็นผู้ตัดสินของเขานั้น มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก เคยมีทั้งจังหวะที่ตัดสินได้น่าชื่นชม และชอตที่น่ากังขาในสายตาของแฟนบอล ซึ่งมันทำให้เขาตกเป็นข่าวดังบางครั้งในช่วงที่ยังทำหน้าที่อยู่

กระทั่งล่าสุด อดีตเชิ้ตดำวัย 50 ปีก็ได้บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่เป็นเหมือนฝันร้ายของเจ้าตัว ซึ่งนั่นเกี่ยวข้องกับ จอห์น โอบี มิเกล สมัยที่อดีตแข้งชาวไนจีเรียยังเล่นอยู่กับ เชลซี

ย้อนกลับไปเมื่อตอนปลายเดือนตุลาคม ปี 2012 แคล็ตเท่นเบิร์ก ลงทำหน้าที่ในเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ เชลซี แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-3 คารัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งเกมนั้นเขาไล่นักเตะ เชลซี ออกจากสนาม 2 คน ประกอบด้วย บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส และความวุ่นวายหลังจบเกมคือสิ่งที่ แคล็ตเท่นเบิร์ก ยังจดจำมาถึงทุกวันนี้

แคล็ตเท่นเบิร์ก กล่าวระหว่างออกรายการ Undr The Cosh ว่า "ตอนนั้นนอกห้องแต่งตัวมันมีเสียงโหวกเหวกนิดหน่อย ผมเลยไปเปิดประตูพร้อมกับคิดว่า -มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ?- แต่พอผมเปิดประตูแล้วน่ะ จอห์น โอบี มิเกล ก็ปรี่เข้ามาและเริ่มเหวี่ยงหมัดใส่ผมทันที"

"จังหวะนั้นผมหลบหมัดของเขาได้ แต่เขาก็พยายามดันผมใส่กำแพงแล้วพูดประมาณว่า -ไอ้เฮงซวย!- ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น บางทีอาจจะมีบางคนที่กล่าวหาผม ทุกคนสับสนกันสุดๆ ประมาณว่า -นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ?-"

"ที่น่าตลกก็คืออีกราว 30 วินาทีหลังจากนั้นก็มีคนมาเคาะประตูห้องของผม พอผมเปิดประตูแล้วน่ะคนที่อยู่หน้าประตูคือหนึ่งในทีมรักษาความปลอดภัย เขาพูดขึ้นมาว่า -โอบี มิเกล ลืมรองเท้าแตะของเขาในห้องแต่งตัวของคุณ ขอเอากลับไปได้ไหม ?-"

ไม่เพียงแค่นั้น เพราะในเวลาต่อมามีการกล่าวหา แคล็ตเท่นเบิร์ก ว่าพูดเชิงเหยียดผิวระหว่างเกม ซึ่งไม่เป็นที่แน่ชัดว่านั่นเป็นต้นเหตุที่ทำให้ มิเกล ตบะแตกหรือไม่ แต่สำหรับ แคล็ตเท่นเบิร์ก มันคือช่วงเวลาสุดเลวร้ายของเขา

"ที่จริงผมไม่อยากรื้อฟื้นหรอกนะ แต่ตอนนั้นผมอยากเลิกเป็นกรรมการไปเลย สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าอัปยศมากๆ แต่ผมมีครอบครัว, มีลูก, มีบ้านที่ต้องจำนอง ถ้าผมเลิกเป็นกรรมการแล้วผมจะทำอะไรกิน ? ผมไม่มีอาชีพอื่นให้ทำแล้ว ผมโดนกล่าวหาว่าทำการเหยียดผิว มันมีคนคิดว่าผมไปเรียกเขา (มิเกล) ว่าเป็นลิงหลังจบเกมระหว่าง เชลซี กับ แมนยูไนเต็ด"

"เอฟเอ ใช้เวลาสืบเรื่องนั้นราว 1 ชั่วโมง แต่ผมน่ะกินหรือดื่มอะไรไม่ได้เลยเป็นเวลาหลายวัน มันเลวร้ายมากที่คุณโดนปล่อยให้ต้องรับมือด้วยตัวเองโดยที่มีสื่อดักรอหน้าบ้านคุณทุกวันกับการที่คุณโดนกล่าวหาถึงเรื่องที่คุณไม่ได้ทำสักนิด"

"ผมไม่รู้ว่าเขาโมโหกับผลการแข่งขันแล้วสติแตก หรือฉุนที่โดนสุ่มตรวจหาสารเสพติด พวกนักเตะน่ะไม่ชอบเวลาถูกเรียกให้ไปตรวจหาสารเสพติดกันหรอก แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาก็ไม่ควรจะได้เข้าใกล้ห้องแต่งตัวของผมทั้งที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำการอยู่ พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหายไปไหนกันหมด ? สุดท้ายแล้วในอีกหลายวันต่อมาเขาก็โดนบนไป 3 เกม หลังจากที่มีการตรวจสอบข้อกล่าวหาของผมไปเรียบร้อย"