5 อันดับทีมพรีเมียร์ลีกช็อปหนักสุดในตลาดนักเตะตั้งแต่ปี 2020: ลิเวอร์พูลติดท็อป 3, เชลซีกวาดแชมป์

1. การประกาศคว้าตัว อูโก้ เอกิติเก้ มาจาก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ทำให้เท่ากับว่าจนถึงตอนนี้ ลิเวอร์พูล ใช้เงินไปกับการเสริมทัพในตลาดช่วงซัมเมอร์ ปี 2025 รวมกันถึง 295.5 ล้านปอนด์ (ราว 12,530 ล้านบาท) เข้าไปแล้ว
2. ตลอดช่วงที่ผ่านมานั้นบรรดาทีมใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มักจะทุ่มเงินเสริมทัพกันเยอะมากๆ จนสร้างความฮือฮาให้แฟนบอลหลายคน ซึ่งเราจะมาสรุปว่า 5 อันดับการใช้เงินเสริมทัพมากที่สุดของ พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมานั้น มีครั้งไหนบ้าง โดยสาเหตุที่นับเฉพาะช่วงเวลานั้นเป็นเพราะค่าเงินมันไม่ต่างกันมากเท่าไหร่นั่นเอง
3. 5. แมนยูไนเต็ด : ตลาดช่วงซัมเมอร์ 2022-23
4. นั่นเป็นซีซั่นแรกในการคุม แมนยูไนเต็ด ของ เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ ซึ่งทาง แมนยูไนเต็ด ก็เสริมทัพตามใจเขาเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น อันโตนี่ กับ ลิซานโดร มาร์ตีเนซ 2 ศิษย์เก่าที่ดึงตามมาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัวในเบื้องต้น 82 ล้านปอนด์ (ราว 3,477 ล้านบาท) กับ 49 ล้านปอนด์ (ราว 2,078 ล้านบาท) ตามลำดับ หรือ กาเซมีโร่ ที่ซื้อมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยวงเงินในเบื้องต้น 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,544 ล้านบาท) เป็นต้น
5. โดยรวมแล้วในตลาดรอบนั้น แมนยูไนเต็ด ใช้เงินไปกับการช็อปถึง 227.4 ล้านปอนด์ (ราว 9,631 ล้านบาท) ซึ่งแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วฤดูกาลนั้น แมนยูไนเต็ด จะได้แชมป์ อีเอฟแอล คัพ แต่เมื่อพิจารณาถึงสภาพของพวกเขาในปัจจุบันแล้วนั้น มันก็อาจจะพอบอกได้ว่านั่นเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่
6. 4. เชลซี : ตลาดช่วงซัมเมอร์ 2022-23
7. 278.4 ล้านปอนด์ (ราว 11,800 ล้านบาท) คือจำนวนเงินทั้งหมดที่ เชลซี ควักกระเป๋าไปกับการซื้อนักเตะในตลาดรอบนั้น โดยมันถือเป็นฤดูกาลแรกด้วยที่ บลูโค กลุ่มทุนกลุ่มใหม่ของ ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เริ่มบริหารทีมตั้งแต่ตอนออกสตาร์ตซีซั่น ภายหลังพวกเขาเทคโอเวอร์ทีมมาจาก โรมัน อบราโมวิช เมื่อตอนเดือนพฤษภาคม ปี 2022
8. คนที่ค่าตัวแพงที่สุดในตลาดรอบนั้นคือ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ที่ว่ากันว่า เชลซี ยอมจ่ายเงินให้ เลสเตอร์ ซิตี้ สูงถึง 75 ล้านปอนด์ (ราว 3,180 ล้านบาท) ตามมาด้วย มาร์ก กูกูเรย่า ที่ดึงมาจาก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ด้วยวงเงิน 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,544 ล้านบาท) แล้วยังมี ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ซื้อจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยเงิน 47.5 ล้านปอนด์ (ราว 2,014 ล้านบาท) อีก โดยคนอื่นๆ ที่น่าสนใจมีอย่างเช่น คาลิดู คูลิบาลี่ จากตัวเลข 33 ล้านปอนด์ (ราว 1,399 ล้านบาท) และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ที่ค่าตัว 10.3 ล้านปอนด์ (ราว 437 ล้านบาท)
9. 3. ลิเวอร์พูล : ตลาดช่วงซัมเมอร์ 2025-26
10. ใช่แล้ว การเสริมทัพในตลาดรอบนี้ของ ลิเวอร์พูล พุ่งมาติดอันดับ 3 ในชาร์ตนี้ทันที โดยคนที่มีค่าตัวสูงที่สุดจากจำนวนเงินรวม 295.5 ล้านปอนด์ (ราว 12,530 ล้านบาท) ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ที่พวกเขายอมจ่ายเงินถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,240 ล้านบาท) ตามมาด้วย เอกิติเก้ จากค่าตัวในเบื้องต้น 69 ล้านปอนด์ (ราว 2,926 ล้านบาท) ซึ่งก็ต้องรอดูว่ามันจะเป็นการใช้เงินที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีหรือไม่
11. 2. เชลซี : ตลาดช่วงหน้าหนาว 2022-23
12. ปกติแล้วตลาดช่วงกลางฤดูกาลเป็นช่วงที่ทีมต่างๆ จะไม่เสริมทัพกันมากนัก แต่ไม่ใช่สำหรับ เชลซี ในซีซั่นแรกกับการทำทีมแบบเต็มตัวของกลุ่มทุน บลูโค หลังจากพวกเขาจ่ายเงินรวมแล้วถึง 323.3 ล้านปอนด์ (ราว 13,704 ล้านบาท) ไปกับตลาดรับต้นปี 2023  
13. เงินส่วนใหญ่นั้นหมดไปกับการดึง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ มาจกา เบนฟิก้า เพราะเขาย้ายมาอยู่กับทีมด้วยค่าตัวสูงถึง 106.80 ล้านปอนด์ (ราว 4,528 ล้านบาท) ส่วนอันดับ 2 คือ มิไคโล มูดริค ปีกชาวยูเครนที่ว่ากันว่าพวกเขาปาดหน้า อาร์เซน่อล ได้ ด้วยวงเงิน 62 ล้านปอนด์ (ราว 2,629 ล้านบาท) ส่วนอันดับ 3 คือ เบอนัวต์ บาเดียชิล ที่ เชลซี ซื้อมาจาก อาแอส โมนาโก ด้วยเงิน 35 ล้านปอนด์ (ราว 1,484 ล้านบาท)
14. สำหรับคนอื่นๆ ที่น่าสนใจในตลาดรนอบนั้นมีอย่างเช่น โนนี่ มาดูเอเก้ จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ที่ค่าตัว 29 ล้านปอนด์ (ราว 1,230 ล้านบาท), มาโล กุสโต้ จาก โอลิมปิก ลียง ด้วยตัวเลข 26.3 ล้านปอนด์ (ราว 1,115 ล้านบาท) และ อันเดรย์ ซานโตส จาก วาสโก ดา กาม่า ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ (ราว 763 ล้านบาท) เป็นต้น
15. 1. เชลซี : ตลาดช่วงซัมเมอร์ 2023-24
16. แม้ว่าจะใช้เงินไปกับการเสริมทัพรวมแล้วราว 601.7 ล้านปอนด์ ตลอดทั้งฤดูกาล 2022-23 แต่ว่า เชลซี ก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น พวกเขาใช้เงินซื้อนักเตะไปอีกถึง 434.5 ล้านปอนด์ (ราว 18,426 ล้านบาท) ในตลาดช่วงซัมเมอร์ของซีซั่นถัดมา
17. มอยเซส ไกเซโด้ คือคนที่ทำให้ เชลซี ผลาญเงินไปมากที่สุดในตลาดรอบนั้นด้วยการจ่ายเงิน 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,240 ล้านบาท) ให้กับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ตามมาด้วย โรเมโอ ลาเวีย ที่ซื้อจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยวงเงิน 53 ล้านปอนด์ (ราว 2,247 ล้านบาท) ขณะที่ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ตามมาเป็นอันดับ 3 หลังตอนนั้น เชลซี จ่ายเงินให้ แอร์เบ ไลป์ซฺก 52 ล้านปอนด์ (ราว 2,205 ล้านบาท)
18. ที่จริง โคล พาลเมอร์ ก็ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาอยู่กับ เชลซี ในตลาดรอบนั้นด้วย โดยทีมสีน้ำเงินของกรุงลอนดอนจ่ายเงินไป 40 ล้านปอนด์ (ราว 1,696 ล้านบาท) ด้วยกัน ส่วนคนอื่นๆ มีอย่างเช่น อั๊กเซล ดิซาซี่ ที่ควักเงินไป 38.8 ล้านปอนด์ (ราว 1,645 ล้านบาท) เพื่อเอามาจาก โมนาโก และ นิโกลัส แจ็คสัน ที่ย้ายมาจาก บียาร์เรอัล ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์ (ราว 1,356 ล้านบาท)
19. 5 อันดับทีมใน พรีเมียร์ลีก กับการใช้เงินกับการเสริมทัพต่อ 1 ช่วงตลาดมากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา

    1. เชลซี (ซัมเมอร์ 2023-24) 434.5 ล้านปอนด์ (ราว 18,426 ล้านบาท)

    2. เชลซี (หน้าหนาว 2022-23) 323.3 ล้านปอนด์ (ราว 13,704 ล้านบาท)

    3. ลิเวอร์พูล (ซัมเมอร์ 2025-26) 295.5 ล้านปอนด์ (ราว 12,530 ล้านบาท) (ยังไม่ปิดตลาด)

    4. เชลซี (ซัมเมอร์ 2022-23) 278.4 ล้านปอนด์ (ราว 11,800 ล้านบาท)

    5. แมนยูไนเต็ด (ซัมเมอร์ 2022-23) 227.4 ล้านปอนด์ (ราว 9,631 ล้านบาท)

20. 
    

- เด็กเกร็ดบอล -