แรชฟอร์ดติดท็อป 10 แข้งมหาเฮงแห่งตลาดนักเตะ: จากแมนยูสู่บาร์ซ่าแบบงงๆ

ในที่สุด มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ย้ายจาก แมนยู ไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า สมใจแม้ในเบื้องต้นจะเป็นสัญญายืมตัวก็ตาม

หลังถูกสโมสรปล่อยให้ แอสตัน วิลล่า ยืมตัวในครึ่งหลังของซีซั่นก่อน แต่ สิงห์ผงาด ไม่ใช้อ็อปชั่นซื้อขาดในราคา 40 ล้านปอนด์ สตาร์ทีมชาติ อังกฤษ ก็ต้องวิ่งวุ่นหาทีมใหม่อีกรอบเนื่องจากเขาไม่อยู่ในแผนของกุนซือ รูเบน อโมริม

แน่นอนว่า แรชฟอร์ด ไม่ใช่เป้าหมายแรกของ บาร์ซ่า เพราะหากเป็นอย่างนั้นการย้ายสังกัดคงไม่ยืดเยื้ออย่างที่เห็นเนื่องจากเขาถูกนายใหญ่ชาวโปรตุกีสตัดขาดจากทีมนานแล้ว

กระทั่งทีมแชมป์ ลา ลีกา ชวดได้สองเป้าหมายแรกทั้ง นิโก้ วิลเลี่ยมส์ และ หลุยส์ ดิอาซ ฮันซี่ ฟลิค กุนซือด๊อยทช์จึงหันมาหา แรชฟอร์ด ซึ่งได้รับส้มหล่นอย่างที่เจ้าตัวใฝ่ฝัน

นอกจาก แรชฟอร์ด แล้ว เท่าที่ผ่านมามีนักเตะหลายรายที่โชคดีเหลือหลายได้ย้ายทีมอย่างเหลือเชื่อจากการจัดอันดับท็อปเทนดังนี้

10. มารูยาน เฟลไลนี่ (เอฟเวอร์ตัน สู่ แมนฯ ยูไนเต็ด , 32 ล้านยูโร)

เดวิด มอยส์ พยายามเซ็นสัญญากับ แกเร็ธ เบล และ เชส ฟาเบรกาส หลังจากเขาถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลือกให้เข้ามานั่งเก้าอี้กุนซือทีม ผีแดง แทนในปี 2013 แต่ลงเอยแล้วนายใหญ่สกอตต์คว้า เฟลไลนี่ มาร่วมค่ายแทน

ว่ากันตามจริง มิดฟิลด์ทีมชาติ เบลเยี่ยม เจ้าของความสูง 6 ฟุต 4 นิ้วไม่ได้ทำให้แฟนบอลจดจำถึงผลงานในสนามเลยนอกจากทรงผมที่แสนยุ่งเหยิงของเขา

แม้เขาจะรับใช้ มอยส์ ได้เป็นอย่างดีในทีม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน แต่การย้ายสู่ทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในขณะนั้นเป็นก้าวบันไดที่ยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับนักเตะที่มีฝีเท้าจำกัดจำเขี่ยอย่างเขา

แค่ซีซั่นแรกกับสังเวียนแข้ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด  เฟลไลนี่ โดนแฟน แมนฯ ยูไนเต็ด โห่ใส่เป็นประจำก่อนที่สโมสรจะจบอันดับ 7 และส่งผลให้ มอยส์ กระเด็นออกจากทีมในเวลาแค่ 8 เดือน

ถึงกระนั้น เฟลไลนี่ ยังได้เป็นนักเตะของ ผีแดง ต่ออีกห้าซีซั่น และได้แชมป์ เอฟเอ คัพ , ยูโรปา ลีก และ ลีก คัพ ในฐานะนักเตะคนโปรดของ โชเซ่ มูรินโญ่ จากความเชี่ยวชาญในการเล่นลูกกลางอากาศแม้จะไม่มีตำแหน่งในทีมตัวจริงอย่างถาวร

กระทั่งเดือนม.ค.2019 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ปล่อยเขาให้ย้ายไปโกยเงินหยวนกับ ชานตง ไท่ซาน ทีมใน ไชนีส ซูเปอร์ ลีก ด้วยค่าตัว 10.5 ล้านปอนด์

9. แอนดี้ แคร์โรลล์ (นิวคาสเซิ่ล สู่ ลิเวอร์พูล , 43 ล้านยูโร)

แฟนบอล ลิเวอร์พูล ตาค้างไปตามๆกันด้วยไม่เชื่อว่าสโมสรจะเลือกคว้า แคร์โรลล์ มาแทนที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส หลังกองหน้าทีมชาติ สเปน ย้ายไปร่วมทีม เชลซี ในเดือนม.ค.2011 

หงส์แดง ทุ่มเงินเป็นสถิติเซ็นสัญญากับ แคร์โรลล์ ทั้งๆที่เขาขยับขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวจริงของ นิวคาสเซิ่ล ได้แค่ครึ่งซีซั่นเท่านั้น และในที่่สุดเขาก็ยิงประตูในเกม พรีเมียร์ลีก 44 นัดให้ทีมดังแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ได้แค่ 6 ลูก

หลังเข้ามาคุมทีมแทน เคนนี่ ดัลกลิช ในเดือนมิ.ย.2012 เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็ตัดสินใจว่า แคร์โรลล์ ไม่เหมาะกับระบบการเล่นในสไตล์ครองบอลของเขา และส่งเขาให้ เวสต์แฮม หลังจากหัวหอกร่างยักษ์ล้มเหลวกับสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ ตลอดระยะเวลา 18 เดือน

8. นิคลาส เบนท์เนอร์ ( อาร์เซน่อล สู่ ยูเวนตุส , ยืม)

อนาคตของ เบนท์เนอร์ แลดูมืดมนสุดขีดแล้วหลังจาก อาร์เซน่อล ส่งเขาให้ ซันเดอร์แลนด์ ยืมตัวในซีซั่น 2011/12 โดยเขาสอยตาข่ายในเกม พรีเมียร์ลีก ให้ทีม แมวดำ ได้ 8 ประตู และแม้ เดอะ กันเนอร์ส จะไม่แฮปปี้กับพฤติกรรมนอกสนามหลายหนของหัวหอกทีมชาติ เดนมาร์ค แต่ ยูเวนตุส แชมป์ เซเรีย อา หมาดๆสร้างความช็อกดึงเขาไปร่วมทีมในตลาดช่วงซัมเมอร์ปี 2012

อย่างไรก็ดี อันโตนิโอ คอนเต้ ไม่ส่งนักเตะใหม่ลงสนามเป็นตัวจริงจนกระทั่งเดือนต.ค.แต่เกมต่อมาเขาเจ็บหนักจนต้องร้างสนามไปสองเดือนก่อนโดนจับข้อหาเมาแล้วขับในเดือนมี.ค.

เบนท์เนอร์ กลับสู่สนามได้ในฐานะตัวสำรองในเกมปิดซีซั่นบุกไปบู๊กับ ซาพ์โดเรีย  แต่ข้อมือหักจากการฉลองแชมป์แม้จะพ่าย ลา ซามพ์ 3-2 

รวมแล้ว 11 นัดในทุกรายการ เบนท์เนอร์ กลับสู่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โดยที่ยิงประตูให้ทีม ม้าลาย ไม่ได้เลยแม้แต่เม็ดเดียว

7. โอเดี้ยน อิกาโล่ (เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว สู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ,ยืม)

ผีแดง กระหายคว้ากองหน้าคนใหม่หลังจาก แรชฟอร์ด ล้มเจ็บในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวปี 2020 โดยมีชื่อ จอช คิง สตาร์ทีม บอร์นมัธ อดีตเด็กปั้นอยู่ในลิสต์

อย่างไรก็ดี พวกเขามองว่า คิง มีค่าตัวสูงเกินไป และเลือกยืม อิกาโล่ อดีตดาวยิงทีม วัตฟอร์ด ที่ย้ายไปเล่นในลีกจีนจนจบซีซั่น

แม้จะสร้างชื่อกับ แตนอาละวาด ได้ไม่เลว และสอยตาข่ายให้ ไนจีเรีย ได้ห้าประตูในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ปี 2019 แต่ชัดเจนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ดึงนักเตะใหม่มาร่วมทีมแบบลนลานเนื่องจาก อิกาโล่ ไม่ใช่นักเตะเกรดเอ แถม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่เชื่อมั่นในตัวเขาตั้งแต่แรกแล้ว

ระหว่างเดือนก.พ.-พ.ค.ดาวยิงแอฟริกันได้ลงสนามแค่ 8 นัด แต่ยิงได้ 4 ประตูซึ่งดีพอที่จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อสัญญายืมเขาอีกหกเดือน กระทั่ง เอดินสัน คาวานี่ ย้ายสู่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเดือนต.ค.อิกาโล่ จึงได้ลงบู๊แค่ 9 นาทีของเกม พรีเมียร์ลีก ช่วงครึ่งแรกของซีซั่น 2020/21 ก่อนถูกส่งตัวคืนต้นสังกัด

6. มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด สู่ บาร์ซ่า ,ยืม)

แรชฟอร์ด กระทุ้งประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในทุกรายการทะลุหลัก 30 เม็ดได้เป็นครั้งแรกในซีซั่น 2022/23 พาทีมคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ และจบอันดับสามของลีก

ด้วยเหตุนี้ ผีแดง จึงต่อสัญญาใหม่ให้เขาห้าปีพร้อมประเคนค่าแรงให้สัปดาห์ละ 325,000 ปอนด์โดยเจ้าตัวป่าวประกาศต่อสาวก เร้ด อาร์มี่ ว่า "ในฐานะที่เป็นแฟน ยูไนเต็ด มาตลอดชีวิต ผมรู้ถึงความรับผิดชอบที่มีต่อตราสโมสร ผมสามารถการันตีได้ว่าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยพาทีมประสบความสำเร็จ"

ซีซั่นถัดมา 2023/24 เอริค เทน ฮาก พาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ แต่เขาถูกปลดเนื่องจาก ปีศาจแดง จบอันดับ 8 ของลีก และกลายเป็นว่าการมาของ รูเบน อโมริม ทำให้เด็กสร้างของทีมต้องย้ายออกจาก โรงละครแห่งความฝัน ด้วยสัญญายืมตัวเป็นหนที่สอง

5. มาร์ติน เบรธเวท (เอสปันญ่อล สู่ บาร์ซ่า , 18 ล้านยูโร)

ทีมจากกาตาลันได้รับอนุญาตให้เซ็นสัญญากับนักเตะใหม่เป็นกรณีฉุกเฉินหลังปิดตลาดได้เนื่องจาก อุสมาน เด็มเบเล่ บาดเจ็บจนต้องร้างสนามนานหกเดือนในเดือนก.พ.2020 แต่ ลา ลีกา กำหนดระเบียบเอาไว้ว่า บาร์ซ่า จะต้องเซ็นสัญญากับนักเตะฟรีเอเจนต์ หรือไม่ก็พ่อค้าแข้งที่เล่นอยู่ในสเปนเท่านั้นซึ่งทำให้พวกเขามีทางเลือกไม่มาก

บาร์ซ่า ตัดสินใจเซ็นสัญญาดึง เบรธเวท อดีตกองหน้าทีม มิดเดิ้ลสโบรช์ มาจาก เลกาเนส โดยเขามีส่วนพาทีมซิวแชมป์ โกปา เดล เรย์ ได้ แต่สตาร์ทีมชาติ เดนมาร์ค ตะบันได้แค่ 10 ประตูจาก 58 นัดโดยส่วนใหญ่เป็นการลุกจากม้านั่งข้างสนาม และไม่น่าแปลกที่เขาจะถูกยกเลิกสัญญาในปี 2022 เพื่อเปิดทางให้สโมสรลงทะเบียนกับนักเตะใหม่

4. เวาท์ เว็กฮอร์สท์ (เบิร์นลีย์ สู่ แมนฯ ยูไนเต็ด , ยืม)

เห็นได้ชัดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้จำบทเรียนจากดีล อิกาโล่ เมื่อยืม เว็กฮอร์สท์ มาจาก เบิร์นลีย์ ในเดือนม.ค.2023 เพื่อทดแทนการจากไปของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทั้งๆที่หัวหอกดัตช์ซัดให้ เดอะ คลาเร็ตส์ ได้แค่ 2 ประตูจาก 20 นัดจนทีมต้องตกลงสู่ แชมเปี้ยนชิพ

แม้จะอำลาทีมไปเล่นให้ กาลาตาซาราย แบบยืมตัวก่อนหันมาลงบู๊ให้ ผีแดง โดย เว็กฮอร์สท์ โชว์ฟอร์มได้ดีกับลีกเติร์ก แต่ทุกคนเห็นตรงกันว่าเขาไม่ดีพอสำหรับ เร้ด เดวิลส์ ยกเว้น เทน ฮาก กุนซือร่วมชาติซึ่งส่งเด็กคนโปรดลงสนามเป็นตัวจริง 18 นัดติดต่อกันแม้เขาจะยิงได้แค่ 2 ประตู

3. เอริค มักซิม ชูโป โมติง (สโต๊ค สู่ เปแอสเช, ฟรี)

ซีซั่นแรกและซีซั่นเดียวที่ ชูโป โมติง ค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก จบลงแบบหายนะ

หลังย้ายมาจาก ชาลเก้ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ดาวยิงทีมชาติ แคเมอรูน ถูก สโต๊ค ดึงตัวมาร่วมทัพหลังการจากลาของ มาร์โก อาร์เนาโตวิช และ โบยาน เคร์คิช แต่เขาทะลวงประตูได้แค่ 5 ลูกจนทำให้ ช่างปั้นหม้อ ตกลงสู่ แชมเปี้ยนชิพ เป็นครั้งแรกในรอบสิบปี

ด้วยเหตุนี้ สโต๊ค จึงตกลงยกเลิกสัญญากับเขา และกลายเป็น เปแอสเช ดึงกองหน้าระดับ แชมเปี้ยนชิพ ไปเสริมทัพด้วยสัญญาสองปีเนื่องจากเขาเคยร่วมงานกับ โธมัส ทูเคิ่ล มาก่อนสมัยค้าเกือกอยู่กับทีม ไมนซ์

ไม่เพียงเท่านั้น หลังอำลา เปแอสเช ในฐานะฟรีเอเจนต์ในปี 2020 ชูโป โมติง ยังได้ดิบได้ดีอีกตามเคยเนื่องจากเขาได้ย้ายไปร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค โดยปัจจุบันกองหน้าวัย 36 ปีอยู่ในสังกัดของทีม นิว ยอร์ค เร้ด บูลล์ส

2. ฟาบิโอ บอรินี่ (ซันเดอร์แลนด์ สู่ มิลาน ,ยืม)

มิลาน ใช้เงินอย่างมหาศาลในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 เพื่อพยายามกลับไปคว้าโควต้าลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการดึงนักเตะอย่าง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ , อันเดร ซิลวา ,ฮาคาน ซัลฮาโนกลู และ ฟร็องค์ เกสซิเย่ มาร่วมทีม แต่มีดีลน่าทึ่งเช่นกันจากการยืม บอรินี่ มาจาก ซันเดอร์แลนด์ พร้อมอ็อปชั่นซื้อขาด 5.2 ล้านปอนด์

สมัยย้ายจาก โรม่า มาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล สามปี กองหน้าอิตาเลี่ยนยิงได้แค่ 3 ประตูจากทุกรายการ และย้ายไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก ให้ทีม แมวดำ 26 นัดในซีซั่น 2016/17 แต่เขาสอยตาข่ายได้แค่ 2 เม็ดพาทีมอยู่รอดในลีกสูงสุดไม่สำเร็จจนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพ่อค้าแข้งชาวเมืองมะกะโรนีที่ล้มเหลวที่สุดในลีกเมืองผู้ดี

ถึงกระนั้น การย้ายสู่ ซาน ซีโร่ ตอกย้ำความเลวร้ายของเขามากขึ้นไปอีกแม้ในซีซั่นแรกเขาจะได้สวมบทฟูลแบ็ค และมีส่วนร่วมกับ 10 ประตู กระทั่ง เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ย้ายมาคุมทีมในซีซั่น 2018/19 บอรินี่ ก็แทบไม่ได้ลงสนามก่อนถูกโละให้ เวโรน่า ในเดือนม.ค.2020

1. ฌูเลียง โฟแบร์ (เวสต์แฮม สู่ เรอัล มาดริด,ยืม)

ถูกจัดอันดับให้เป็นที่หนึ่งในทำเนียบนี้เนื่องจากเป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างแรงที่กองหลังเฟรนช์แมนจะได้ย้ายจาก เวสต์แฮม ไปร่วมทีม เรอัล มาดริด แบบยืมตัวในเดือนม.ค.2009

มันเป็นเพราะว่าหลังย้ายมาจาก บอร์กโดซ์ โฟแบร์ ก็เจ็บเอ็นร้อยหวายทันทีในซีซั่นแรกกับสโมสรของกรุงลอนดอนซึ่งทำให้เขาต้องร้างสนามไปนาน แต่ถัดมาในซีซั่นที่สองกับ ขุนค้อน เขาได้รับการทาบทามจาก ราชันชุดขาว โดย เดอะ แฮมเมอร์ส ตัดสินใจมอบโอกาสให้เขาย้ายทีมได้

อย่างไรก็ดี โฟแบร์ ได้ลงเล่นให้ทีมดังของ ลา ลีกา แค่สองเกม และปรากฏภาพขณะกำลังสะลึมสะลือครึ่งหลับครึ่งตื่นบนเก้าอี้ตัวสำรองด้วย แถมไม่ได้เดินทางมาซ้อมโดยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นวันหยุดจึงทำให้ ราชันชุดขาว ไม่ใช้อ็อปชั่นซื้อขาดในราคา 1.5  ล้านปอนด์