5 จุดเปลี่ยน ลิเวอร์พูล ปรีซีซั่น 2025/26 : จากไว้อาลัยโชต้า ถึงแท็กติกใหม่อาร์เน่อ สล็อต

ลิเวอร์พูล มีหลายสิ่งที่น่าจับตามองก่อนเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่น ไม่ว่าจะเป็นนักเตะใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามา หรือการปรับแผนแทคติกของทีม

 อาร์เน่อ สล็อต กุนซือชาวดัตช์ นำทัพ "หงส์แดง" กลับมาลับแข้งอีกครั้งในช่วงวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ โดยเดินทางไปเยือน เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการอุ่นเครื่อง หลังพักร่างกายกว่า 1 เดือนจากการกรำศึกหนักมานานเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

 หลังจากเสร็จภารกิจที่ดีพเดล ทัพ "เดอะ เร้ดส์" จะเดินทางไปทวีปเอเชียเพื่อลงเล่นเกมอุ่นเครื่องพบ เอซี มิลาน (ฮ่องกง) และ โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส (ญี่ปุ่น) ก่อนจะกลับมาที่แอนฟิลด์เพื่อลงเล่น 2 เกมในวันเดียวพบ แอธเลติก บิลเบา และเตรียมสู้กับ คริสตัล พาเลซ ในศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 

 นี่เป็นช่วงเวลาที่ทั้งวุ่นวายและเต็มไปด้วยอารมณ์สำหรับ ลิเวอร์พูล ซึ่งอาจเป็นโอกาสดีในการมองเห็นแนวทางของ "หงส์แดง" สำหรับฤดูกาลใหม่ จะเดินหน้าในฤดูกาล 2025/26 โดย 5 สิ่งที่น่าจับตามองสำหรับช่วงปรีซีซั่นนี้

1. ไว้อาลัยการจากไปของ ดิโอโก้ โชต้า

 การจากไปอย่างน่าเศร้าของ ดิโอโก้ โชต้า ยังคงเป็นเรื่องที่ยากจะทำใจยอมรับได้ เพราะนี่คือการสูญเสียนักเตะที่สำคัญ และจงรักภักดีกับสโมสรอย่างมาก แน่นอนว่าเขาจะยังคงเป็นที่รัก และไม่มีวันลืมเลือนจากใจทุกคนที่รัก ลิเวอร์พูล

 แน่นอนว่า สาวก "เดอะ ค็อป" จะได้เห็นการสรรเสริญและไว้อาลัย โชต้า อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงปรีซีซั่นนี้ เมื่อเร็วๆ นี้มีการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังเพื่อรำลึกถึงโชต้า บริเวณรอบๆ แอนฟิลด์ และ บิลลี่ โฮแกน ซีอีโอของลิเวอร์พูลก็เปิดเผยว่า สโมสรยังมีแนวคิดอีกมากมายในการให้เกียรติแด่กองหน้าเจ้าของเสื้อหมายเลข 20 ในระยะยาวอีกด้วย

 เกมอุ่นเครื่องสุดสัปดาห์นี้ที่ เปรสตัน เตรียมพบกับป้ายผ้าและการรำลึกถึง โชต้า ทั้งในอัฒจันทร์และบนสนาม ขณะที่แฟนบอลและนักเตะร่วมกันระลึกถึงบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง เพลงประจำตัวของ โชต้า จะดังก้องไปทั่วสนามตลอดการแข่งขัน

 ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าการให้เกียรติและรำลึกถึง สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสผู้ล่วงลับในช่วงปรีซีซั่นนี้ เพื่อแสดงให้ครอบครัวของเขาเห็นว่า เขาเป็นที่รักแค่ไหน และจะยังคงอยู่ในหัวใจของสาวก "เดอะ ค็อป" ตลอดไป

2. ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ จะเล่นตำแหน่งไหน ?

 เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้เห็น ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ สวมชุดของ ลิเวอร์พูล หลังจากนักเตะย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ ด้วยค่าตัวเป็นสถิติสโมสร และศึกพรีเมียร์ลีก ช่วงซัมเมอร์นี้

 ดาวเตะทีมชาติเยอรมนี วัย 22 ปี ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ ดังนั้นมีแนวโน้มสูงมากที่ โค้ชอาร์เน่อ จะใช้งาน เวียร์ตซ์ ในตำแหน่งดังกล่าว เพราะจะทำให้เขาแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่

 เวียร์ตซ์ สามารถขยับไปเล่นในตำแหน่งแนวรุกฝั่งซ้ายก็ได้ หรือสวมบทฟอลส์ไนน์ (กองหน้าตัวหลอก) แน่นอนว่าความหลากหลายของ สตาร์เลือดด๊อยท์ช ถือเป็นอาวุธเด็ดที่สำคัญมากสำหรับทัพ "เดอะ เร้ดส์"

 ถ้า ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเซ็นสัญญา อเล็กซานเดอร์ อิซัค หรือ อูโก้ เอกิติเก้ ในช่วงซัมเมอร์นี้ มีความเป็นไปได้ที่ โค้ชอาร์เน่อ จะเลือกวิธีการแก้ปัญหาด้วยการให้เขาสวมบทบาทเดียวกับที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เคยเล่นก็ได้

 อดีตดาวเตะไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เป็นหนึ่งในนักเตะตัวรุกที่เก่งที่สุดในโลก ทั้งในเวลาที่มีบอลและไม่มีบอล ซึ่งเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งก็คือจะการจัดตำแหน่งของเขาไว้อย่างไรในช่วงปรีซีซั่น 

 อย่าลืมว่าในช่วงปรีซีซั่น สิ่งสำคัญคือการให้ผู้เล่นแต่ละคนได้ลงสนามมากพอ ดังนั้นตำแหน่งที่พวกเขาลงเล่นอาจไม่สะท้อนเจตนาที่แท้จริงของทีมเสมอไป แต่ที่ทำแบบนั้นอาจเป็นเพราะมีผู้เล่นที่พร้อมลงเล่นอยู่แค่นี้เท่านั้น

3. เปลี่ยนแปลงแท็กติก

 ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยการเล่นระบบ 4-3-3 เป็นส่วนใหญ่ โดยให้ โดมินิค โซโบซไล มิดฟิลด์ชาวฮังการี สวมบทบาทผู้เล่นหมายเลข 10 หรือเพลย์เมกเกอร์ ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ

 กุนซือชาวดัตช์ จะใช้โอกาสในช่วงปรีซีซั่นทำสิ่งหลายๆ หลายอย่าง และพยายามลองเล่นระบบอื่น โดยการมี เวียร์ตซ์ เข้ามาเสริมทัพ มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีผลต่อการตัดสินใจของ โค้ชอาร์เน่อ 

 สตาร์ทีมชาติเยอรมนี กับ กัปตันทีมชาติฮังการี รับบทบาทเพลย์เมกเกอร์ทั้งคู่ในขณะที่ทีมไม่มีหน้าเป้าธรรมชาติ โดยอยู่ตรงกลางระหว่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ หลุยส์ ดีอาซ หรือ โกดี้ คักโป 

 มีความเป็นไปได้ที่จะเห็น "โซโบ" เล่นในตำแหน่งผู้เล่นหมายเลข 8 หรือ บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ ซึ่งจะทำให้เขาได้แสดงผลงานเฉิดฉายมากยิ่งขึ้น ขณะที่ เจเรมี่ ฟริมปง กับ มิลอส เคอร์เคซ สวมบทฟูลแบ็กจอมบุก นอกจากนี้อาจต้องใช้งาน ไรอัน กราเฟนแบร์ก ให้เล่นอย่างมีวินัยมากขึ้น เคียงข้าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

 ด้วยขุมกำลังเชิงลึกที่น่าสนใจของ ลิเวอร์พุล ทำให้พวกเขาสามารถปรับแท็กติกการเล่นได้หลากหลายทั้ง 4-2-3-1, 4-2-2-2 และ 4-2-4 ซึ่งแน่นอนว่าระบบต่างๆ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าทีมเจอคู่แข่งแบบไหน 

4. เสื้อแข่งใหม่กับ อาดิดาส

 แฟนบอลลิเวอร์พูล ตื่นเต้นเสมอกับชุดแข่งใหม่ของทีมรัก และ "หงส์แดง" เตรียมสวมชุดแข่งใหม่ระหว่างเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่น ซึ่งแน่นอนว่าถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการป้องกันแชมป์ลีกในฤดูกาล 2025/2026

 อย่างไรก็ตาม ชุดใหม่นี้จะยังไม่ถูกนำมาใช้จนกว่าจะถึงเดือนสิงหาคม เนื่องจากสัญญากับ ไนกี้ จะหมดลงในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ดังนั้นช่วงแรกของการทัวร์ปรีซีซั่นแฟนหงส์แดงยังไม่เห็นของดีของเด็ดของสโมสร

 สาวก "เดอะ ค็อป" จะมีโอกาสได้เห็นชุดแข่งใหม่ภายใต้การออกแบบของ อาดิดาส ครั้งแรกในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ เมื่อพวกเขามีคิวเปิดรังแอนฟิลด์รับมือ แอธเลติก บิลเบา ในแมตช์อุ่นเครื่อง 2 เกมติดต่อกัน

 ในแมตช์กับ แอธ.บิลเบา มีความเป็นไปได้ว่า ลิเวอร์พูล จะสวมชุดเหย้าใหม่ในเกมหนึ่ง และเปิดตัวชุดเยือนในอีกเกมหนึ่ง

5. โอกาสดาวรุ่งได้ฉายแววความเก่ง

 การเซ็นสัญญาแข้งใหม่และได้สตาร์ชั้นนำมาร่วมทีมเป็นเรื่องที่น่าสนใจในช่วงปรีซีซั่น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับนักเตะดาวรุ่งหลายคนที่จะได้โอกาสลงสนามเพื่อโชว์ฝีมือ

 นักเตะอย่าง เจมส์ แม็คคอนเนลล์, เบน โด๊ค และ เจย์เดน แดนน์ส จะพยายามแสดงผลงานให้ โค้ชอาร์เน่อ ได้เห็นว่าพวกเขาสามารถเป็นส่วนสำคัญในขุมกำลังของทีมสำหรับฤดูกาล 2025/2026

 โด๊ค ได้รับความสนใจจากหลายทีม รวมทั้ง เอฟเวอร์ตัน แต่เชื่อว่าทีมจำเป็นต้องเกมนักเตะเอาไว้ โดยเฉพาะในกรณีที่ เฟเดริโก้ เคียซ่า อำลาทีม ขณะที่ แดนน์ส แม้จะเจอปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บ อาจโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวพร้อมกับ แม็คคอนเนลล์ แต่นักเตะรู้ดีว่าหากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมช่วงปรีซีซั่น ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองมากขึ้น

 ยังมีผู้เล่นดาวรุ่งพรสวรรค์อีกหลายคนที่จะมีส่วนสำคัญกับ ลิเวอร์พูล แต่ โค้ชอาร์เน่อ เป็นคนที่เด็ดขาดชัดเจน และจะให้โอกาสพวกเขาลงสนามก็ต่อเมื่อสามารถพิสูจน์ตัวเองได้เท่านั้น งานนี้แฟนหงส์อาจต้องจับตาดู ริโอ เอ็นกูโมฮา ,  เทรย์ นายโอนี่ และอาจรวมถึง อาร์มิน ปิซี่ ผู้รักษาประตูคนใหม่ ที่อาจมีส่วนร่วมในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้

       TOMMY TEE.