ปกติแล้ว วันแรกของปรีซีซั่นคือหนึ่งในวันที่อบอุ่นและน่าตื่นเต้นราวกับวันเปิดเทอมของเด็ก ๆ
มันเป็นวันที่บรรดาผู้เล่นทุกคนได้กลับมาพบปะกับเพื่อนร่วมทีมอีกครั้ง แลกเปลี่ยนเรื่องราวช่วงวันหยุดช่วงซัมเมอร์
อย่างไรก็ตาม ปีนี้มันจะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง...
สโมสรลิเวอร์พูล ถูกความโศกเศร้าปกคลุมนับตั้งแต่ผู้เล่นหมายเลข 20 ของพวกเขาจากไปแบบไม่มีวันกลับมา
สนามแอนฟิลด์เปลี่ยนเป็นสถานที่ไว้อาลัยชั่วคราว ผู้คนหลายพันคนหลั่งไหลมาวางดอกไม้ไว้อาลัยหรือบางคนก็มายืนเงียบ ๆ เพื่อระลึกถึง ดีโอโก้ โชต้า ผู้จากไป
เวลาผ่านมาแค่สองเดือนจากวันที่ ลิเวอร์พูล ชูโทรฟี่แชมป์ พรีเมียร์ลีก จากที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือความท้าทายสำหรับฤดูกาลต่อไป แต่คงไม่มีใครได้เตรียมใจพร้อมรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ได้
ความคิดที่จะกลับคืนสู่ภาวะปกติดูเป็นสิ่งที่ยังเร็วไปต่อความเศร้าโศกของผู้เล่นแต่ละคน
อีก 35 วันข้างหน้าจะถึงเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่ เวมบลี่ย์
คำถามคือ เมื่อไหร่นักเตะ ลิเวอร์พูล ควรจะกลับมาคิดถึงเรื่องฟุตบอลอีกครั้ง?
จากเดิมที่จะมีการเริ่มทดสอบสภาพร่างกายเมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา แน่นอนมันถูกยกเลิก และตอนนี้ทางทีมงานกำลังวางแผนให้การกลับมาฝึกซ้อมแบบค่อยเป็นค่อยไปเริ่มต้นภายในสัปดาห์นี้
เป็นเรื่องยากที่จะคาดได้ว่า มีนักเตะคนไหนในทีมของเฮดโค้ชอาร์เน่อ พร้อมที่จะกลับมาตอนนี้
ที่ เคิร์กบี้ จะกลายเป็นสถานที่ต่างจากเดิม พื้นที่ว่างในห้องแต่งตัว เสียงหัวเราะที่คุ้นเคยหายไป
ความจริงที่เกิดขึ้น สำหรับใครบางคนอาจใช้เวลานานกว่าจะปรับตัวได้ แต่สำหรับบางคนก็อาจไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปตามแต่สภาพจิตใจของแต่ละคน
เรื่องปกติของฟุตบอลที่การจากลามาในรูปแบบการย้ายทีม
ผู้เล่นเคยชินกับการเห็นเพื่อนร่วมทีมย้ายออกไป ไม่ว่าจะจากการย้ายทีม หมดสัญญา หรือแขวนสตั๊ด ซึ่งเหตุเหล่านี้ยังมีโอกาสกลับมาเจอกันอีกครั้งในฐานะคู่แข่งหรือพบปะตามนอกสนาม
แต่สิ่งที่นักเตะลิเวอร์พูล กำลังพบเจอคือ ไม่มีโอกาสได้กล่าวอำลา โชต้า
พวกเขาทำได้เพียงเขียนข้อความผ่านโซเชียล มีเดีย
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เขียนได้ถึงอารมณ์จากข้อความที่ออกมาคือ "เพื่อนร่วมทีมมาแล้วก็ไป แต่มันไม่ใช่แบบนี้"
แน่นอน ทุกคนต่างต้องเคยเผชิญความสูญเสียในชีวิต ไม่ว่าจะปู่ย่าตายาย พ่อแม่ พี่น้อง หรือเพื่อนคนสนิท
แต่ครั้งนี้คือความเศร้าที่ทุกคนร่วมแบกรับไปพร้อมกัน ต่างคนต่างเจ็บปวดและคอยประคองกันและกัน
ความเศร้าเป็นเรื่องที่คาดเดากันไม่ได้ มันอาจมาในตอนที่ไม่ทันตั้งตัว หรือหายวับไปในช่วงเวลาหนึ่ง
แต่ละคนมีวิธีรับมือแตกต่างกัน บางคนอาจต้องการเวลานานมากกว่าคนอื่น
ฟุตบอลอาจช่วยเยียวยาด้านความรู้สึก เป็นช่องทางปลดปล่อยพลังงานลบที่อยู่ในจิตใจ
พวกเขาอาจอยากกลับไปลงสนามเพื่อเป็นเกียรติแก่ โชต้า และหลายคนอาจจินตนาการถึงช่วงเวลาที่จะทำประตูและชี้ขึ้นฟ้าเพื่อรำลึกถึงเพื่อนของเขา ส่วนอีกหลายคนอาจเป็นทางตรงกันข้าม
แต่สิ่งที่เหมือนกันในคำไว้อาลัยคือความรู้สึก
"ไม่อยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง" ซาลาห์ บอกบบนั้น แล้วยังเผยต่อมาเขารู้สึกกลัวกับการต้องกลับมา ลิเวอร์พูล แล้วพบว่า โชต้า จากไปแล้วจริง ๆ
นักฟุตบอลมักถูกมองว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ หรือไม่ก็หุ่นยนต์ที่พร้อมโยนปัญหาส่วนตัวทิ้งไว้ข้างหลังแล้วทุ่มเทกับการใส่สนับแข้งสวมสตั๊ดลงสนาม
แต่เราอาจลืมไปว่า พวกเขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดา ๆ ที่พรสรรค์สร้างมาให้เอาดีในทางฟุตบอล แต่ลึก ๆ ในใจพวกเขาก็เจ็บปวดเป็นไม่ต่างจากเรา
"ความกล้าหาญ" ที่จะเข้าสกัดหนัก ๆ หรือกล้าที่จะสังหารจุดโทษในช่วงเวลากดดันจากสายตานับหมื่นคน ทว่าสิ่งที่รอ ลิเวอร์พูล อยู่ในอีกไม่กี่สัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้าคือ "ความกล้าในรูปแบบใหม่" ที่ไม่สามารถวัดค่าได้จากผลงานในสนาม
บางคนอาจเติบโตขึ้น บางคนอาจลดถอยลง ซึ่งสองอย่างต่างต้องการความเข้าอกเข้าใจ
วันแรก ๆ ช่วงแรก ๆ มันจะยากที่สุด มันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ขลุกด้วยความคิดแง่ลบอะไรต่าง ๆ
สโมสรเองได้เตรียมพร้อมช่วยเหลือเต็มที่สำหรับนักเตะและสตาฟฟ์ เพราะในยุคปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่า สุขภาพจิตมันสำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย
ตามกำหนดเดิม งานใหญ่ของ อาร์เน่อ คือการทำความรู้จักกันและกันระหว่างผู้เล่นหน้าใหม่กับผู้เล่นหน้าเก่า รวมถึงผสานสตาฟฟ์ที่เพิ่งเข้ามาอย่าง โจวานนี่ ฟาน บร้องค์ฮอร์สต์ เพื่อให้คุ้นเคยกับทุกคน โดยเป้าหมายคือการป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก และประกาศศักดาบนเวทียุโรป
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทุกอย่างมันดูไม่มีความหมาย...
ภารกิจใหญ่ของ อาร์เน่อ คือการประคับประคองนักเตะที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียเพื่อนร่วมทีมและเพื่อนสนิท
และที่สำคัญคือรับมือกับความเศร้าส่วนตัวของเขาเอง
ใช่ครับ มันคือภาระที่หนักหนาสาหัสเอามาก ๆ
โปรแกรมอุ่นเครื่องนัดแรกคือลงเตะกับ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ วันอาทิตย์นี้
เกมดังกล่าวถูกวางไว้ว่าเป็นวันที่มีโอกาสได้เห็น ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ลงสนามเป็นครั้งแรก แต่ตอนนี้มันกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการระลึกถึง
เพลงเชียร์ของ โชต้า น่าจะดังก้องไปทั่วสนามดีพเดล ที่คาดว่าจะมี เดอะ ค็อป ราว 5,656 คนเดินทางไปที่นั่น
ที่ผ่านมา โชต้า เคยช่วย ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะต่าง ๆ มากมาย และท้ายที่สุดเพื่อนร่วมทีมของเขาก็พร้อมคว้าชัยชนะแบบนั้นเพื่อเขาเช่นกัน
เพียงแต่อาจต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย...
HOSSALONSO