อาร์เซน่อลทุ่ม 13,000 ล้าน! คาด 2 ไลน์อัพล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่น 2025/26

อาร์เซน่อลทุ่ม 13,000 ล้าน! คาด 2 ไลน์อัพล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่น 2025/26
อาร์เซน่อล เสริมทัพกระหน่ำ ลุ้นล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2025/26 เต็มตัว คาดใช้งบทะลุ 13,000 ล้านบาท ดึง โยเคเรส, ซูบีเมนดี้, เอเซ่, มาดูเอเก้ และแข้งใหม่รวม 7 ราย พร้อมจัด 2 ไลน์อัพโหดครบทุกตำแหน่ง

อาร์เซน่อลไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าในการไล่ล่าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2004 โดยกำลังเดินหน้าเสริมทัพเต็มสูบในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งอาจใช้งบประมาณสูงถึงเกือบ 300 ล้านปอนด์ (ราว 13,200 ล้านบาท) เลยทีเดียว

มิเกล อาร์เตต้า นำ "เดอะ กันเนอร์ส" คว้าอันดับ 2 ในลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน โดยสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเขาต้องพลาดคว้าแชมป์ก็คือการขาดความจบคมในการจบสกอร์ โดย แต่ตอนนี้ อาร์เซน่อล อาจมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อพวกเขากำลังมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง

นับตั้งแต่ที่ อาร์เตต้า เข้ามารับงานแทนที่ อูไน เอเมรี่ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2019 เขายังไม่เคยเซ็นสัญญากับหน้าเป้าขนานแท้อย่างจริงจัง ในกรณีของ กาเบรียล เชซุส ที่มักจะถูกใช้งานในตำแหน่งปีกเป็นส่วนใหญ่ตอนเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนที่จะเป็นกองหน้าตัวหลักของ "ปืนใหญ่" ในปี 2022

ขณะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ แรกเริ่มเดิมทีมเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ก่อนที่จะโดนจับเป็นยืนหน้าเป้าให้กับ อาร์เซน่อล อย่างไรก็ตามทีมไม่เคยมีผู้เล่นหมายเลข 9 ขนานแท้เลย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทีมมีปัญหาเรื่องการจบสกอร์มาตลอด

อย่างไรก็ตามในช่วงซัมเมอร์นี้ อาร์เซน่อล กำลังจะได้ตัว วิคตอร์ โยเคเรส หัวหอกตัวเก่งจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาร่วมทัพ ซึ่งค่าตัวน่าจะประมาณ 69 ล้านปอนด์ (ราว 3,036 ล้านบาท) และแน่นอนว่าการได้เขามาเสริมแกร่ง จะทำให้แนวรุกของทีมอันตรายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

นอกจากหน้าเป้าแล้ว อาร์เตต้า เพิ่งจะได้ตัว มาร์ติน ซูบีเมนดี้ กองกลางชั้นดีทีมชาติสเปน มาจาก เรอัล โซเซียดาด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวเพียง 55 ล้านปอนด์ (ราว 2,420 ล้านบาท) 

ซูบีเมนดี้ เป็นการเซ็นสัญญารายล่าสุดของทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากที่พวกเขาคว้าตัว เกปา อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารชาวสแปนิช มาจาก "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ด้วยค่าตัวแค่ 5 ล้านปอนด์ (ราว 220 ล้านบาท) เท่านั้น

ก่อนหน้านี้ อาร์เซ่อล เพิ่งได้ตัว คริสเตียน นอร์การ์ด จาก เบรนท์ฟอร์ด ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ (ราว 660 ล้านบาท) นอกจากนี้พวกเขายังเล็ง คริสเตียน มอสเกร่า กองหลังดาวรุ่งจาก บาเลนเซีย วัย 20 ปี เสริมแนวรับ ซึ่งค่าตัวน่าจะประมาณ 17 ล้านปอนด์ (ราว 748 ล้านบาท) เพื่อหวังนำมาเป็นกองหนุนของ วิลเลี่ยม ซาลิบา 

ในส่วนของแนวรุก อาร์เซน่อล ยังหวังจะเสริมความดุดันเข้าไปอีก โดยพวกเขาล็อกเป้า เอเบเรซี เอเซ่ สตาร์คริสตัล พาเลซ ซึ่งมีค่าฉีกสัญญา 68 ล้านปอนด์ (ราว 2,992 ล้านบาท) ในฐานะตัวเลือกริมเส้นฝั่งซ้ายที่มีราคาถูกกว่า โรดรีโก้ สตาร์ชาวบราซิเลียน ของ เรอัล มาดริด อีกด้วย

ยังไม่หมดแค่นั้น อาร์เซน่อล  เพิ่งจะมีรายงานว่าตกลงเรื่องเงื่อนไขส่วนตัวกับ โนนี่ มาดูเอเก้ แนวรุกเชลซี ซึ่งสามารถเล่นริมเส้นได้ทั้งสองฝั่ง โดยการเจรจาค่าตัวน่าจะประมาณ 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,640 ล้านบาท) 

หาก อาร์เซน่อล สามารถคว้านักเตะที่พวกเขาหมายตาเอาไว้ได้ทั้งหมด นั่นจะทำให้พวกเขาต้องควักกระเป๋าในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้ถึง 289 ล้านปอนด์ (ราว 12,716 ล้านบาท) เลยทีเดียว 

ด้วยการที่ อาร์เซน่อล อาจจะได้นักเตะใหม่เข้ามาเสริมแกร่งถึง 7 ราย นั่นทำให้พวกเขามีขุมกำลังมากพอในการจัดทีม สำหรับการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2025/2026 

คาดไลน์อัพแรกของ อาร์เซน่อล 

ผู้รักษาประตู :  ดาบิด ราย่า

กองหลัง : เยอร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี่

กองกลาง : มาร์ติน ซูบีเมนดี้, มาร์ติน โอเดอการ์ด, เดแคลน ไรซ์

กองหน้า : เอเบเรซี เอเซ่, บูกาโย่ ซาก้า, วิคตอร์ โยเคเรส


ด้วยการที่มีขุมกำลังเชิงลึกที่หลากหลาย นั่นทำให้ อาร์เตต้า สามารถโรเตชั่นทีมได้ โดยเขาอาจจะมีการปรับตำแหน่งฟูลแบ็กด้วยการใช้งาน  ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ทางฝั่งซ้าย และ เบน ไวท์ ยืนทางขวา ขณะที่ตรงกลางใส่ชื่อ นอร์การ์ด เป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ส่วนด้านหน้าก็ใช้ ฮาแวร์ตซ์ กับ เอเซ่ คอยปั้นเกมบุก

ในส่วนของแนวรุก โยเคเรส ยังคงเป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม แต่ทางฝั่งซ้ายอาจใช้งาน กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ส่วนฝั่งขวา มาดูเอเก้ มีศักยภาพที่จะเล่นได้โดดเด่นไม่แพ้ ซาก้า เช่นกัน 

คาดไลน์อัพชุดสองของ อาร์เซน่อล 

ผู้รักษาประตู : ดาบิด ราย่า

กองหลัง : ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, เบน ไวท์ 

กองกลาง : คริสเตียน นอร์การ์ด, เอเบเรซี เอเซ่, ไค ฮาแวร์ตซ์ 

กองหน้า :  กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, โนนี่ มาดูเอเก้, วิคตอร์ โยเคเรส


TOMMY TEE.



ที่มาของภาพ : Reuters
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport