ซูบิเมนดี้ รั้งเบอร์ 4! จัดอันดับ 10 นักเตะค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์ อาร์เซน่อล

ในที่สุด อาร์เซน่อล ก็เปิดตัว มาร์ติน ซูบิเมนดี้ เป็นนักเตะใหม่ของสโมสรอย่างเป็นทางการแล้ว

แน่นอนว่าทีม ปืนใหญ่ ตัดสินใจลงทุนในตลาดซัมเมอร์นี้เพื่อพยายามคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นหน้าหลังจากพวกเขามีฐานะเป็นได้แค่พระรองตลอดทั้งสามซีซั่นที่ผ่านมา

จากที่เคยเป็นเป้าหมายของ ลิเวอร์พูล เมื่อซัมเมอร์ก่อนปรากฏว่ากองกลางทีมชาติ สเปน ของสโมสร เรอัล โซเซียดาด ตัดสินใจอำลาทีมในบ้านเกิดย้ายมาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก กับสโมสรดังแห่งกรุงลอนดอนแทน

จากการเซ็นสัญญาด้วยเม็ดเงิน 56 ล้านปอนด์ ส่งผลให้สตาร์ชาวเมืองกระทิงดุรั้งอันดับสี่นักเตะ ปืนโต ที่มีค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร

10. เมซุต โอซิล – 42.5 ล้านปอนด์
ปี: 2013
สโมสรเดิม: เรอัล มาดริด
เกม: 254 นัด

อาร์เซน่อล เซ็นสัญญากับ โอซิล ในวันสุดท้ายของตลาดปี 2013 ด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์
อดีตกองกลางทีมชาติ เยอรมนี สร้างชื่อพา เดอะ กันเนอร์ส ซิวแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้สามสมัยในสี่ปีแรกของเขากับสโมสร
พร้อมกันนี้ โอซิล คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ อาร์เซน่อล ในซีซั่น 2015/16 เช่นกันจากผลงาน 19 แอสซิสต์ในเกม พรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ดี หลังไม่ลงรอยกับ อูไน เอเมรี่ ต่อด้วย มิเกล อาร์เตต้า โอซิลจึงถูกโละให้ เฟเนบาห์เช่ แบบไม่มีค่าตัวในเดือนม.ค.2021

9. โธมัส ปาร์เตย์ – 45.3 ล้านปอนด์
ปี: 2020
สโมสรเดิม: แอตเลติโก มาดริด
เกม: 167 นัด

หลังตกเป็นข่าวกับ อาร์เซน่อล อยู่นาน ในที่สุดทีมจาก พรีเมียร์ลีก ก็ตัดสินใจจ่ายค่าฉีกสัญญา 45.3 ล้านปอนด์คว้า ปาร์เตย์ มาจาก แอตเลติโก มาดริด ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะปี 2020
หลังรับใช้ทีม ปืนใหญ่ นานห้าปี ดาวเตะทีมชาติ กาน่า ปฏิเสธที่จะต่อสัญญาใหม่ และสามารถย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว
ถึงกระนั้น ดาวเตะแอฟริกันถูกตำรวจอังกฤษตั้งข้อหาข่มขืน และจะต้องขึ้นศาลช่วงต้นเดือนหน้า

8. อเล็กซงด์ ลากาแซ็ตต์ – 46.5 ล้านปอนด์
ปี: 2017
สโมสรเดิม: ลียง
เกม: 206 นัด

ลากาแซ็ตต์ สอยตาข่ายได้ 37 ประตูจาก 45 นัดในซีซั่นสุดท้ายของเขากับ ลียง ซึ่งส่งผลให้ อาร์เซน่อล ดึงเขามาร่วมทีมในปี 2017 ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของสโมสรในขณะนั้น
แม้จะสร้างชื่อกับ เดอะ กันเนอร์ส ไม่ได้อย่างที่ถูกคาดหวัง แต่กองหน้าเฟรนช์แมนมีผลงานตะบันได้ 71 ประตูจาก 206 เกม และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทีมในซีซั่น 2018/19
ย้ายออกจากลอนดอนหลังหมดสัญญาท้ายซีซั่น 2021/22 โดยกลับไปเล่นให้ ลียง อีกรอบ

7. เบน ไวท์ – 50 ล้านปอนด์
ปี: 2021
สโมสรเดิม: ไบรท์ตัน
เกม: 160 นัด

อาร์เซน่อล สร้างความช็อกเซ็นสัญญากับกองหลังที่ผ่านเวที พรีเมียร์ลีก แค่ซีซั่นเดียวเท่านั้นในราคา 50 ล้านปอนด์
อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีม ไบรท์ตัน ประเดิมสนามนัดบู๊กับ เบรนท์ฟอร์ด แมตช์แรกของซีซั่น 2021/22 ได้อย่างเลวร้าย แต่สุดท้ายเขาสามารถลบคำวิจารณ์ได้สำเร็จ
ถูกโยกให้หันมาเล่นเป็นแบ็คขวาในซีซั่น 2022/23 และสร้างชื่อใน พรีเมียร์ลีก ได้อย่างยอดเยี่ยม

6. กาเบรียล เชซุส – 55 ล้านปอนด์
ปี: 2022
สโมสรเดิม: แมนฯ ซิตี้
เกม: 96 นัด

เคยร่วมงานกับ มิเกล อาร์เตต้า ที่ แมนฯ ซิตี้ ช่วงที่กุนซือสแปนิชสวมบทมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กระทั่งได้ย้ายมาร่วมงานกันต่อในทีม อาร์เซน่อล ช่วงซัมเมอร์ปี 2022 ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์
กระทุ้งได้ 11 ประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นแรกกับ เดอะ กันเนอร์ส พาทีมคว้าอันดับรองแชมป์ต่อจาก เรือใบสีฟ้า โดยทีมเมืองหลวงได้โควต้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก หนแรกในรอบหกปี
อย่างไรก็ดี ซีซั่น 2023/24 กองหน้าทีมชาติ บราซิล คลำเป้าในเกมลีกได้แค่ 4 ประตูก่อนเดี้ยงยาวในช่วงครึ่งหลังของซีซั่นกระทั่งเสียตำแหน่ง 11 คนแรกในทีม

5. ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง – 56 ล้านปอนด์
ปี: 2018
สโมสรเดิม: ดอร์ทมุนด์
เกม: 163 นัด

เป็นนักเตะคนสุดท้ายที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ดึงมาร่วมทีมในเดือนม.ค.2018 ด้วยค่าตัว 56 ล้านปอนด์
สร้างชื่อได้เยี่ยมโดยได้รางวัลดาวซัลโวของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2018/19 และพาทีม ปืนใหญ่ ซิวแชมป์ เอฟเอ คัพ ซีซั่น 2019/20
ฟอร์มตกอย่างหนักหลังต่อสัญญาใหม่รับค่าแรงเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ในเดือนก.ย.2020 ก่อนถูกยกเลิกสัญญาด้วยความเห็นชอบของทั้งสองฝ่ายในเดือนก.พ.2022

4. มาร์ติน ซูบิเมนดี้ – 56 ล้านปอนด์
ปี: 2025
สโมสรเดิม: เรอัล โซเซียดาด
เกม: ยังไม่ได้ประเดิมสนาม

เคยปฏิเสธย้ายมาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ก่อนกลายมาเป็นสมาชิกใหม่ของ อาร์เซน่อล ด้วยเม็ดเงินที่สูงกว่าค่าฉีกสัญญาเล็กน้อย
"มาร์ติน เป็นนักเตะที่จะนำคุณภาพที่สูงส่งมามอบให้กับทีมของเรา เขาจะเข้ากับเราได้ดี และจะเป็นคีย์แมนของเรา" อาร์เตต้า เอ่ยต้อนรับนักเตะร่วมชาติ

3. ไค ฮาแวร์ตซ์ – 65 ล้านปอนด์
ปี: 2023
สโมสรเดิม: เชลซี
เกม: 87 นัด

แม้จะฟอร์มไม่สู้ดีกับ เชลซี แต่ อาร์เตต้า ประทับใจฝีเท้าของดาวเตะทีมชาติ เยอรมนี มากพอกระทั่งยอมจ่ายค่าตัว 62 ล้านปอนด์ที่มีค่าแอดออน 3 ล้านปอนด์
เริ่มต้นกับทีม ปืนใหญ่ ได้อย่างเชื่องช้าก่อนจบซีซั่นแรกโดยสอยตาข่ายได้ 13 ประตู และ 7 แอสซิสต์ในเกมลีกจนกลายเป็นขวัญใจแฟนบอล ท็อปกัน แม้ทีมจะกระหายเซ็นสัญญากับศูนย์หน้าคนใหม่

2. นิโกลาส์ เปเป้ – 72 ล้านปอนด์
ปี: 2019
สโมสรเดิม: ลีลล์
เกม: 112 นัด

แม้ เอเมรี่ หวังคว้า วิลฟรีด ซาฮา มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 แต่ลงเอยแล้ว อาร์เซน่อล เซ็นสัญญากับ เปเป้ แทน
เป็นคีย์แมนพาทีมซิวแชมป์ เอฟเอ คัพ ซีซั่น 2019/20 โดยกระทุ้งประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศได้
อย่างไรก็ดี ศูนย์หน้าทีมชาติ ไอวอรี่ โคสต์ ล้มเหลวกับการตอบแทนสโมสรด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์ และโดน บูคาโย่ ซาก้า นักเตะในอะคาเดมี่แย่งตำแหน่ง
ถูกปล่อยให้ นีซ ยืมไปใช้งานในซีซั่น 2022/23 ก่อนที่ทีม ปืนใหญ่ จะตัดสินใจยกเลิกสัญญากับเขาในเดือนก.ย.2023

1. เดแคลน ไรซ์ – 105 ล้านปอนด์
ปี: 2023
สโมสรเดิม: เวสต์แฮม
เกม: 103 นัด

หลังพา เดอะ แฮมเมอร์ส คว้าแชมป์ ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ได้ในปี 2023 ไรซ์ ก็ตัดสินใจอำลาทีมเชียร์ในวัยเด็กของเขา
อาร์เซน่อล ทุบสถิติค่าตัวของสโมสรแย่งตัวมิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ ได้จาก แมนฯ ยูไนเต็ด และ บาเยิร์น มิวนิค จากการจ่ายเงิน 100 ล้านปอนด์โดยมีค่าแอดออน 5 ล้านปอนด์
แม้จะมีค่าตัวมหาศาล แต่ ไรซ์ โชว์ฟอร์มได้คุ้มกับเม็ดเงินตั้งแต่ซีซั่นแรกของเขากับทีม ปืนใหญ่ และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ของ พีเอฟเอ ในซีซั่น 2023/24 ก่อนได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ อาร์เซน่อล ในซีซั่น 2024/25