ดีโอโก้ โชต้า ผู้จากไปกับรักแท้ที่ไม่มีวันตาย

ดีโอโก้ โชต้า ผู้จากไปกับรักแท้ที่ไม่มีวันตาย
บนโลกฟุตบอลที่เต็มไปด้วยกระแสชื่อเสียง แสงสียั่วยวนใจ และแสงไฟที่สาดส่องเข้ามา ไม่ใช่ทุกคนที่จะเดินผ่านมันไปโดยไม่ลืมว่าตัวเองเริ่มต้นมาจากที่ใด...

แต่สำหรับ ดีโอโก้ โชต้า นักฟุตบอลหนุ่มผู้เลือกจะเดินอย่างเรียบง่าย เคียงข้างหญิงสาวคนเดียวที่เขารักมาตั้งแต่วัยเยาว์ 

เรื่องราวของเขาไม่ใช่แค่เรื่องของนักฟุตบอลที่โด่งดัง แต่คือเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่ทุ่มเททั้งหัวใจให้กับครอบครัว ความรัก และความฝัน

การเดินทางอย่างไม่มีวันกลับของ ดีโอโก้ โชต้า ในวัย 28 ปี จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้สร้างความโศกเศร้าให้กับคนทั้งวงการฟุตบอลทั่วโลก รวมถึงครอบครัว โดยเฉพาะ รูท การ์โดโซ ภรรยาผู้เป็นคู่ชีวิต และลูกทั้งสามคนที่ยังไร้เดียงสา

ในบทสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ A Bola เมื่อปี 2016 รูท เล่าถึงความทรงจำในวันเก่า ๆ ว่า

"ดีโอโก้ อยู่ที่เมือง กอนโดมาร์ อยู่ก่อนแล้ว ส่วนฉันเพิ่งย้ายมาจากเมือง โจวิม ตอนเข้าเรียนมัธยมปลาย แล้วเราก็ได้อยู่ห้องเดียวกัน"

"เขาเป็นคนตั้งใจเรียนในบางเรื่อง แต่ก็มีมุมที่ดูไม่ค่อยสนใจเหมือนกัน ถึงอย่างนั้นเขาก็สอบได้คะแนนดีแบบแทบไม่ต้องอ่านหนังสือ จะเริ่มอ่านจริงจังแค่สองวันก่อนสอบเท่านั้น"

ความรักของ โชต้า และ รูท ไม่ได้เริ่มต้นจากแสงสีที่ส่องมาบนวงการลูกหนัง แต่มีจุดเริ่มในห้องเรียนธรรมดาห้องหนึ่ง... 

ย้อนกลับไปในปี 2012 เมื่อทั้งสองยังเป็นเพียงวัยรุ่นอายุ 15 ปี ทั้งคู่ได้พบกันขณะเรียนอยู่รั้วโรงเรียนเดียวกันที่ โปรตุเกส และจุดเริ่มต้นของความรักก็มาจากตรงนี้

ความสัมพันธ์เริ่มจากเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ นั้นจะกลายมาเป็นเรื่องราวชีวิตคู่ที่ยิ่งใหญ่ในวันหนึ่ง

ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ตั้งแต่ 2012-2019 โชต้ากับ รูท เดินทางร่วมกันข้ามประเทศถึง 3 แห่ง เที่ยวด้วยกันกว่า 10 ประเทศ และไม่เคยเปลี่ยนไปจากเด็กน้อยในวันวาน 

พวกเขายังหัวเราะง่าย ยังมีความสุขกับเรื่องเล็ก ๆ และยังใช้ชีวิตด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยพลังเหมือนเดิม

แม้จะต้องเผชิญทั้งช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขและความยากลำบาก แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยปล่อยมือกัน พวกเขาคอยสนับสนุนผลักดันกันและกัน เดินไปข้างหน้าด้วยแรงใจที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้ในทุกย่างก้าว

ความรักของทั้งสองไม่ใช่เพียงแค่การเติบโตไปด้วยกันในช่วงวัยรุ่น แต่คือคำมั่นที่จะแก่เฒ่าไปด้วยกันในอนาคต และสำหรับรูท ไม่มีแม้แต่ "ความตาย" ที่จะพรากหัวใจของเธอกับดิโอโก้ออกจากกันได้อีกต่อไปแล้ว

"เราเติบโตมาด้วยกัน และจะแก่ไปด้วยกันด้วย! 7 ปีก่อนเราเคยบอกว่ามีแต่ความตายเท่านั้นที่จะพรากเราออกจากกันได้ แต่วันนี้ฉันบอกเลยว่าความตายก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้แล้ว" 

นั่นคือสิ่งที่ฝ่ายหญิงเคยโพสต์ไว้เมื่อปี 2019

ความรักที่มั่นคงเดินหน้าต่อเนื่อง 

กระทั่งเมื่ออายุ 19 ปี ทั้งสองก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่ร่วมกัน ซึ่งเป็นช่วงที่ โชต้า ได้รับโอกาสครั้งใหญ่ในอาชีพ ด้วยการย้ายจาก ปากอส เด เฟอร์ไรร่า สโมสรในบ้านเกิด ไปร่วมทีม แอตเลติโก มาดริด ที่ สเปน

เพื่อเป็นแรงสนับสนุนข้างกายอย่างเต็มที่ รูท ยอมสละอนาคตทางการศึกษาที่มหาวิทยาลัย เพื่อมาอยู่เคียงข้าง โชต้า

"นอกจากจะเป็นแฟนและเพื่อนที่ดีที่สุดแล้ว ฉันยังเป็นแฟนคลับเบอร์หนึ่งของเขาอีกด้วย ฉันอยากอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา" รูท กล่าวในบทสัมภาษณ์เดิม

กว่าทศวรรษที่ความสัมพันธ์ดำเนินมา ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสามคน โดยคนเล็กเพิ่งเกิดเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่ามกลางชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก

เมื่อเดือนที่แล้ว โชต้า และ รูท เพิ่งจัดพิธีแต่งงานอย่างเรียบง่ายในเมือง ปอร์โต้ พร้อมเผยภาพหวานลงในโซเชียลมีเดีย ท่ามกลางคำยินดีจากแฟนบอลทั่วโลก และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รูท ยังได้เปิดอัลบั้มภาพถ่ายจากวันแต่งงาน พร้อมแคปชั่นซึ้งกินใจว่า

"ความฝันของฉันได้กลายเป็นความจริง"

ในคอมเมนต์ใต้โพสต์นั้น โชต้า ก็ตอบกลับด้วยความรักว่า

"แต่คนที่โชคดีคือผมต่างหาก"

ถ้อยคำสุดท้ายจากผู้ชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย รักครอบครัว และไม่เคยหลงแสงสีของชื่อเสียง กลายเป็นประโยคที่บีบหัวใจที่สุดเมื่อย้อนมองจากวันนี้

ดีโอโก้ โชต้า อาจไม่ได้อยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว แต่เรื่องราวความรักของเขาและคนที่เขารักจะยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน 

และเป็นบทพิสูจน์ว่า เบื้องหลังความสำเร็จของนักฟุตบอลระดับโลกคนหนึ่ง คือพลังใจจากคนข้าง ๆ ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน

HOSSALONSO



ที่มาของภาพ : -
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport