ส่อง 6 เหตุผลที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรเซ็น มาร์ติเนซ จาก แอสตัน วิลล่า แทน อ็องเดร โอนาน่า ทั้งเรื่องฟอร์ม, ทัศนคติ, ประสบการณ์ และบทบาทผู้นำในทีม ก่อนตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ปิดฉาก
นอกจากนักเตะในตำแหน่งกองหน้าแล้ว แมนยู ยังถูกลือกับ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายทวารทีม แอสตัน วิลล่า อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
นั่นเป็นเพราะว่านับตั้งแต่ อ็องเดร โอนาน่า ย้ายมาจาก อินเตอร์ มิลาน นายทวารทีมชาติ แคเมอรูน ไม่เคยทำให้สาวก ปีศาจแดง ปลาบปลื้มไปกับฝีไม้ลายมือของเขาเลย
แม้ เอริค เทน ฮาก กุนซือคู่บุญจะกระเด็นออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปแล้ว สถานการณ์ของ โอนาน่า ก็ยังไม่กระเตื้องขึ้นเนื่องจากว่ากันว่า รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีสไม่แฮปปี้กับฟอร์มของเขาเช่นกัน และกระหายโละออกจากทีมในซัมเมอร์นี้
ถึงขณะนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังพยายามปิดดีล ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ให้ได้เป็นอันดับแรก และหากประสบผลสำเร็จก็ไม่แน่ว่า โอนาน่า จะได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมชาติที่ย้ายมาจากทีม เบรนท์ฟอร์ด หรือเปล่าหาก ผีแดง เดินเกมทาบซื้อ มาร์ติเนซ ต่อทันที
อย่างไรก็ดี นี่คือ 6 เหตุผลที่ แมนฯ ยูไนเต็ด สมควรดึงนายทวารทีม สิงห์ผงาด มาเฝ้าเสาแทน โอนาน่า
1. ความผิดพลาดที่ซ้ำซาก
ตอนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญากับ โอนาน่า ในปี 2023 มีการสรรเสริญกันว่ามือกาวแอฟริกันมีทักษะเล่นบอลกับเท้าได้ดีตามสไตล์ผู้รักษาประตูสมัยใหม่ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการของ เทน ฮาก อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี การขยันออกมาเล่นหน้าปากประตูของนายทวารค่าตัว 47 ล้านปอนด์กลายเป็นจุดอ่อนของ ผีแดง ไปซะฉิบเนื่องจาก โอนาน่า เป็นตัวการทำให้ทีมเสียประตูหลายหน
ไม่เพียงจะโดนล็อบบอลจากครึ่งสนามในเกมประเดิมนัดบู๊กับ ล็องส์ ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเกมกระชับมิตร เขายังก่อความผิดพลาดในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก แมตช์บู๊กับ บาเยิร์น มิวนิค และสองนัดกับ กาลาตาซาราย ก่อนที่ ผีแดง จะกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มในฐานะทีมบ๊วย
นอกจากนี้ ในศึก ยูโรปา ลีก ซีซั่นก่อน โอนาน่า ก่อความผิดพลาดอีกจนได้ในเกมบู๊กับ ลียง หลังเปิดประเด็นทำสงครามน้ำลายกับ เนมานย่า มาติช อดีตกองกลาง ผีแดง แม้สุดท้ายแล้วทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด จะได้เข้าชิงชนะเลิศ แต่ก็คว้าโทรฟี่มาครองไม่ได้
หลังรับใช้ แมนฯ ยูไนเต็ด มาถึงตอนนี้ มันชัดเจนว่า โอนาน่า ไม่มีพัฒนาการในทางบวกเลยโดยเกม พรีเมียร์ลีก นัดเฉือนชนะ อิปสวิข 3-2 ในบ้านเมื่อเดือนก.พ.โอนาน่า สื่อสารกับ แพทริค ดอร์กู ไม่ดีพอเช่นกัน
2. อโมริม ไม่ใช่ เทน ฮาก
แน่นอนว่า อโมริม ไม่ได้เป็นคนเซ็นสัญญากับ โอนาน่า และไม่ต้องสงสัยเลยว่านายใหญ่วัย 40 ปีไม่ปลื้มที่ทีมต้องเสียประตูบ่อยครั้ง
แม้จะปฏิเสธตอบคำถามของสื่ออย่างชัดเจนถึงการมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่มาแทนที่ โอนาน่า แต่คำตอบของ อโมริม น่าจะสื่ออยู่ในที
"เราจำเป็นต้องปรับปรุงทุกตำแหน่งในสนาม ไม่เฉพาะตำแหน่งใดตำแหน่งเดียว" อโมริม กล่าว
และด้วยเหตุที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จบอันดับ 15 ของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นก่อน อโมริม จึงน่าจะต้องการนายทวารคนใหม่หากมีความเป็นไปได้ว่าสโมสรพร้อมจัดหาให้เนื่องจากมีข้อพิสูจน์บ่งชี้ว่าอดีตมือกาวทีม อาแจ็กซ์ เทียบไม่ได้เลยกับผู้รักษาประตูหลายรายที่สร้างชื่อให้กับสโมสร รวมทั้ง ดาบิด เด เคอา ที่ถูกเขาเสียบแทน
ทำไปทำมา นอกจากเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะแย่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โอนาน่า ยังย้ายมาเพิ่มความบรรลัยให้กับทีมเช่นกัน
ฉะนั้นแล้วทางที่ดี แมนฯ ยูไนเต็ด จึงสมควรต้องซ่อมแซมหลังบ้านของตัวเองซึ่งเป็นรากฐานสำคัญก่อน และตลาดซัมเมอร์นี้เป็นโอกาสอันดีที่พวกเขาจะปีดดีล มาร์ติเนซ ให้ย้ายมาเฝ้าเสาแทนนายทวารแอฟริกัน
3. มาร์ติเนซ-โอนาน่า คนละชั้น
แรกเริ่มเดิมที มาร์ติเนซ อำลาบ้านเกิดมาเป็นนักเตะในอะคาเดมี่ของ อาร์เซน่อล ตั้งแต่อายุ 17 ปี
และก่อนจะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ปืนโต ได้ นายทวารเลือดฟ้าขาวถูกปล่อยให้ทีมในดิวิชั่นต่ำยืมไปใช้งานหลายสโมสรทั้ง อ็อกซ์ฟอร์ด , วูล์ฟส์ , เรดดิ้ง , เชฟฯ เว้นส์เดย์ และ ร็อตเตอร์แฮม ยูไนเต็ด
อย่างไรก็ดี อนาคตของ มาร์ติเนซ กับสโมสรดังแห่งกรุงลอนดอนไม่มีความมั่นคง และหลังได้ลงสนามรวมทุกรายการ 38 นัด เขาก็ถูกขายให้กับ แอสตัน วิลล่า
นับจากนั้น มาร์ติเนซ ก็เริ่มโชว์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์โดยเฉพาะในเกมทีมชาติซึ่งเขาพา อาร์เจนติน่า คว้าตำแหน่ง แชมป์โลก ได้ รวมถึงแชมป์ โกปา อเมริกา อีกสองสมัย
ในศึก โกปา อเมริกา ปี 2021 รอบรองชนะเลิศ มาร์ติเนซ เซฟสามลูกโทษพาทีมคว่ำ โคลอมเบีย จากการอาศัยลูกเล่นทางจิตวิทยาทำลายสมาธิของฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นที่ได้ยินอย่างชัดเจนเนื่องจากสนามปราศจากแฟนบอลในช่วงที่โควิด19แพร่ระบาด
จากนั้น มาร์ติเนซ ก็เป็นฮีโร่เซฟลูกโทษอีกในเกม ฟุตบอลโลก รอบแปดทีมนัดชนะ เนเธอร์แลนด์ และนัดชิงชนะเลิศกับ ฝรั่งเสส รวมถึงรอบแปดทีมศึก โกปา อเมริกา นัดซดเกือกกับ เอกวาดอร์ ด้วย
รวมแล้ว มาร์ติเนซ คว้ารางวัลถุงมือทองคำทั้งสามทัวร์นาเมนต์ ตลอดจนได้รางวัล ยาชิน โทรฟี่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน บัลลงดอร์ ในปี 2023 และ 2024 ในฐานะผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก รวมทั้งได้ตำแหน่งนายทวารยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า ในปี 2022 และ 2024
4. นายทวารต้องใช้มือ ไม่ใช่เท้า
แม้วงการฟุตบอลยุคใหม่จะมองว่าผู้รักษาประตูสมควรใช้เท้าเล่นฟุตบอลได้ แต่ มาร์ติเนซ เห็นแย้งว่าตำแหน่งของเขาสมควรต้องช่ำชองกับการใช้มือมากกว่าเท้า
"ตอนนี้คำถามแรกของวงการฟุตบอลคือผู้รักษาประตูใช้เท้าได้ดีหรือเปล่า? มาร์ติเนซ เอ่ยกับ อีเอสพีเอ็น ก่อนเสริมว่า "สโมสรอาจมองหาผู้รักษาประตูที่มีทักษะในการใช้เท้าเล่นบอล แต่ผมโฟกัสถึงความจำเป็นของการเซฟประตูมากกว่าเล่นบอลด้วยเท้า หากผมเซฟได้ ผมก็จะได้แชมป์"
มองดูทัศนคติของ มาร์ติเนซ แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด จึงสมควรเซ็นสัญญากับเขาอย่างยิ่งเพื่อแก้ปัญหาที่เรื้อรังมานานเนื่องจากสโมสรต้องการนายทวารมือกาวที่แท้จริง
สำหรับประเด็นนี้ เด เคอา ถือเป็นผู้รักษาประตูที่เซฟลูกยิงได้ดีเช่นกัน แต่เขาไม่ได้รับการต่อสัญญาด้วยถูกมองว่าไม่มีทักษะใช้เท้าบิลด์เกมจากแดนหลังให้กับทีม
ต่อปัญหาดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด จึงพยายามมองหานายทวารที่เล่นบอลด้วยเท้าได้เช่นเดียวกับ เอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูทีม แมนฯ ซิตี้ แต่สิ่งที่ ผีแดง ไม่มีเหมือน เรือใบสีฟ้า คือนักเตะกองหลังขาดทักษะและความคล่องตัว รวมถึงความสามารถเฉพาะตัวที่จะต่อเกมขึ้นมาจากหน้าบ้านได้โดยเฉพาะเมื่อถูกแผงรุกของทีมคู่แข่งเข้าเพรส
ในเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด มีแนวรับที่เปราะบาง การมี มาร์ติเนซ คอยป้องกันตาข่ายจึงน่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดแม้เขาจะมีอายุ 32 ปีแล้วก็ตาม แต่อย่างที่เห็นกันว่าผู้รักษาประตูเป็นตำแหน่งพิเศษที่อายุไม่ใช่อุปสรรค
5. แมนยู ต้องการ ชไมเคิ่ล คนใหม่
มาร์ค บอสนิช ซึ่งเคยเฝ้าเสาให้กับทั้ง แอสตัน วิลล่า และ แมนฯ ยูไนเต็ด ยกย่อง มาร์ติเนซ ว่าทำให้เขาหวนคิดถึง ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล มือกาวระดับตำนานของ เธียเตอร์ ออฟ ดรีม
"ทั้งสองมีแนวทางการเล่นที่คล้ายกัน สำหรับกองหน้า มันไม่ดีแน่ที่ต้องเห็นนายทวารร่างใหญ่เผชิญหน้ากับพวกเขา" อดีตนายทวารทีมชาติ ออสเตรเลีย เอ่ยเอาไว้กับ ดิ แอธเลติก
ว่าถึงแคแรกเตอร์ มาร์ติเนซ กับ ชไมเคิ่ล มีความคล้ายคลึงกันตรงที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี และตะโกนสั่งการกองหลังตลอดเวลาซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีให้เห็นในตัว เด เคอา
แน่นอนว่า โอนาน่า มีบุคลิกดังกล่าวเช่นกัน แต่ที่แตกต่างไปก็คือเขามักแสดงให้เห็นถึงความสะเพร่าจนกลายเป็นความประมาทบ่อยครั้ง
บอสนิช เสริมถึงข้อด้อยของ มาร์ติเนซ ที่นิยมต่อปากต่อคำกับฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งแสดงอากัปกริยาที่ฉาวโฉ่บ่อยครั้งว่า "หากคุณมองดูพื้นเพอาชีพของเขา มันก็พอจะเข้าใจได้ถึงความยะโสของเขาอย่างที่ผู้คนมอง"
"แต่อย่าลืมว่า เอมี่ มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม หากเขาไม่มั่นใจ เขาจะไม่แสดงออกแบบนั้นแน่ และบางทีความมั่นใจก็ทำให้ผู้คนมองว่าเป็นความยะโส"
6. ผีแดง สบโอกาสเหมาะ
แม้ มาร์ติเนซ จะมีค่าตัว 40 ล้านปอนด์ซึ่งถือว่าสูงสำหรับนายทวารวัยเลขสามเนื่องจากเขายังเหลือสัญญากับถิ่น วิลล่า พาร์ค จนถึงปี 2029 แต่มันเป็นโอกาสเหมาะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้นายทวารชั้นดีมาทำหน้าที่แทน โอนาน่า แม้เขาจะมีอาย 33 ปีในเดือนก.ย.ก็ตาม
ที่แน่ๆ มาร์ติเนซ มีประสบการณ์ใน พรีเมียร์ลีก และเขาไม่จำเป็นต้องปรับตัวเหมือนที่ โอนาน่า ย้ายมาจาก เซเรีย อา และจนวันนี้เขาอาจยังไม่คุ้นชินกับฟุตบอลอังกฤษเลยก็ว่าได้
ขณะเดียวกัน ในวัย 32 ปี มาร์ติเนซ ไม่ต่างอะไรกับ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ซึ่งกว่าที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะได้เขามาร่วมทีมสมใจก็ต้องรอจนมือกาวดัตช์มีอายุ 34 ปีช่วงที่เขาย้ายมาจาก ฟูแล่ม ในปี 2005
และอย่างที่เห็น ฟาน เดอร ซาร์ พาทีม ผีแดง คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สี่ครั้ง และแชมป์ ลีก คัพ สองครั้ง รวมถึงแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย
แม้ ฟาน เดอร์ ซาร์ จะมีบุคลิกต่างไปจาก มาร์ติเนซ แต่ที่เหมือนกันคืออายุไม่ได้เป็นข้อด้อยของนายทวาร หากแต่มันหมายถึงประสบการณ์ที่เปี่ยมล้นซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพาทีมรอดพ้นจากการเสียประตู
พูดถึงประสบการณ์ บอกเลยว่าไม่มีสถานการณ์ไหนกดดันมากไปกว่าการเล่น ฟุตบอลโลก นัดชิงชนะเลิศอย่างแน่นอน และ มาร์ติเนซ ผ่านจุดนี้มาแล้วซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมเป็นที่พึ่งสุดท้ายของทีมได้
ยิ่งไปกว่านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ถูกวิจารณ์มานานว่าไร้นักเตะที่เป็นผู้นำในทีม ฉะนั้นแล้วการคว้า มาร์ติเนซ มาเสริมทัพจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้ทีมไปในตัวเช่นกัน