เมื่อ ลิเวอร์พูล มาเคาะเรียกหาหน้าบ้าน

ฤดูกาลที่แล้ว เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ คือคู่เซนเตอร์แบ็กที่พาทีมของเฮดโค้ชอาร์เน่อ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก

แต่ด้วยสถานการณ์ไม่แน่นอนของ โกนาเต้ ที่กำลังเข้าสู่ปีสุดท้ายของสัญญา ทำให้ความสนใจในตัว เกอี ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจ

ถามว่า เกอี อยากย้ายมาเล่นที่ ลิเวอร์พูล รึเปล่า ? คำตอบมันชัดเจนแทบไม่ต้องคิด เมื่อมองว่า ลิเวอร์พูล มีโปรเจกต์ที่น่าหลงใหลที่สุดในวงการฟุตบอลยุโรปตอนนี้ 

การเสริมทัพช่วงหน้าร้อน 2025 ที่ดึงนักเตะอย่าง ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ มาครอบครองได้ ยิ่งตอกย้ำความน่าดึงดูดของสโมสร

อย่างไรก็ตาม ความจริงไม่ได้เรียบง่ายถึงขั้นตอบได้แค่ Yes หรือ No

สำหรับ เกอี แล้ว สภาพแวดล้อมที่ตัวเองจะย้ายไปต้องเหมาะสมและน่าพึงพอใจ

พอจะจินตนาการได้ว่า เกอี คงอยากได้รับสัญญาณหรือคำชี้แจงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับบทบาทในแผนของ อาร์เน่อ ก่อนจะตัดสินใจจริงจังว่าจะย้ายขึ้นไปทางตอนเหนือ อังกฤษ หรือไม่

เวลานี้ เขาคือผู้เล่นตัวหลักของ พาเลซ เป็นกัปตันทีม อีกทั้งยังมีฟุตบอลยุโรปรออยู่ในฤดูกาลหน้า (แม้จะขึ้นอยู่กับผลการสอบสวนของ ยูฟ่า ว่า พาเลซ ขัดกับกฎการถือครองสโมสรร่วมหลายทีมหรือไม่) และเขายังสามารถย้ายแบบไร้ค่าตัวในปีหน้าหากต้องการไปเล่นให้กับสโมสรระดับท็อปในยุโรป 

ดังนั้น การอยู่กับ คริสตัล พาเลซ ต่อไปจนหมดสัญญาก็มีข้อดีในตัวของมันเอง

การย้ายไป ลิเวอร์พูล ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ทว่าความทะเยอทะยานบนระดับทีมชาติอังกฤษ น่าจะมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจขั้นสุดท้าย โดยเฉพาะในปีที่มีฟุตบอลโลกรออยู่

เมื่อปีที่แล้ว เกอี โดดเด่นขึ้นมาเป็นหนึ่งในสตาร์ของทีมชาติอังกฤษ ชุดยูโร 2024 แต่พอผ่านไป 12 เดือน ทุกอย่างกลับไม่แน่นอนเหมือนเดิม

เซาธ์เกต ลาออกจากตำแหน่ง, ลี คาร์สลีย์ กลับไปคุมทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 และ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามารับงานแทน

สถานะของ เกอี ในทีมของ ทูเคิ่ล ยังค่อนข้างคลุมเครือ และด้วยเหตุนี้เอง การมีฤดูกาลที่ดีที่ ลิเวอร์พูล พร้อมกับการประเดิมสนามใน แชมเปียนส์ ลีก อาจช่วยให้เขายึดตำแหน่งในแผนของทีมชาติอังกฤษ ไว้ได้ก่อนถึงฟุตบอลโลก 2026

อย่างไรก็ตาม หาก เกอี ได้รับความรู้สึกว่าเขาจะต้องใช้ทั้งฤดูกาลนั่งสำรองให้กับ ฟาน ไดค์ และ โกนาเต้ แล้วล่ะก็ การย้ายทีมครั้งนี้อาจจะเจออุปสรรคใหญ่ที่ยากจะข้ามผ่านได้

ท้ายที่สุด เมื่อทีมแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล เคาะประตูเรียกถึงหน้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นปีนี้หรือปีหน้า ก็คงเป็นเรื่องยากที่ใครจะทำเป็นไม่สนใจ

HOSSALONSO