5 เหตุผลที่ อาร์เซน่อล ต้องคว้า เบนจามิน เซสโก้ ล่าตาข่ายพรีเมียร์ลีก

อาร์เซน่อล พยายามที่จะเซ็นสัญญากับหน้าเป้าตัวใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยตัวเลือกของพวกเขามีอยู่สองรายนั่นก็คือ เบนจามิน เซสโก้ กับ วิคตอร์ โยเคเรส 

"ปืนใหญ่" ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อฤดูกาลล่าสุด จากการที่พวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลย โดยเฉพาะในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งทีมต้องจบด้วยอันดับรองแชมป์สามซีซั่นติดต่อกัน และหนึ่งในเหตุผลที่ทีมล้มเหลวมาจากการขาดหน้าเป้าธรรมชาติในการจบสกอร์

ด้วยเหตุนี้ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือชาวสแปนิช ตัดสินใจที่จะคว้าตัวดาวยิงหมายเลข 9 มาร่วมทีมให้ได้ เพราะถึงแม้ ไค ฮาแวร์ตซ์ จะเล่นได้ดีในตำแหน่งดังกล่าว แต่ก็ไม่ใช้ดาวยิงธรรมชาติอย่างที่เขาต้องการ

สำหรับออปชั่นของ อาร์เตต้า มีอยู่สองตัวเลือกนั่นก็คือ เซสโก้ หัวหอกตัวเก่งจากแอร์เบ ไลป์ ซิก กับ โยเคเรส ดาวยิงเนื้อหอมสปอร์ติ้ง ลิสบอน แต่ดูเหมือนว่าใจของเจ้าตัวจะเอนเอียงไปที่ กองหน้าทีมชาติสโลวีเนีย มากกว่า

แล้วมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ อาร์เซน่อล เชื่อว่า เซสโก้ คือคนที่เหมาะสมที่จะเข้ามาแก้วิกฤติการจบสกอร์ของทีม มาลองพิจารณากันได้เลย 

1. อายุน้อยพัฒนาได้อีกเยอะ

เซสโก้ เพิ่งอายุเพียง 21 ปีเท่านั้นแต่ผ่านประสบการณ์ลูกหนังระดับอาชีพมาอย่างโชกโชนนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้ เรด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก เมื่อปี 2019 

นอกจากจะอายุน้อยแล้ว ความสูงของนักเตะกว่า 6 ฟุต 4 นิ้วหรือ 195 เซนติเมตร เขายังเป็นผู้เล่นที่มีความเร็วสูง ด้วยผลงานที่โดดเด่นทำให้ เซสโก้ โดนนำไปเปรียบเทียบกับ เออร์ลิง ฮาลันด์ ซึ่งประกาศศักดาการเป็นยอดดาวยิงบนเวทียุโรปสมัยที่ค้าแข้งในซัลซ์บวร์กเช่นกัน 

หัวหอกชาวสโลวีเนีย ซัดไป 29 ประตูกับ 11 แอสซิสต์ จากการเล่น 79 เกมตลอด 2 ฤดูกาลให้กับ ซัลซ์บวร์ก และอีก 22 ประตูจาก 44 แมตช์ตอนที่โดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ เอฟซี ไลเฟอลิ่ง ในช่วงเวลาดังกล่าว

 ฟอร์มที่โดดเด่นทำให้เขาได้รับความสนใจจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แต่ ซัลซ์บวร์ก แสดงออกอย่างชัดเจนว่า เซสโก้ เป็นแข้งคนสำคัญของทีมโดยพร้อมปล่อยเขาไปอยู่กับ "ผีแดง" เท่านั้น แต่มีข้อแม้ แมนยู ต้องยื่นข้อเสนอ 300 ล้านปอนด์ (ราว 13,200 ล้านบาท) บวก บรูโน่ แฟร์นันด์ส 

สุดท้าย แอร์เบ ไลป์ซิก คว้าชิ้นปลาเข้าปากไปแบบสบายๆ ด้วยค่าตัวแบบสมเหตุสมผลจำนวนกว่า 20 ล้านปอนด์ (ราว 880 ล้านบาท) เมื่อซัมเมอร์ปี 2023

2. พิสูจน์ตัวเองกับเกมลีกสุดหินในบุนเดสลีกา

นี่คือนักเตะที่พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพชั้นยอดจากการไปเล่นกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี เพราะนี่คือลีกที่ช่วยขัดเกลาฝีเท้าให้นักเตะแข็งแกร่ง และเฉียบคมมากยิ่งขึ้น

เซสโก้ สามารถตะบันตาข่ายคู่แข่ง 7 เกมหลังสุดในเกมบุนเดสลีกา ฤดูกาลเดบิวต์ และทำให้เขาจบซีซั่น 2023/2024 ด้วยการซัดไป 14 ประตูทั้งๆ ที่ลงสนามเป็นตัวจริงในลีกสูงสุดเมืองเบียร์เพียง 17 เกมเท่านั้น

นักเตะมักจะยกระดับฟอร์มการเล่นได้ดีมากๆ ในการสู้กับทีมใหญ่ๆ และตะบันประตูใส่ทีมอย่าง "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค, "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ "ม้าขาย" สตุ๊ตการ์ท มาแล้ว

นอกจากนี้ เซสโก้ ยังตะบันในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ประตู และ เดเอฟเบ โพคาล 2 ประตู ทำให้เขาจบซีซั่นเดบิวต์ด้วยสถิติการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายเบ็ดเสร็จ 18 ประตูจากทุกรายการ 

สำหรับฤดูกาล 2024/2025 เซสโก้ ยังคงรักษามาตรฐานชั้นดีด้วยการซัดไป 21 ประตูกับ 6 แอสซิสต์จากการลงสนาม 45 เกมในทุกรายการ ซึ่งถือว่าฟอร์มมีความคงเส้นคงวาเลยทีเดียว 

3. ประสบการณ์ระดับทีมชาติเพียบ

เซสโก้ ผ่านการเล่นให้ทีมชาติสโลวีเนียในทุกระดับตั้งแต่ ยู 15-ยู 19 ก่อนจะได้รับโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่ และฟอร์มก็ไม่ธรรมดาไม่อย่างนั้นคงไม่เป็นตัวหลักของประเทศอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปัจจุบัน 

สตาร์ชาวสโลวีเนีย ฟอร์มร้อนแรงมากๆ ในศึกยูโร 2024 ซึ่งมีโอกาสได้โชว์ฝีเท้าให้แฟนบอลชาวอังกฤษได้เห็นเต็มสองตามาแล้วว่าเขาเต็มไปด้วนพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลมากแค่ไหน 

อดีตดาวยิงเรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ลงเล่นในนามทีมชาติ 41 และซัดไปแล้ว 16 ประตูทั้งๆ ที่อายุเพียง 22 ปีเท่านั้น โดยเขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นเปิดตัวให้กับทัพบ้านเกิดชุดใหญ่ด้วย 

เห็นได้ชัดว่าประสบการณ์ทั้งในเกมลีกระดับสูงและทีมชาติถือเป็นบทพิสูจน์ที่ดีว่า เซสโก้ พร้อมสำหรับการเล่นที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ รวมทั้งพรีเมียร์ลีกที่ได้ชื่อว่าเป็นลีกที่แข็งแกร่งที่สุดก็ตาม 

4. ค่าตัวไม่แรงสวนทางฟอร์มโหด

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ อาร์เซน่อล เบนเข็มจากความสนใจในตัว โยเคเรส ก็คือเรื่องค่าตัวนักเตะ เพราะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ประกาศชัดเจนไม่รับข้อเสนอจำนวน  60+10 ล้านยูโร (ราว 2,730 ล้านบาท) และต้องการค่าฉีกสัญญา 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,900 ล้านบาท) เท่านั้น

เจอแบบนี้เข้าไป อาร์เซน่อล ต้องกลับมา คิด วิเคราะห์ แยกแยะ สำหรับตัวเลือกอีกรายอย่าง เซสโก้ แม้ผลงานยิงประตูจะไม่ได้ตูมตามเหมือน โยเคเรส แต่อย่าลืมว่านักเตะเล่นในลีกหินกว่า สตาร์ทีมชาติสวีเดน หลายเท่า

ช่วงที่ผ่านมา "เดอะ กันเนอร์ส" ลองหยั่งเชิงด้วยการยื่นข้อเสนอจำนวน 55 ล้านยูโร (ราว 2,145 ล้านบาท) แต่โดน ไลป์ซิก บอกปัดตามคาดเนื่องจากเป็นตัวเงินที่น้อยกว่าค่าฉีกสัญญานักเตะ 65 ล้านยูโร (ราว 2,535 ล้านบาท) 

จากตัวเลขดังกล่าวยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าตัวที่ สปอร์ติ้ง ต้องการหากอยากให้ปล่อย โยเคเรส ไปร่วมทีม ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่บอร์ดบริหาร และแฟนบอล "ปืนโต" ถึงจิ้มชื่อ เซสโก้ เป็นเป้าหมายหลักในตำแหน่งเบอร์ 9 คนใหม่ 

5. สไตล์การเล่นและความเฉียบคม

จุดแข็งที่ อาร์เตต้า ประทับใจในตัวของ เซสโก้ ก็คือการที่เขาเป็นกองหน้าที่สามารถขยับลงมาลึกเพื่อล้วงบอลพร้อมกับพาบอลไปเล่นได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการเล่นเกมรับด้วย 

สำหรับอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ เซสโก้ มีรูปร่างสูงใหญ่แต่เต็มไปด้วยความเร็ว และเล่นลูกกลางอาการได้ดีมากๆ รวมทั้งมีความแข็งแกร่งซึ่งเข้ากับแนวทางการเล่นใน อังกฤษ ที่เน้นการใช้ร่างกาย 

นอกจากนี้นักเตะยังมีศักยภาพครบเครื่อง และเฉียบคมในการจบสกอร์ โดยเฉพาะการเล่นลูกตั้งเตะ, ลูกเตะมุม และลูกเปิดจากด้านข้าง นั่นจะทำให้ อาร์เซน่อล มีความหลากหลายในการทำประตู และเปอร์เซนต์ในการจบสกอร์น่าจะดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

จากสถิติในการทำประตูของ เซสโก้ ตอนอยู่ ไลป์ซิก มันเทียบไม่ได้กับ โยเคเรส แต่ก็อย่างที่บอกเอาไว้ว่า ดาวยิงชาวสโลวีเนีย เล่นอยู่กับทีมระดับกลางตารางในลีกที่แข็งแกร่ง แถมมีค่าการสร้างโอกาสยิงประตูต่อซีซั่นได้เพียง 70-80 ครั้ง/ฤดูกาล แต่มีศักยภาพที่ทำให้ตนเองติดอันดับ 9 ดาวซัลโวบุนเดสลีกา เมื่อซีซั่น 2024/2025 

ลองนึกภาพในกรณีที่ เซสโก้ เล่นให้กับ อาร์เซน่อล ซึ่งเป็นทีมที่มีผู้เล่นเกมรุกชั้นยอด และสร้างโอกาสในการทำประตูระดับหลักร้อยขึ้นต่อฤดูกาล งานนี้เขาจะมีโอกาสตะบันประตูได้มากขนาดไหน !!!

TOMMY TEE.