ลิเวอร์พูล จ่อเปิดตัว ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ค่าตัว 116 ล้านปอนด์ กลายเป็นหนึ่งในแข้งค่าตัวแพงสุดพรีเมียร์ลีก ร่วมไลน์อัพดาวเตะราคาแรงนำโดย เกปา, แม็กไกวร์, ไรซ์, อันโตนี่, ลูกากู รวมครบ 11 ตัวจริงค่าตัวทะลุเพดานของลีกสูงสุดอังกฤษ
ถึงขณะนี้ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ รอเปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ของ ลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการเท่านั้นหลัง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ตกลงขายกองกลางทีมชาติ เยอรมนี อย่างแน่นอนแล้วในราคา 116 ล้านปอนด์แน่นอนว่าเท่าที่ผ่านมา ทีมลูกหนังใน พรีเมียร์ลีก ต่างก็ใช้เงินกันแบบไม่บันยะบันยังคว้าสตาร์ดังมาร่วมทีมอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง เวียร์ตซ์ กลายมาเป็นรายล่าสุดที่มีค่าตัวทะลุหลัก 100 ล้านปอนด์
แต่ก่อนที่เราจะได้รับรู้คำตอบว่าสตาร์ทีม ห้างยา จะย้ายมาประสบความสำเร็จกับ หงส์แดง หรือไม่ เราจะไปส่องดูนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ในแต่ละตำแหน่งไล่ตั้งแต่นายทวารไปจนถึงกองหน้าว่ามีใครหน้าไหนบ้างที่ติดอยู่ในโผชุดนี้
- ผู้รักษาประตู : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (แอธเลติก บิลเบา สู่ เชลซี , 71.6 ล้านปอนด์)
จานลุยจิ บุฟฟ่อน รั้งตำแหน่งนายทวารค่าตัวแพงที่สุดในโลกได้นาน 5,820 วัน ขณะที่ เอแดร์ซอน อยู่ในตำแหน่งนี้ 13 เดือน ส่วน อลิสซง เสียตำแหน่งดังกล่าวในเวลาสามสัปดาห์
สำหรับ เกปา เขาครองตำแหน่งที่ว่านี้ได้นานเจ็ดปีแล้วแม้จะไม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมือกาวหมายเลขหนึ่งของโลก แถมไม่ใช่นายทวารตัวจริงของต้นสังกัดด้วยซ้ำ
- กองหลัง : แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (เลสเตอร์ สู่ แมนฯ ยูไนเต็ด , 80 ล้านปอนด์)
เป็นอีกรายที่ชี้ให้เห็นว่านักเตะค่าตัวแพงไม่ใช่นักเตะชั้นยอดเสมอไปเนื่องจากปราการหลังทีมชาติ อังกฤษ ก่อความผิดพลาดในสนามบ่อยครั้ง
อาจไม่ถึงกับเป็นนักเตะคนโปรดของ รูเบน อโมริม แต่อดีตกองหลัง เดอะ ฟ็อกซ์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม ผีแดง จาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก่อนที่ เอริค เทน ฮาก จะริบปลอกแขนของเขาไปมอบให้กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส
- กองหลัง : ยอสโก้ กวาร์ดิโอล (ไลป์ซิ สู่ แมนฯ ซิตี้ , 77 ล้านปอนด์)
สโมสรของ พรีเมียร์ลีก เปิดฉากล่าตัว กวาร์ดิโอล มาโดยตลอดโดย ลีดส์ เกือบเซ็นสัญญากับเขาได้ตอนที่เลื่อนกลับสู่ พรีเมียร์ลีก แม้ตัวนักเตะจะเปิดอกว่าฝันเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล
เชลซี เองก็เป็นอีกทีมที่พยายามฉุดกองหลังทีมชาติ โครเอเชีย มาจาก ไลป์ซิก ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 ตอนที่ ท็อดด์ โบลีห์ ทุ่มเงินกว้านซื้อนักเตะใหม่มากหน้าหลายตา แต่เม็ดเงิน 77.4 ล้านปอนด์ไม่มากพอที่จะทำให้ทีมจาก บุนเดสลีกา ขายสตาร์ดังแม้อีก 12 เดือนต่อมา เรือใบสีฟ้า จะสมหวังกับการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว
คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรเมื่อปีก่อนซึ่ง แมนฯ ซิตี้ ไม่มีโทรฟี่ แต่แน่นอนว่าสตาร์วัย 23 ปีซิวแชมป์กับถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม มาก่อนแล้ว
- กองหลัง : เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (เซาธ์แฮมป์ตัน สู่ ลิเวอร์พูล ,75 ล้านปอนด์)
ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะเซ็นสัญญากับ ฟาน ไดค์ ในวันขึ้นปีใหม่ปี 2018 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟค่าตัวแพงที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ในขณะนั้นได้แก่ ดาวิด ลุยซ์ (50 ล้านปอนด์)
แน่นอนว่า หงส์แดง ถูกมองว่าลงทุนอย่างน่าเป็นกังวลกับสตาร์ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ แต่ถึงตอนนี้มันถูกพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นการควักกระเป๋าที่คุ้มค่าเนื่องจากอดีตดาวเตะทีม นักบุญ นำโทรฟี่มามอบให้กับสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ มากมาย และได้ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ปี 2019
แม้จะมีอายุ 33 ปีแล้ว แต่เขายังเป็นคีย์แมนของสโมสรกระทั่งสุดท้าย เร้ด แมชีน ตัดสินใจมอบสัญญาใหม่ให้อีกสองปี
- ปีกขวา : อันโตนี่ ( อาแจ็กซ์ สู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ,82 ล้านปอนด์)
รั้งตำแหน่งพ่อค้าแข้งค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับสองของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่เล่นได้ไม่คุ้มค่าตัวเลยแม้แต่น้อย
กระทั่งถึงขณะนี้ เทน ฮาก ลูกพี่เก่าย้ายออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปเป็นนายใหญ่คนใหม่ของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แล้ว และเชื่อว่าดาวเตะทีมชาติ บราซิล น่าจะระเห็จออกจาก โรงละครแห่งความฝัน อย่างถาวรเช่นกันในซัมเมอร์นี้
มีผลงานยิงหรือแอสซิสต์แต่ละประตูกับ ผีแดง ในทุกๆ 319 นาที แต่ย้ายไปแจ้งเกิดอีกหนกับ เรอัล เบติส ภายใต้สัญญายืมตัวเมื่อครึ่งซีซั่นก่อนเนื่องจากสร้างผลงานแบบเดียวกันได้ในทุกๆ 152 นาที
- กองกลาง : มอยเซส ไกเซโด้ (ไบรท์ตัน สู่ เชลซี , 100 ล้านปอนด์)
ไบรท์ตัน ดึง ไกเซโด้ มาจาก อินเดเปนเดียนเต้ เดล วาเย่ ในวันเดดไลน์ตลาดนักเตะปี 2021 ด้วยค่าตัวแค่ 4.5 ล้านปอนด์ แต่อีกสองปีครึ่งหลังลงบู๊ให้ทีม นกนางนวล ไปได้ 53 นัด มิดฟิลด์ทีมชาติ เอกวาดอร์ ก็มีค่าตัวพุ่งกระฉูดเป็นสถิติของ พรีเมียร์ลีก
ไกเซโด้ ลงเอยกับ เชลซี ตามที่เจ้าตัวต้องการในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 แม้ ลิเวอร์พูล จะเสนอเงินให้ ไบรท์ตัน 111 ล้านปอนด์ แต่ตัวนักเตะไม่โอเคที่จะย้ายสู่ แอนฟิลด์ หลังตกลงสัญญาส่วนตัวกับ สิงห์บลูส์ เสร็จสรรพ
ภายใต้ค่าแอดออน 15 ล้านปอนด์จะทำให้ ไกเซโด้ เป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของ พรีเมียร์ลีก หากเขาสร้างผลงานกับเศรษฐีลอนดอนได้ตามเงื่อนไข
- กองกลาง : เดแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม สู่ อาร์เซน่อล , 100 ล้านปอนด์)
หลังข้อเสนอสองหนแรกถูกปัดตกโดยมี แมนฯ ซิตี้ ปราดเข้ามาหมายชิงตัว ในที่สุด อาร์เซน่อล ก็เจรจากับ เวสต์แฮม ได้อย่างลุล่วง และคว้าดาวเตะทีมชาติ อังกฤษ บินไปทัวร์อเมริกาในช่วงปรีซีซั่น
"ผมเชื่อมั่นในการสร้างทีมของ มิเกล อาร์เตต้า" ไรซ์ เอ่ยหลังย้ายมาสร้างอนาคตกับทีม ปืนใหญ่
แม้จะพัฒนาฝีเท้ากับ เดอะ กันเนอร์ส ในซีซั่นที่สองอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงขณะนี้ ไรซ์ ยังไม่อาจพาทีมเมืองกรุงคว้าแชมป์รายการใหญ่ได้ และต้องรอลุ้นกันอีกทีในซีซั่นที่สามของเขา
- กองกลาง : เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ (เบนฟิก้า สู่ เชลซี , 106.8 ล้านปอนด์)
แม้จะหมดยุคของ โรมัน อบราโมวิช ไปแล้ว แต่ เชลซี ยังดำเนินนโยบายทุ่มเงินก้อนโตเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ไม่เลิก
เบนฟิก้า จ่ายเงินแค่ 10 ล้านยูโรดึง เฟร์นานเดซ มาจาก ริเวอร์ เพลท แต่หลังจากสตาร์ทีมชาติ อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์โลกปี 2022 เป็นผลสำเร็จ เขาก็ได้ย้ายมาร่วมทีม สิงห์บลูส์ ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของลีกเมืองผู้ดี
- ปีกซ้าย : แจ็ค กรีลิช (แอสตัน วิลล่า สู่ แมนฯ ซิตี้ , 100 ล้านปอนด์)
ตลอดปี 2024 กรีลิช ยิงประตูให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียวซึ่งแสดงให้เห็นว่า เรือใบสีฟ้า เซ็นสัญญาด้วยความผิดพลาด
จนในที่สุด เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หมดความอดทนกับปีกค่าตัวแพงแล้ว และพร้อมขายเขาทิ้งในซัมเมอร์นี้โดยสตาร์จอมดริ๊งก์วัย 29 ปีถูกกาชื่อออกจากทีมชุดสู้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกด้วย
- หน้าต่ำ : เจดอน ซานโช่ (ดอร์ทมุนด์ สู่ แมนฯ ยูไนเต็ด , 73 ล้านปอนด์)
ซานโช่ ตกเป็นเป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2017 แล้ว แต่เป็น ดอร์ทมุนด์ ที่กระชากเด็กในอะคาเดมี่ของ แมนฯ ซิตี้ ไปร่วมทีมได้
หลังระเบิดฟอร์มเจิดจรัสกับ เสือเหลือง ในที่สุด ปีศาจแดง ก็สมหวังเซ็นสัญญากับเขาจนได้ในปี 2021 แต่เหตุการณ์ถัดมาเป็นไปอย่างผิดคาดสิ้นดี และทำให้ ซานโช่ ลงเอยกับทีมเก่าในบุนเดสลีกาอีกรอบภายใต้สัญญายืมตัว
กระทั่งหลังย้ายไปเล่นให้ เชลซี แบบยืมตัวเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ทีมเงินถังของกรุงลอนดอนก็ตัดสินใจไม่ใช้อ็อปชั่นเซ็นสัญญากับเขาอย่างถาวรโดยเลือกจ่ายค่าปรับ 5 ล้านปอนด์ให้กับ เร้ด เดวิลส์ แทน
- หน้าเป้า : โรเมลู ลูกากู (อินเตอร์ มิลาน สู่ เชลซี , 97.5 ล้านปอนด์)
เชลซี เป็นสโมสรแรกที่ดึง ลูกากู มาจาก อันเดอร์เลชท์ ในปี 2011 จากนั้นอีกสิบปี สิงห์บลูส์ เซ็นสัญญากับเขาอีกหนด้วยการคว้าตัวมาจาก อินเตอร์ มิลาน ในปี 2021
นอกจาก เชลซี แล้ว ศูนย์หน้าทีมชาติ เบลเยี่ยม ผ่านการลงบู๊ให้กับทีมใน พรีเมียร์ลีก อีกหลายรายทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ แมนฯ ยูไนเต็ด กระทั่งล่าสุดเขาได้แชมป์ เซเรีย อา กับ นาโปลี หมาดๆเหมือนที่เคยประสบความสำเร็จกับ อินเตอร์ มิลาน ในซีซั่น 2020/21