สเปอร์ส ควัก 10 ล้านปอนด์ดึง โธมัส แฟร้งค์ คุมทีมใหม่ ขึ้นชาร์ตอันดับ 6 โผกุนซือค่าตัวแพงสุดในโลก นำโดย นาเกิ้ลส์มันน์, พ็อตเตอร์ และ วิลลาช โบอาช
ในวงการลูกหนัง นอกจากแต่ละสโมสรจะทุ่มเงินแย่งกันคว้านักเตะฝีเท้าดีแล้ว ผู้จัดการทีมก็มีราคาค่างวดไม่แพ้บรรดาพ่อค้าแข้งเช่นกัน
โดยเฉพาะกุนซือที่มีสัญญาผูกมัดกับต้นสังกัดล้วนมีค่าชดเชยด้วยกันทั้งนั้นหากอีกสโมสรต้องการฉุดเขาไปคุมทีม
อย่างล่าสุด สเปอร์ส ควักจ่ายให้ เบรนท์ฟอร์ด 10 ล้านปอนด์คว้ากุนซือชาวเดนมาร์คมานั่งเก้าอี้นายใหญ่คนใหม่แทน แอนจ์ ปอสเตโคกลู ที่โดนปลด
ฉะนั้นแล้ว เราจะมาดูกันว่า ไก่เดือยทอง จ่ายหนักเป็นอันดับที่เท่าไหร่กับการฉุด แฟร้งค์ มารับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ในโผกุนซือค่าตัวแพงที่สุดสิบอันดับแรก
10. รูเบน อโมริม - 8.4 ล้านปอนด์
จาก บราก้า สู่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เดือนมี.ค.2020
แม้จะมีประสบการณ์คุมทีมในระดับสูงแค่สามเดือน แต่ อโมริม สร้างผลงานได้ดีพอที่จะทำให้ สปอร์ติ้่ง ลิสบอน ดึงเขามาจาก บราก้า ในเดือนมี.ค.2020 ด้วยการควักจ่ายค่าชดเชย 8.4 ล้านปอนด์
แม้จะจ่ายหนัก แต่มันเป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่าเนื่องจาก อโมริม พาทีม สปอร์ติ้ง คว้าแชมป์ลีกได้ในซีซั่น 2020/21 หลังจากพวกเขารอคอยโทรฟี่ใบนี้มานาน 19 ปี
ไม่เท่านั้น แต่กุนซือโปรตุกีสยังพาทีมซิวแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้สองปีซ้อนในซีซั่น 2020/21 และ 2021/22 ก่อนหยิบแชมป์ลีกมาครองได้อีกหนในซีซั่น 2023/24
รวมแล้ว อโมริม คุมทีม สปอร์ติ้ง กำชัยได้ 165 นัด และเสมอ 33 นัดจาก 231 นัดคิดเป็นการคุมทีมกำชัย 71.4%
9. เบรนแดน ร็อดเจอร์ส - 8.8 ล้านปอนด์
จาก เซลติก สู่ เลสเตอร์ เดือนก.พ.2019
ร็อดเจอร์ส นำทีม เซลติก คว้าแชมป์ได้อย่างมากมายในการทำงานสมัยแรกกับทีม ม้าลายเขียวขาว รวมถึงการคว้าแชมป์ลีกวิสกี้สองปีซ้อนในซีซั่น 2016/17 และ 2017/18
แน่นอนว่า เซลติก ต้องการรั้งตัวผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือ แต่สุดท้ายพวกเขายอมรับเงินชดเชย 8.8 ล้านปอนด์จากทีม สุนัขจิ้งจอก ในเดือนก.พ.2019
ในการคุมทีมลูกหนังของถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เขาพาทีมคว้าอันดับห้าของ พรีเมียร์ลีก ได้สองปีซ้อนในซีซั่น 2020/21 และ 2021/22
นอกจากนี้ เขายังพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ได้เช่นกัน
กระนั้นก็ดี สิ่งต่างๆเลวร้ายลงในซีซั่นที่สี่ของเขากับ เดอะ ฟ็อกซ์ ซึ่งส่งผลให้ ร็อดเจอร์ส โดนไล่ออกในเดือนเม.ย.2023 และถัดจากนั้นไม่นานสโมสรตกก็ตกลงสู่ แชมเปี้ยนชิพ
8. รูเบน อโมริม - 9.24 ล้านปอนด์
จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน สู่ แมนฯ ยูไนเต็ด เดือนพ.ย.2024
อโมริม กระโดดเข้ามาอยู่ในโผนี้อีกหนหลังจากเขาอำลาทีม สปอร์ติ้ง ในเดือนพ.ย.2024 เพื่อเซ็นสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด สองปีครึ่ง
ผีแดง ตกลงจ่ายเงิน 8.4 ล้านปอนด์เป็นค่าฉีกสัญญา อโมริม บวกกับอีก 840,000 ปอนด์ดึงเขามาก่อนหมดสัญญาในเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ดี นายใหญ่ชาวเมืองฝอยทองไม่อาจพลิกสถานการณ์ให้กับ โรงละครแห่งความฝัน ได้เนื่องจาก ผีแดง จบอันดับ 15 ของ พรีเมียร์ลีก และแพ้ สเปอร์ส ในนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก
7. อาร์เน่อ สล็อต - 9.4 ล้านปอนด์
จาก เฟเยนูร์ด สู่ ลิเวอร์พูล เดือนมิ.ย.2024
หลังจาก ชาบี อลอนโซ่ ตัดสินใจกุมบังเหียน เลเวอร์คูเซ่น ต่อส่งผลให้ สล็อต กลายมาเป็นนายใหญ่ หงส์แดง คนใหม่แทนในช่วงซัมเมอร์ปี 2024
ระหว่างคุมทีมลูกหนังในบ้านเกิดสามปี สล็อต ประสบความสำเร็จด้วยการพาทีมซิวแชมป์ลีก และดัตช์คัพมาครอง
มีการเผยว่า ลิเวอร์พูล ตกลงจ่ายค่าชดเชยขั้นต้น 7.7 ล้านปอนด์ดึงตัวโค้ชชาวเมืองกังหันลมวัย 46 ปีมาสานงานแทน เจอร์เก้น คล็อปป์ โดยเม็ดเงินจำนวนดังกล่าวสามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 9.4 ล้านปอนด์ตามค่าแอดออน
และฉับพลันทันใด สล็อต ก็สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ด้วยการพาทีม เร้ด แมชีน คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2024/25 มาครองได้ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด และเป็นนายใหญ่รายที่ห้าที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่การทำงานปีแรก
6. โธมัส แฟร้งค์ -10 ล้านปอนด์
จาก เบรนท์ฟอร์ด สู่ สเปอร์ส เดือนมิ.ย.2025
ทีมลูกหนังของกรุงลอนดอนตัดสินใจปลด แอนจ์ ปอสเตโคกลู แม้เขาจะพาทีมคว้าโทรฟี่ใบแรกในรอบ 17 ปีมาครองได้ด้วยการสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ในแมตช์ชิงชนะเลิศถ้วย ยูโรปา ลีก เนื่องจากผลงานใน พรีเมียร์ลีก ของสโมสรตกต่ำจนเกินทน
เป็นไปตามคาดที่ ไก่เดือยทอง ประกาศแต่งตั้ง แฟร้งค์ เป็นกุนซือคนใหม่เนื่องจากนายใหญ่วัย 51 ปีสร้างผลงานกับ เดอะ บีส์ ได้อย่างน่าประทับใจมาตั้งแต่ปี 2018 ด้วยการพาทีมเลื่อนจาก แชมเปี้ยนชิพ ขึ้นมารักษาสถานภาพใน พรีเมียร์ลีก ได้อย่างมั่นคงตลอดระยะเวลาเจ็ดปี
ด้วยเหตุนี้ สเปอร์ส จึงจ่ายเงิน 10 ล้านปอนด์เป็นค่าฉีกสัญญาดึงนายใหญ่ชาวเดนมาร์คมาคุมทีมภายใต้สัญญาสามปี
5. เอ็นโซ่ มาเรสก้า - 10 ล้านปอนด์
จาก เลสเตอร์ สู่ เชลซี เดือนมิ.ย.2024
มาเรสก้า เคยช่วยงาน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในทีม แมนฯ ซิตี้ ก่อนผละมารับตำแหน่งผู้จัดการทีม เลสเตอร์ ชุดคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่น 2023/24
จากผลงานดังกล่าวทำให้ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลี่ยนวัย 44 ปีได้ทำหน้าที่นายใหญ่ สิงห์บลูส์ คนใหม่แทนที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ โดยทีมเงินถังแห่ง สแตมฟอร์ด บริดจ์ จ่ายค่าชดเชยให้กับ เดอะ ฟ็อกซ์ 10 ล้านปอนด์
และในซีซั่นแรกกับ เชลซี มาเรสก้า พาทีมคว้าอันดับสี่ของ พรีเมียร์ลีก รวมทั้งได้แชมป์ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก
4. แว็งซ็องต์ กอมปานี - 10.2 ล้านปอนด์
จาก เบิร์นลีย์ สู่ บาเยิร์น เดือนพ.ค.2024
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2024 เสือใต้ พลาดหวังได้โค้ชที่เป็นเป้าหมายหลายรายทั้ง ชาบี อลอนโซ่ , ยูเลี่ยน นาเกิ้ลส์มันน์ และราลฟ์ รังนิก
สุดท้ายพวกเขาจึงหันไปหา กอมปานี ซึ่งพา เบิร์นลีย์ คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่น 2022/23 แม้นายใหญ่ชาวเบลเยี่ยมจะไม่สามารถช่วยให้ทีมอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นต่อมาได้
แรกทีเดียว เดอะ คลาเร็ตส์ ร้องขอค่าชดเชย 17 ล้านปอนด์แลกกับการเสียอดีตกองหลังทีม แมนฯ ซิตี้ แต่สุดท้ายพวกเขาตอบรับข้อเสนอ 10.2 ล้านปอนด์จากสโมสรยักษ์ของ บุนเดสลีกา
แน่นอนว่า เสือใต้ ทำให้ใครต่อใครตาถลนที่เลือกกุนซือซึ่งคุมทีมตกชั้นมารับงานใหญ่ แต่ กอมปานี พิสูจน์ตัวเองได้ด้วยการนำถาดแชมป์ลีกมามอบให้กับสโมสรในซีซั่น 2024/25
3. อังเดร วิลลาช โบอาช - 13.3 ล้านปอนด์
จาก ปอร์โต้ สู่ เชลซี เดือนมิ.ย.2011
วิลลาช โบอาช ได้รับฉายา "นิว โชเซ่ มูรินโญ่" หลังพา ปอร์โต้ ซิวแชมป์ลีกและแชมป์ฟุตบอลถ้วยของประเทศได้ บวกกับแชมป์ ยูโรปา ลีก อีกใบในซีซั่น 2010/11
จากผลงานดังกล่าวส่งผลให้เขาได้เดินตามรอยเท้าผู้จัดการทีมร่วมชาติกับการเป็นกุนซือ เชลซี ซึ่งจ่ายค่าฉีกสัญญาของเขาให้กับ ปอร์โต้ เป็นเงิน 13.3 ล้านปอนด์
ถึงกระนั้น วิลลาช โบอาช ไม่สามารถนำทีมประสบความสำเร็จได้เหมือน มูรินโญ่ และตกเก้าอี้ในเวลาเก้าเดือนกับเศรษฐีลอนดอน
จากนั้น เชลซี แต่งตั้ง โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ให้คุมทีมแทน และปรากฏว่านายใหญ่อิตาเลี่ยนประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อกับการพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่น 2011/12
2. แกรม พ็อตเตอร์ - 21.5 ล้านปอนด์
จาก ไบรท์ตัน สู่ เชลซี เดือนก.ย.2022
พ็อตเตอร์ โชว์ฝีไม้ลายมือกับ ไบรท์ตัน ได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดระยะเวลาสามปีจากการคุมทีมร่ายเพลงเตะเป็นที่ถูกอกถูกใจของคอลูกหนัง
จนในที่สุด ผู้จัดการทีมวัย 50 ปีก็ถูก ท็อดด์ โบลีห์ เจ้าของร่วม เชลซี ดึงเขามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่เสียบแทน โธมัส ทูเคิ่ล ในเดือนก.ย.2022
แม้ตอนแรกจะมีการรายงานว่า สิงห์บลูส์ จ่ายค่าฉีกสัญญาเขาเป็นจำนวน 15 ล้านปอนด์ แต่ถัดมามีการเผยข้อเท็จจริงว่า นกนางนวล รับเงินเข้ากระเป๋าสูงถึง 21.5 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ดี พ็อตเตอร์ ประสบกับความยากลำบากในการรับงานกับทีมเมืองกรุงเนื่องจากเขาพาทีมกำชัยได้แค่ 12 จาก 31 นัด
1. ยูเลี่ยน นาเกิ้ลส์มันน์ -21.7 ล้านปอนด์
จาก แอร์เบ ไลป์ซิก สู่ บาเยิร์น เดือนเม.ย.2021
นาเกิ้ลส์มันน์ สร้างชื่อได้อย่างโดดเด่นกับการคุมทีม ฮอฟเฟ่นไฮม์ และ แอร์เบ ไลป์ซิก ในฐานะโค้ชคลื่นลูกใหม่ที่มีฝีมือเกินอายุ
ด้วยเหตุนี้ บาเยิร์น จึงควักกระเป๋า 21.7 ล้านปอนด์ดึงนายใหญ่วัย 33 ปีมาคุมทีมในปี 2021 ซึ่งทำให้เขาเป็นโค้ชที่มีค่าชดเชยสูงที่สุดตลอดกาล
แม้จะพา เสือใต้ คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา ได้ แต่สุดท้าย นาเกิ้ลส์มันน์ ก็กระเด็นออกจากถิ่น อัลลิอานซ์ อารีน่า ในเดือนมี.ค.2023 หลังสร้างผลงานย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี บาเยิร์น พยายามว่าจ้างโค้ชหนุ่มอีกหนหลังจบซีซั่น 2023/24 แต่เขาบอกปัดการทาบทาม และเลือกต่อสัญญากับทีมชาติ เยอรมนี