โรมัน อบราโมวิช เผยความในใจครั้งแรกหลังขาย เชลซี ยันชัดไม่คิดกลับมาซื้อทีมฟุตบอลอีก พร้อมหวังสักวันจะได้กลับไปอำลาสโมสรอย่างเหมาะสม แม้ยังไม่พ้นมาตรการคว่ำบาตรจากรัฐบาลอังกฤษ
โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เปิดเผยว่าตนไม่มีความคิดที่จะซื้อทีมฟุตบอลมาบริหารอีกต่อไปแล้ว
เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ปี 2022 อบราโมวิช ถูกรัฐบาลของสหราชอาณาจักรสั่งคว่ำบาตร เนื่องจาก อบราโมวิช ถูกมองว่ามีความสนิทสนมกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของ รัสเซีย ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่ รัสเซีย ทำสงครามรุกราน ยูเครน อย่างหนัก โดยที่ อบราโมวิช ยังโดนกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนการรุกรานที่ว่าด้วย
มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวส่งผลกระทบหลายอย่างกับ อบราโมวิช อย่างเช่นการห้ามเข้าประเทศในเครือสหราชอาณาจักร, การหมดสิทธิ์ทำธุรกรรมด้านการเงินทุกประเภทในสหราชอาณาจักรและการโดนยึดทรัพย์ ซึ่งนั่นรวมถึง เชลซี ทีมที่ อบราโมวิช ถือครองเป็นเจ้าของมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2003 ด้วย ทำให้สุดท้ายแล้ว อบราโมวิช ต้องจำใจขายทีมให้กับกลุ่มทุนของ ท็อดด์ โบห์ลี่
ทั้งนี้ ล่าสุด มีหนังสือชื่อ Sanctioned: The Inside Story of the Sale of Chelsea FC ออกวางขาย โดยหลักๆ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการที่ อบราโมวิช ต้องขาย เชลซี ในครั้งนั้น ซึ่งนี่ถือเป็นการเปิดใจครั้งแรกของ อบราโมวิช นับตั้งแต่ที่ต้องขาย เชลซี ด้วย
ในหนังสือดังกล่าวมีช่วงหนึ่งที่ อบราโมวิช ถูกถามเกี่ยวกับ เชลซี และอนาคตของตัวเอง ซึ่งเขาก็ตอบว่า "บางทีวันหนึ่งผมอาจจะเข้าไปชมเกมที่นั่นได้และได้บอกลาแบบเหมาะสม แต่มันก็คงไม่มีการทำอะไรมากกว่านั้น"
"ผมไม่มีความสนใจที่จะรับบทบาทใดๆ ก็ตามในระดับสโมสรของวงการฟุตบอลแล้ว ผมไม่คิดที่จะทำอะไรก็ตามกับสโมสรฟุตบอลอาชีพอีกต่อไป ผมอาจจะช่วยในเรื่องอะคาเดมี่หรือเยาวชนได้บ้าง อย่างเช่นการให้โอกาสกับคนที่มีพื้นเพยากไร้ ถ้ามันมีการริเริ่มที่จะช่วยสร้างความแตกต่างได้บ้างน่ะนะ แต่ในเรื่องของการเป็นเจ้าของทีมหรือการมีบทบาทแบบเป็นทางการกับสโมสรใดสโมสรหนึ่งแล้วน่ะผมไม่คิดที่จะทำแบบนั้นอีกแล้วในช่วงชีวิตนี้ของผม"