เมื่อความฝันกับความจริงมันอาจไปด้วยกันไม่ได้

เมื่อความฝันกับความจริงมันอาจไปด้วยกันไม่ได้
เส้นทางของสองดาวรุ่ง ลิเวอร์พูล อย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และ ไทเลอร์ มอร์ตัน กำลังดำเนินไปสู่จุดตัดสินใจครั้งใหญ่ในอาชีพการค้าแข้งของพวกเขา

เอลเลียตต์ ยังคงมีภาพของ "เด็กมหัศจรรย์" ที่ได้รับโอกาสจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ สมัยวัยแบเบาะ 16-17 ปี

แต่เวลาผ่านไป อดีตเจ้าจุก เริ่มตระหนักแล้วว่า "แค่คำว่า รัก มันไม่เพียงพออีกต่อไป" แม้เคยให้สัมภาษณ์หลังเกมกับ เปแอสเช ว่าจะสู้เพื่อตำแหน่งในทีมก็ตาม

การให้สัมภาษณ์ก่อนเปิดทัวร์นาเมนต์ ยูโร U-21 เอลเลียตต์ ยอมรับตรงไปตรงมาว่า อนาคตของตัวเองที่ ลิเวอร์พูล เริ่มดูถูกจำกัด 

อารมณ์นี้ ไม่ได้เกิดจากความหุนหันหรือความไม่พอใจ เอลเลียตต์ รัก ลิเวอร์พูล เขาย้ำเสมอว่าไม่ต้องการจากไป แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการเสียเวลาไปกับการนั่งสำรองหรือรอโอกาสที่ไม่แน่นอน

แรงผลักดันจากความทะเยอทะยานไม่เคยหายไป ฤดูกาลที่ผ่านมา เอลเลียตต์ ถูกอาการบาดเจ็บรบกวน จนไม่สามารถตอบโจทย์ให้เฮดโค้ช อาร์เน่อ ต่อให้หลายต่อหลายครั้ง ลงเล่นในฐานะตัวสำรองแล้วมีส่วนต่อการพลิกเกม 

แต่สำหรับพื้นที่ตัวจริง เอลเลียตต์ ไม่เคยได้ใกล้เคียงถึงตรงนั้น กระทั่งกลับสู่ความเป็นจริงที่ว่า บางทีการย้ายทีมอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

"ผมไม่อยากเสียเวลาหลายปีในอาชีพไปเปล่าๆ เพราะอาชีพนี้มันสั้น คุณไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น มันเป็นสถานการณ์ที่ผมต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ"

"ผมก็แค่อยากพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และทำให้ตัวเองอยู่ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากจะต้องไปที่อื่น ผมจำเป็นต้องตัดสินใจ และรอดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น"

ภารกิจ ยูโร ยู-21 ที่ใกล้เข้ามา อาจไม่ใช่แค่รายการธรรมดา ๆ แต่เป็นเหมือนเวทีที่ เอลเลียตต์ จะนำเสนอตัวเองต่อตลาดซื้อขายและต่ออาร์เน่อ 

เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดจาก ลี คาร์สลี่ย์ และ แอชลี่ย์ โคล ถึงขั้นได้รับการพิจารณาให้เป็นกัปตันทีม แม้สุดท้ายจะตกเป็นของ เจมส์ แม็คอาตี้ ก็ตาม

"ผมสามารถเล่นในตำแหน่ง False Nine ได้ถ้าจำเป็น" คำพูดสะท้อนตัวตนจาก เอลเลียตต์ ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน

ซึ่งหากผลงานมันเป็นไปในทิศทางที่ดีมาก ๆ  ไม่เพียงแต่จะเพิ่มมูลค่าทางตลาด แต่ยังอาจทำให้ อาร์เน่อ ตัดสินใจเก็บเขาไว้กับทีมต่อไป

...

สำหรับ มอร์ตัน ดูเป็นเส้นทางที่ไร้โอกาส สาหัสยิ่งกว่า เอลเลียตต์

ขณะที่ เอลเลียตต์ ยังพอได้ลงสนามและมีชื่อในทีมชุดใหญ่บ้าง แต่ มอร์ตัน กลับเผชิญกับฤดูกาลที่โหดร้ายในแบบที่เจ็บปวดทางใจมากที่สุดในชีวิต 

เขายอมรับด้วยตัวเองว่า รู้สึกผิดหวังอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น และถึงขั้นยอมรับว่า เขาจำเป็นต้องย้ายทีม ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ แต่เหตุผลคือเพื่อความอยู่รอดของอาชีพนักฟุตบอลอาชีพ

"ฤดูกาลที่แล้วเป็นฤดูกาลที่ยากที่สุดในชีวิตของผม... ผมไม่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเลยแม้แต่นาทีเดียว"

สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่าคือ โอกาสที่จะได้ไปเล่นกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แบบยืมตัว 

ข้อเสนอที่ "ห้างขายยา" การันตีมาคือเวลาลงสนามมากกว่า 50% แต่ ลิเวอร์พูล เลือกปฏิเสธ เพราะ อาร์เน่อ ต้องการเก็บตัวไว้ใช้งาน สุดท้าย เขาก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการทำทีมแบบจริงจัง

ศึกยูโร ยู-21 ที่ มอร์ตัน มีชื่อเช่นเดียวกับ เอลเลียตต์ และ จาเรลล์ ควอนซาห์ สองเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล คือเวทีที่จะให้เขาได้แสดงศักยภาพเพื่อให้สโมสรอื่น ๆ ได้เห็นว่าตัวเองยังมีคุณค่ามากพอ

แม้จะเจ็บปวดกับสิ่งที่พบเจอ แต่ มอร์ตัน กลับพูดถึง อาร์เน่อ ในแง่บวก

เขาบอกว่านี่คือ ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดที่เคยร่วมงานด้วย โดยเฉพาะในแง่เรื่องแทคติก ตรงกันข้ามกับ คล็อปป์ ที่ให้อิสระในการเล่นมากกว่า

มอร์ตัน ถูกพร่ำสอนจากทีมงานสตาฟฟ์โค้ชว่าต้องเน้นเรื่องการเก็บบอลไว้กับตัว และการพาบอลขึ้นไปเอง ซึ่งตรงจุดนี้คือหมายเลข 6 ในอุดมคติของเฮดโค้ชดัตช์

...

ไม่ว่าจะเป็น เอลเลียตต์ ที่ยังคงมีแสงสว่างแห่งความหวัง หรือ มอร์ตัน ที่แทบจะเดินอยู่บนเส้นด้าย ทั้งสองต่างกำลังเผชิญช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในอาชีพที่ต้องเลือกให้ดี ท่ามกลางความกดดัน ความหวัง และความจริงที่โหดร้าย

ต่อให้เส้นทางในสีเสื้อแดงเพลิงอาจยังไม่จบ หรืออาจสิ้นสุดลงเพื่อเริ่มต้นใหม่

แต่สิ่งเดียวที่แน่ชัด คือทั้ง เอลเลียตต์ และ มอร์ตัน กำลังต่อสู้เพื่อชีวิตของตนเอง... ไม่ใช่แค่เกมในสนาม แต่คืออนาคตที่ทั้งคู่เชื่อว่ายังควรจะดีกว่านี้

HOSSALONSO



ที่มาของภาพ : Reuters
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport