วิเคราะห์ 11 ตัวจริงแมนยู ฤดูกาล 2025/26 ยุคอโมริม! คุนญ่า-ดีแลป นำทัพ

รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุกีส เริ่มเดินหน้าเสริมทัพครั้งใหญ่ โดยรายแรกที่พวกเขากำลังจะได้มาร่วมทีมก็คือ มาเตอุส คุนญ่า ดาวยิงชาวบราซิเลียน จาก "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์น วันเดอเรอร์ส ซึ่งค่าตัวประมาณ 62.5 ล้านปอนด์ (ราว 2,750 ล้านบาท) 

ขณะเดียวกันยังมีนักเตะที่ตกเป็นเป้าหมายของ "ปีศาจแดง" อีกหลายหลายที่พวกเขาเตรียมยื่นข้อเสนอเพื่อดึงมาเสริมแกร่ง โดยแต่ละคนถือว่ามีศักยภาพน่าสนใจอย่างมาก และอาจทำให้ แมนยู ในยุคกุนซือพี่เจ๋ง เปลี่ยนโฉมไปเลยก็ได้

สำหรับฤดูกาล 2025/2026 อโมริม จะใช้ขุมกำลังที่มีอยู่เดิมผสมผสานกับนักเตะใหม่ที่จะย้ายมาร่วมทัพ โดยหน้าตาของ 11 ตัวจริง "เร้ด เดวิลส์" ยุคใหม่จะเป็นยังไง และผู้เล่นแต่ละคนมีศักยภาพมากแค่ไหน ต้องมาวิเคราะห์กันในทุกๆ ตำแหน่งได้เลย

ผู้รักษาประตู : โจน การ์เซีย

การ์เซีย ทำผลงานได้อย่างสุดยอดกับ เอสปันญ่อล ในฤดูกาล 2024/2025 โดยเขามีสถิติเซฟประตูมากกว่านายทวารคนอื่นๆ ในลา ลีกา สเปน พร้อมกับช่วยให้ต้นสังกัดของเขารอดจากการตกชั้น

โกลวัย 23 ปี มีข่าวลือหนาหูกับ อาร์เซน่อล มาตลอด แต่ แมนยูไนเต็ด กำลังพยายามอย่างหนักที่จะเซ็นสัญญากับ การ์เซีย เพราะศักยภาพของเขาเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นเสาหลักในเกมรับของทีม

สำหรับ การ์เซีย มีค่าฉีกสัญญาแค่ 21 ล้านปอนด์ (ราว 924 ล้านบาท) เท่านั้น และแน่นอนว่านี่คือตัวแทนที่ดีเยี่ยมของ อ็องเดร โอนาน่า เพราะราคาก็ถูกแสนถูก แถมฝีไม้ลายมือก็เหนียวหนึบมากๆ 

เซนเตอร์แบ็ก (ขวา) : นุสแซร์ มาซราวี

สำหรับ มาซราวี ย้ายมาจาก "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และได้โอกาสลงสนามแทบทุกเกมให้กับ แมนยูไนเต็ด ในซีซั่นนี้ โดยฟอร์มของเขาถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แฟนบอลผีแดงชื่นชอบมากๆ

กองหลังสารพัดประโยชน์ วัย 27 ปี สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งทั้งแบ็กขวา, แบ็กซ้าย และแม้แต่ผู้เล่นหมายเลข 10 ก็ได้ซึ่งเขาเคยทำมาแล้วตอนที่ เอริค เทน ฮาก ยังกุมบังเหียน 

ในยุคของ อโมริม ต้องบอกว่า มาซราวี ทำผลงานได้ดีมากๆ ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กฝั่งขวาให้กับ  "ปีศาจแดง" ในระบบการเล่น 3-4-2-1 และน่าจะยังคงเป็นตัวเลือกหลักของ แมนยู ต่อไป 

เซนเตอร์แบ็ก : แฮร์รี่ แม็กไกวร์

หลังจากที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าในยุคเทน ฮาก แต่ แม็กไกวร์ ยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและไม่ยอมพ้จนกระทั่งสามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ในยุคที่ อโมริม กุมบังเหียน และทำให้เขากลายเป็นตัวหลักของทีมในเวลานี้

ปราการหลัง วัย 32 ปีสามารถสยบเสียงวิจารณ์ด้วยผลงานที่โดดเด่นมากๆ ในช่วงหลายๆ เดือนที่ผ่านมา และยังเป็นผู้นำที่สำคัญในห้องแต่งตัวของทีม โดยเฉพาะการทำประตูสำคัญในหลายๆ เกม รวมทั้งการช่วยทีมทะลุเข้ารอบชิง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

สัญญาของ แม็กไกวร์ จะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ แต่ แมนยูไนเต็ด ตัดสินใจใช้ออปชั่นขยายสัญญา 1 ปี และตอนนี้กำลังมีการเจรจาสัญญาฉบับใหม่เพื่อเป็นเสาหลักในเกมรับของทีมซัมเมอร์นี้ 

เซนเตอร์แบ็ก (ซ้าย) : เลนี่ โยโร่

ลีซานโดร มาร์ตีเนซ เป็นตัวหลักในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้าย เนื่องจากเป็นผู้เล่นที่ถนัดเท้าซ้ายอยู่แล้ว แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับมาช่วยทีมก่อนสิ้นปี 2025 หลังได้รับบาดเจ็บหนักที่เอ็นไขว้หน้าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

จากปัญหาอาการบาดเจ็บของ มาร์ตีเนซ ทำให้โอกาสของ โยโร่ เปิดกว้างมากๆ และนั่นทำให้เขาได้เป็นตัวเลือกหลักของทีมมาตลอด และผลงานที่โดดเด่นในซีซั่นนี้จึงทำให้ อโมริม คงจะใช้งานเขาต่อไป 

ด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น ทำให้ โยโร่ ยังมีเวลาในการพัฒนาศักยภาพได้มากยิ่งกว่านี้ และถ้าหากฟอร์มของนักเตะโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง งานนี้อาจเป็นเรื่องยากที่ มาร์ตีเนซ จะกลับมายึดตัวจริงได้ 

วิงแบ็กขวา : อาหมัด ดิยัลโล่

แม้ว่าจุดเด่นของ อาหมัด ดิยัลโล่ คือการเล่นตำแหน่งปีก แต่ในเกมแรกที่ อโมริม เข้ามากุมบังเหียนเขาจับ ดาวเตะชาวไอวอรี่ โคสต์ สวมบทบาทวิงแบ็กฝั่งขวา ซึ่งฟอร์มก็ยอดเยี่ยมมากๆ

สตาร์ดาวรุ่งวัย 22 ปี สามารถปรับตัวได้อย่างยอดเยี่ยมกับบทบาทที่ อโมริม มอบให้ และด้วยพละกำลังกับความรวดเร็วทำให้ ดิยัลโล่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ แมนยูไนเต็ด

จุดเด่นของ ดิยัลโล่ นอกจากความคล่องแคล่วว่องไวแล้ว เขายังมีวิสัยทัศน์ในการสร้างเกมรุก และยังครองบอลได้เหนียวแน่น โดยเฉพาะการเลี้ยงบอลตัดเข้าในและยิงประตูถือว่าทำได้ดีมากๆ และนี่คือคีย์แมนหลักของ อโมริม แน่นอน 

กองกลาง : เอแดร์ซอน

แม้ว่า กาเซมีโร่ จะมีบทบาทสำคัญในการนำ แมนยู ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก แต่การที่นักเตะมีรายได้ถึง 350,000 ปอนด์ (ราว 15.4 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่สโมสรจำเป็นต้องเขี่ยทิ้ง 

อโมริม มีความต้องการที่จะเสริมพลังในแผงมิดฟิลด์ และกำลังพิจารณานักเตะที่มีศักยภาพตามแบบฉบับที่เขาต้องการนั่นก็คือ เอแดร์ซอน กองกลางพลังไดนาโมของ อตาลันต้า 

ทีมดังจากศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี พร้อมที่จะขาย สตาร์ชาวบราซิเลียน ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่มีข้อแม้ว่าพวกเขาต้องได้รับค่าตัวจำนวน 50.7 ล้านปอนด์ (ราว 2,230 ล้านบาท) เท่านั้นถึงจะยอมปล่อยแข้งรายนี้ออกไป

อย่างไรก็ตามการที่ แมนยู ไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปในฤดูกาลหน้า อาจเป็นอุปสรรคสำคัญในการเซ็นสัญญากับ เอแดร์ซอน แต่ถ้านักเตะไม่ซีเรียสกับเรื่องนี้ การมาของเขาจะทำให้แผงมิดฟิลด์ของ "ผีแดง" น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น 

กองกลาง : บรูโน่ แฟร์นันด์ส

แน่นอนว่าสำหรับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังเป็นนักเตะสำคัญของ แมนยูไนเต็ด และ อโมริม ประกาศอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการขายกัปตันทีมคนเก่งออกมา แม้จะมีข่าวลือออกมาตลอดว่าสโมสรพร้อมรับข้อเสนอหากได้ตัวเลขที่น่าสนใจ

แฟร์นันด์ส เพิ่งออกมาเปิดใจว่าต้องการอยู่กับ แมนยูไนเต็ด ต่อไปหลังชวดแชมป์ยูโรปา ลีก แต่ในขณะเดียวกันเจ้าตัวก็พร้อมยอมรับการตัดสินใจของสโมสรหากจะขายเขาเพื่อหาเงินไปเสริมทัพ

ช่วงที่ผ่านมามีรายงานว่า  อัล ฮิลาล พร้อมควักกระเป๋าจำนวนมหาศาลถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท) ให้กับ แมนยู พิจารณาปล่อย แฟร์นันด์ส ออกมาเล่นในลีกแดนเศรษฐีน้ำมัน ซึ่งงานทำเอา เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ และพ้องเพื่อนตาลุกวาวเลยทีเดียว 

วิงแบ็กซ้าย : แพทริค ดอร์กู

แมนยู คว้าตัว ดอร์กู มาจาก เลชเช่ ทีมในเซเรีย อา เมื่อช่วงตลาดพ่อค้าแข้งเดือนมกราคมที่ผ่านมา และนี่คือการเซ็นสัญญาแรกในยุคของ อโมริม ซึ่งเขาเป็นผู้เล่นในแบบฉบับที่กุนซือโปรตุกีสต้องการ

ดาวเตะชาวเดนมาร์ก วัย 20 ปี โชว์ฟอร์มได้เฉิดฉายในช่วงเดือนแรกๆ กับการเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ยังมีแฟนผีโปรเจกต์บางส่วนยังรู้สึกกังวลเรื่องทักษะด้านเทคนิคของนักเตะที่ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ปัจจุบัน แฮร์รี่ อามาสส์ แข้งดาวรุ่งจากศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสร ถือเป็นคู่แข่งสำคัญในตำแหน่งนี้ของ ดอร์กู ดังนั้นถ้าหากเขาไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นให้คงเส้นคงวามีสิทธิ์โดน อามาสส์ ปาดหน้าคว้าตัวจริงไปก็ได้ 

แนวรุกฝั่งขวา : ไบรอัน เอ็มโบโม่

การขาดแนวรุกที่ดุดันคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ แมนยู ในฤดูกาล 2024/2025 โดยพวกเขาทำได้แค่ 42 ประตูในพรีเมียร์ลีก และ อโมริม จำเป็นต้องหาแนวรุกที่เฉียบคม 3 รายมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

สำหรับคนแรกที่ อโมริม อยากได้ก็คือ เอ็มโบโม่ ซึ่งผลงานยอดเยี่ยมมากๆ ด้วยการซัดไป 20 ประตูในลีกให้กับ เบรนท์ฟอร์ด และมีรายงานว่านักเตะก็สนใจอยากย้ายมาสวมเครื่องแบบ "ผีแดง" ซะด้วย

ดาวยิงทีมชาติแคเมอรูนเหลือสัญญากับต้นสังกัดเพียง 1 ปีเท่านั้น นั่นหมายความว่า "เดอะ บีส์" คงจะต้องเร่งขายนักเตะออกไปหากได้ค่าตัว 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,200 ล้านบาท)  ฉะนั้น "ผีแดง" ต้องคว้า เอ็มโบโม่ มาให้ได้ หากพวกเขาอยากมีสถิติยิงประตูมากกว่านี้ 

แนวรุกฝั่งซ้าย : มาเตอุส คุนญ่า

แมนยู กำลังจะคว้าตัว คุนญ่า มาร่วมทัพ หลังพวกเขายินดีที่จะจ่ายค่าฉีกสัญญาจำนวน 62.5 ล้านปอนด์ให้กับ วูล์ฟส์ ซึ่งนี่คือนักเตะคนแรกที่มีข่าวหนาหูกับ "ผีแดง" มากที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้

คุนญ่า สร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจตลอด 2 ปีครึ่งที่เล่นในถิ่นโมลินิวซ์ กราวนด์ โดยเขาตะบันไป 15 ประตูในฤดูกาลนี้ และมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ "หมาป่า" อยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีก

แนวรุกชาวบราซิเลีน ย้ายจาก แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อเดือนมกราคม 2023 โดยตอนแรกเป็นการเล่นแบบยืมตัว ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ วูล์ฟส์ ถาวรด้วยค่าตัว 43 ล้านปอนด์ (ราว 1,892 ล้านบาท)

สำหรับ คุนญ่า มีทักษะและความสามารถทั้งการครองบอลที่เหนียวแน่น, เอาตัวรอดในพื้นที่แคบๆ ได้ดี และยังจบสกอร์ได้เฉียบคม ดังนั้นเขาจะช่วยยกระดับในเกมรุกได้ดีกว่าการใช้งาน เมสัน เมาท์ แน่นอน 

หน้าเป้า : เลียม ดีแลป

จากปัญหาการจบสกอร์ที่น่าผิดหวังของ ราสมุส ฮอยลุนด์ และ โจชัว เซิร์กซี ก็ดูเหมือนจะไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ซะที ด้วยเหตุนี้ แมนยู จำเป็นต้องคว้าตัว ดีแลป มาช่วยไล่ล่าตาข่ายคู่แข่ง

"อีเอสพีเอ็น" สื่อดัง รายงานว่า แมนยูไนเต็ด ตกลงกรอบการเจรจากับ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ รุ่นยู-21 ได้แล้ว ส่วนเรื่องการพูดคุยเกี่ยวกับสัญญาส่วนตัวกับนักเตะคาดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร

กระนั้นพวกเขาจะนิ่งนอนใจไม่ได้ เนื่องจาก เชลซี และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็ต้องการคว้าตัว ดีแลป ไปร่วมทัพด้วยเช่นกัน โดยข้อได้เปรียบของ "สิงห์บลูส์" และ "สาลิกาดง" ก็คือการที่ทีมได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้า

ดีแลป เป็นพวกหน้าเป้าขนานแท้ แม้ผลงานของ อิปสวิช จะไม่ดีมากนักและร่วงตกชั้น แต่ผลงานของนักเตะโดดเด่นมากๆ ถ้าหากเขาไม่ติดใจเรื่องที่ "ผีแดง" ไม่ได้เล่นฟุตบอลถ้วยยุโรป การย้ายไปค้าแข้งกับทีมก็ถือเป็นเกียรติประวัติที่ดีมากๆ สำหรับนักเตะชาวอังกฤษ 

TOMMY TEE.