อัปเดต 10 อันดับสโมสรฟุตบอลที่ใช้เงินเสริมทัพมากที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดซื้อขาย โดย เชลซี ยืนหนึ่งด้วยการทุ่ม 391 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์ 2023/24 ขณะที่ทีมดังจาก ซาอุฯ อย่างอัล ฮิลาล ก็พุ่งติดโผ พร้อมเปิดรายชื่อซัมเมอร์สุดเดือดของบิ๊กทีมยุโรป
ว่ากันว่าซัมเมอร์นี้ ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซน่อล สองสโมสรของ พรีเมียร์ลีก เตรียมทุ่มเงินก้อนโตคว้านักเตะใหม่มาเสริมทัพในหลายๆตำแหน่ง
หากเป็นไปตามข่าว ทั้งสองทีมมีโอกาสหมดเงินเกินกว่า 200 ล้านปอนด์ในกรณีที่ หงส์แดง คว้าทั้ง เจเรมี่ ฟริมปง , ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ , มิลอส เคอร์เคซ และ ฯลฯ มาร่วมชายคาได้เช่นเดียวกับที่ทีม ปืนใหญ่ ตกเป็นข่าวกับ วิคตอร์ โยเคเรส , มาร์ติน ซูบิเมนดี้ และ ฯลฯ เช่นกัน
กระนั้นก็ดี ก่อนจะได้คำตอบว่าแชมป์ และรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก จะควักกระเป๋ากันมากแค่ไหนในซัมเมอร์นี้ เราจะไปดูการช็อปปิ้งของทีมลูกหนังทั้งในตลาดหน้าร้อนและหน้าหนาวว่ามีทีมไหนบ้างที่ทุ่มเงินมากที่สุดในสิบอันดับแรก
10. แมนฯ ซิตี้ (ซัมเมอร์ 2017/18) , 210 ล้านปอนด์
ซัมเมอร์ที่ว่านี้ เรือใบสีฟ้า ลงทุนคว้ากองหลังหลายรายด้วยเม็ดเงินก้อนโตทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์ , ดานิโล่ , แบงฌาแม็ง เมนดี้ และ เอมเมอริค ลาปอร์กต์
ไม่เพียงเท่านั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เซ็นสัญญากับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ เอแดร์ซอน มาร่วมชายคาเช่นกัน แต่มันคุ้มค่าเงินเนื่องจากผู้จัดการทีมชาว สแปนิช คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยแรกได้จากทั้งหมดหกครั้งของเขา
อย่างไรก็ดี นับจากนั้นทีมดังของถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ไม่เคยจ่ายหนักเกินกว่า 200 ล้านปอนด์อีกเลยในทุกๆซัมเมอร์
9. เรอัล มาดริด (ซัมเมอร์ 2009/10) ,218 ล้านปอนด์
แน่นอนว่า ราชันชุดขาว จำเป็นต้องจ่ายหนักเนื่องจากในซัมเมอร์นั้นพวกเขาเซ็นสัญญากับสตาร์ชื่อดังหลายรายทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ,ชาบี อลอนโซ่ ,คาริม เบนเซม่า และ กาก้า มาร่วมทัพ
อย่างไรก็ดี มันเป็นเหมือนการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเนื่องจากทีมดังของลีกกระทิงดุจบซีซั่นในตำแหน่งรองแชมป์ ลา ลีกา โดยมีแต้มน้อยกว่า บาร์เซโลน่า สามแต้ม และไม่มีโทรฟี่ประดับตู้โชว์เลยแม้แต่ใบเดียวในยุคของกุนซือ มานูเอล เปเยกรินี่
8. ยูเวนตุส (ซัมเมอร์ 2018/19) ,223 ล้านปอนด์
ย้อนกลับไปเมื่อห้าปีก่อนช่วงที่ทีม ม้าลาย ยังครองความเป็นมหาอำนาจของ เซเรีย อา พวกเขาใช้เงินแบบไม่ยั้งโดยเฉพาะการฉุด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาล่าตาข่ายรวมทั้งสตาร์ดังอีกหลายรายอาทิ ชูเอา กานเซโล่ และ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่
แม้จะประสบความสำเร็จคว้าสคูเด็ตโต้ได้ แต่เป้าหมายที่ทีมดังแห่งตูรินไปไม่ถึงดวงดาวคือถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งพวกเขาตกรอบแปดทีม และไม่อาจคว้าแชมป์ใบนี้มาครองได้อีกเลยจนกระทั่งปัจจุบัน
7. บาร์เซโลน่า (ซัมเมอร์ 2019/20) ,235 ล้านปอนด์
ทีมยักษ์ของกาตาลันประสบกับความล้มเหลวที่สุดโดยพวกเขาไม่อาจคว้าแชมป์มาครองได้เลยแม้แต่รายการเดียวซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่สโมสรประสบกับความน่าผิดหวังครั้งใหญ่
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาไม่คิดลงทุน ในทางกลับกัน บาร์ซ่า จ่ายหนักทั้งคว้า เฟรงกี้ เดอ ยอง และ อ็องตวน กรีซมันน์ มาร่วมชายคาโดยเฉพาะรายหลังมีค่าตัวสูงที่สุดเป็นอันดับสาม
6.เชลซี (ซัมเมอร์ 2022/23) ,254 ล้านปอนด์
คงเป็นเรื่องน่าเซอร์ไพรส์หาก สิงห์บลูส์ จะไม่มีชื่ออยู่ในทำเนียบนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขามีเจ้าของทีมคนใหม่นาม ท็อดด์ โบลีย์
ว่าแล้วเศรษฐีอเมริกันก็เอาใจสาวกของทีมด้วยการเซ็นสัญญากับนักเตะมากหน้าหลายตาทั้ง เวสลีย์ โฟฟาน่า ,ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ,มาร์ค กูกูเรย่า และ คาลิดู คูลิบาลี่ แต่ทีมลูกหนังของกรุงลอนดอนล้มเหลวอย่างแรงทั้งไม่มีแชมป์มามอบให้แฟนบอล แถมจบอันดับ 12 ของ พรีเมียร์ลีก ด้วย
5. เชลซี (วินเทอร์ 2022/23) ,278 ล้านปอนด์
นอกจากจะใช้เงินแบบไม่กลัวจนในหน้าร้อนแล้ว โบลีย์ ทุ่มงบเสริมทัพในตลาดเดือนม.ค.เพิ่มเติมอีกทั้งเซ็นสัญญากับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ด้วยค่าตัวเกินกว่า 100 ล้านปอนด์ รวมทั้ง มิไคโล มูดริค , โนนี่ มาดูเอเก้, มาโล่ กุสโต้ และ ฯลฯ
แต่อย่างที่บอก การใช้เงินของเจ้าของใหม่ไม่ตอบโจทย์สำหรับซีซั่นที่ เชลซี ใช้กุนซือเปลืองมากถึงสี่รายรวมถึงนายใหญ่ขัดตาทัพด้วย
4. เรอัล มาดริด (ซัมเมอร์ 2019/20) , 279 ล้านปอนด์
เอแด็น อาซาร์ ตกเป็นข่าวใหญ่ในซัมเมอร์ที่ว่าเนื่องจาก เรอัล มาดริด คว้าเขามาจาก เชลซี ในราคา 115 ล้านยูโร
นอกจากนี้ เอแดร์ มิลิเตา , ลูก้า โยวิช , โรดรีโก้ และ แฟร์กล็อง เมนดี้ ย้ายมาคว้าแชมป์ ลา ลีกา กับ ราชันชุดขาว ภายใต้การคุมทีมของ ซีเนดีน ซีดาน เช่นกัน
3. เปแอสเช (ซัมเมอร์ 2023/24) ,295 ล้านปอนด์
ในฐานะทีมเงินถังของเมืองน้ำหอม เปแอสเช เดินหน้าคว้านักเตะชั้นยอดมาร่วมชายคาเป็นประจำ หากแต่ซัมเมอร์นี้พวกเขาทุ่มไม่อั้นแลกกับการดึงตัว ร็องดาล โกโล่ มูอานี่ , มานูเอล อูการ์เต้ ,อุสมาน เด็มเบเล่ , แบรดลีย์ บาร์โคล่า และ ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ มาร่วมสังกัด
และแน่นอนว่าแชมป์ ลีกเอิง ผูกขาดเหมาคว้าสามโทรฟี่ในประเทศได้สำเร็จ ยกเว้นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขากระเด็นตกรอบตัดเชือก
2. อัล ฮิลาล (ซัมเมอร์ 2023/24) , 298 ล้านปอนด์
ลีก ซาอุดิ อาระเบีย สร้างความฮือฮาให้กับวงการลูกหนังเมื่ออาศัยความมั่งคั่งกวาดต้อนสตาร์ระดับท็อปให้ย้ายจากลีกยุโรปมาหากินในตะวันออกกลาง
ในจำนวนนี้ประกอบไปด้วย เนย์มาร์ ,อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ,รูเบน เนเวส ,เซอร์เก มิลินโควิช ซาวิช , มัลคอล์ม และ คาลิดู คูลิบา ลี่ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมที่ได้แชมป์ โปรลีก ในซีซั่นที่ว่าย่อมหนีไมพ้น อัล ฮิลาล นั่นเอง
1. เชลซี (ซัมเมอร์ 2023/24) ,391 ล้านปอนด์
ไม่เพียงจะครองความเป็นเจ้าบุญทุ่มตัวจริงเสียงจริง แต่ สิงห์บลูส์ ติดอยู่ในทำเนียบสิบอันดับแรกของการใช้เงินเสริมทัพมากที่สุดรวมสามงวดด้วยกัน
ในซัมเมอร์ที่ว่า ทีมจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ เซ็นสัญญากับนักเตะค่าตัวเกินกว่า 10 ล้านปอนด์มากถึง 11 ราย และอีก 6 รายที่มีค่าตัวเกินกว่า 30 ล้านปอนด์ทั้ง มอยเซส ไกเซโด้ , โรเมโอ ลาเวีย , โคล พาลเมอร์ , อักเซล ดิซาซี่ , นิโคลัส แจ็คสัน และ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู แต่ลงท้ายแล้ว เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ พาทีมจบอันดับ 6 ของ พรีเมียร์ลีก และวืดแชมป์ทุกรายการ รวมทั้งแพ้นัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ต่อ ลิเวอร์พูล 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ