หงส์แดง และ นาโปลี

เดอะค็อป บางคนอาจจะชอบทีมอัซซูร่า แต่ถ้าจะให้เดาคงจะเป็นสัดส่วนน้อยกว่าที่เชียร์ยูเวนตุส เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน อยู่พอสมควร

อาจจะใกล้เคียงกับที่ปันใจให้ ซามพ์โดเรีย ปาร์ม่า โรม่า ลาซิโอ หรือ ฟิออเรนติน่า มากน้อยกว่ากันไม่เท่าไหร่ ด้วยแต่ละทีมต่างก็มีวีรกรรมและความน่าสนใจเฉพาะตัวเป็นช่วง ๆ ไม่ได้สม่ำเสมอจนสามารถสั่งสมกองเชียร์มากมายมาแต่ครั้งอดีตอย่าง 3 ทีมมหาอำนาจเขา

เกียรติประวัติอันทรงเสน่ห์ของนาโปลีคงหนีไม่พ้นยุคทศวรรษ 1980 ที่มี ดีเอโก้ มาราโดน่า นำทัพ จากทีมที่ไม่เคยได้ลืมตาอ้าปากอะไรกับเขากลายเป็นผู้ท้าชิงแย่งแชมป์กัลโช่ เซเรีย อาเต็มตัว และกระทั่งเป็นแชมเปี้ยนได้เอง

ปลดล็อกแชมป์ลีกครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 1986/87 ก็คว้าดับเบิ้ลแชมป์พ่วงโคปปา อิตาเลียได้เลย

สองปีต่อมาในฤดูกาล 1988/89 ยังได้แชมป์สโมสรยุโรปถ้วยยูฟ่า คัพ แล้วในฤดูกาล 1989/90 ก็ยังกระชากสคูเด๊ตโต้ได้อีกสมัย

ด้วยตีนซ้ายของมาราโดน่าและขุนพลที่รายล้อมเขา.. ชิโร่ แฟร์ราร่า, มาร์โก บารอนี่, มัสซิโม่ คริปป้า, ซัลวาตอเร่ บายี่, แฟร์นานโด เด นาโปลี, ลูก้า ฟูซี่, อเลเมา, บรูโน่ จอร์ดาโน่, จานฟรังโก้ โซล่า, อันเดรีย คาร์เนวาเล่, กาเรก้า

นาโปลีคว้าแชมป์เซเรีย อา 2 สมัย แชมป์ยูฟ่า คัพ 1 สมัย และแชมป์โคปปา อิตาเลีย 1 สมัย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียง 4 ฤดูกาล..

แฟนบอลทีมอัซซูร่าเพิ่มขึ้นมหาศาลก็ช่วงนั้น

ผมเองก็เช่นกัน..

เพราะฉะนั้นสำหรับผมแล้ว ฤดูกาล 2024/25 จึงเป็นฤดูกาลที่มีความสุขเป็นบ้า

ผมเชียร์ ลิเวอร์พูล ก่อน นาโปลี แต่ไม่ได้ทิ้งระยะกันไกลเท่าไหร่ ไม่น่าจะเกินหนึ่งปี ไล่เลี่ยกันในช่วงปลายทศวรรษ 1980 นั่นแหละ

ครั้งเดียวในหน้าประวัติศาสตร์ที่ ลิเวอร์พูล กับ นาโปลี เป็นแชมป์ลีกสูงสุดพร้อม ๆ กันก่อนหน้าฤดูกาลนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 1990

ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งเดิมสมัยที่ 18 ในฤดูกาล 1989/90

นาโปลีเป็นแชมป์กัลโช่ เซเรีย อาสมัยที่ 2 ของตัวเอง ในฤดูกาล 1989/90

แน่นอนครับ ผมทันช่วงเวลานั้น ได้อิ่มเอมไปกับความสุขที่เกิดขึ้น ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตอนที่อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวันและนิตยสารสตาร์ซอกเก้อร์รายสัปดาห์

หากการรับรู้ก็ยังห่างไกล ด้วยโลกวันนั้นไม่ได้ใกล้กันเหมือนวันนี้

อารมณ์ร่วมในวินาทีที่ทีมเป็นแชมป์.. ไม่ได้สัมผัส

หลังจากปี 1990 ลิเวอร์พูลกับนาโปลีรอคอยแชมป์ลีกหนต่อไปของตัวเองแบบรากงอกและหยากไย่ขึ้นเหมือน ๆ กัน ผ่านช่วงเวลาตกต่ำอย่างที่สุดเหมือน ๆ กัน ลิเวอร์พูลเพียงโชคดีกว่าที่ไม่ล้มละลายแม้จะจวนเจียนเต็มที

แต่ความตกต่ำถึงที่สุดนั้นกลับเป็นแรงเหวี่ยงให้ทั้ง 2 ทีมกลับมาเป็นอย่างที่กำลังเป็นอยู่ในวันนี้ มันก็เหมือนกันอีกเช่นกัน

ลิเวอร์พูลได้ FSG.. นาโปลีได้ ออเลริโอ เด เลาเรนติส

จากความห่อเหี่ยวมองไม่เห็นอนาคต เรื่องความฝันที่จะสิ้นสุดการรอคอยนั้นพักเอาไว้ก่อนแบบไม่มีกำหนด แต่แล้วทั้ง ลิเวอร์พูล และ นาโปลี ก็ปลุกความฝันเซื่องซึมนั้นให้กลับมาโลดแล่นมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ผมได้เชียร์ทีมรักทั้งสองอย่างมีความหวังอีกหน มองเห็นการพัฒนา คาดหวังไปไกลได้ถึงวันข้างหน้า ถ้าทีมยังก้าวเดินต่อไปบนทางนี้อย่างไม่ย่อท้อ สักวันหนึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นจริง ๆ

แล้วมันก็มาถึง.. จริง ๆ

ลิเวอร์พูล ทำได้ หลังจากรอคอยมา 30 ปี

นาโปลี ก็ทำได้เช่นกัน รอนานกว่านิดหน่อยคือ 33 ปี

วันที่ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาล 2019/20 ผมมีความสุข

วันที่นาโปลีคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อาเมื่อฤดูกาล 2022/23 ผมก็มีความสุข

มันอิ่มเอมใจ สมหวัง สมใจ

แต่กับฤดูกาลนี้ มันยิ่งสุขเป็นทวีคูณ ไม่เพียงเพราะมันเกิดขึ้นในฤดูกาลเดียวกัน แต่ยังด้วยทั้งจังหวะเวลา ด้วยสถานการณ์ ด้วยรายละเอียดน้อยใหญ่ มันลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบหมดเลย

ปี 2020 ที่ลิเวอร์พูลได้แชมป์ แต้มขาดในวันที่ตัวเองไม่ได้ลงเล่น นักเตะรวมตัวเชียร์กันหน้าจอ แล้วก็โอบกอดเฮฮากันหลัง แมนฯ ซิตี้ แพ้เชลซี

ปี 2023 ที่นาโปลีเป็นแชมป์ แต้มขาดในเกมที่ตัวเองลงเตะ แต่มันคือวันออกนอกบ้านไปเยือนอูดิเนเซ่ วิคเตอร์ โอซิเมน ซัดตีเสมอเก็บแต้มที่ต้องการได้สำเร็จ

ได้ฉลองนั่นแหละ ฉลองแชมป์เหมือนกัน อารมณ์สุดเหวี่ยงเหมือนกัน แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องสถานที่และผู้คน

หากปีนี้ฤดูกาลนี้ 2024/25 ทั้ง ลิเวอร์พูล และ นาโปลี ได้แชมป์ในเกมที่เล่นในบ้านตัวเองทั้งคู่

ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ในเกมถล่ม สเปอร์ส 5-1 ที่แอนฟิลด์

นาโปลีเป็นแชมป์ในเกมอัด กายารี่ 2-0 ที่สตาดิโอ ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า

ได้แชมป์นั้นย่อมดีอยู่แล้วครับ แต่ได้แชมป์ต่อหน้ากองเชียร์ของตัวเองในสนามของตัวเองนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย มันทำให้บรรยากาศยิ่งสุดยอดแบบคูณร้อย

ได้ฉลองกับพวกเดียวกัน ในสนามที่เป็นบ้านของเราเอง อารมณ์ร่วมพุ่งกระฉูดไปด้วยกัน กระโดดโลดเต้นแหกปากร้องเพลงกันสุดเหวี่ยงอยู่ตรงนั้น ปลดปล่อยทุกอย่างได้เต็มที่ ท่ามกลางเสียงเชียร์โห่ร้องกระหึ่มก้องไม่หยุด

ทั้ง ลิเวอร์พูล และ นาโปลี ได้ฉลองกันอย่างนั้นในฤดูกาลนี้

แล้วกับภาพข่าวต่าง ๆ การถ่ายทอดสด มุมกล้องหลายสิบตัว คลิปบรรยากาศอีกมหาศาลจากโทรศัพท์ในมือทุก ๆ คน หลายคนนำมันขึ้นโลกโซเชียล มันก็ยิ่งใกล้ตัวจนแทบจะรู้สึกว่าเราได้ไปอยู่ตรงนั้นด้วยตัวเอง

ฤดูกาล 1989/90 ก็สุด ๆ อย่างหนึ่ง

ฤดูกาล 2019/20 กับ 2022/23 ก็สุด ๆ อีกอย่างหนึ่ง

แต่ฤดูกาล 2024/25 นี้ สุด ๆ จนไม่อยากเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริง

ยินดีด้วยอีกครั้งครับกับแฟนลิเวอร์พูล ดีใจด้วยอีกเช่นกันกับกองเชียร์นาโปลี

และหากใครที่เชียร์ทั้ง 2 ทีม ผมเข้าใจดีครับว่าความรู้สึกของคุณเป็นอย่างไร

I love you.. Liverpool

Ti amo.. Napoli

-ตังกุย-