เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
1.หลังพ่ายศึกที่ บิลเบา อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่เป็นแค่ตัวสำรองในนัดชิงฯ ยูโรปา ลีก ทั้งที่ลงตัวจริงในรอบน็อคเอาท์มาตลอด
จึงให้สัมภาษณ์หลังแบบไม่ค่อยพอใจประมาณว่า...ตัวเขาได้ลงเล่นมาทุกรอบ ช่วยทีมมาตลอด แต่นัดชิงกลับได้ลงเล่นแค่ 20 นาทีซะอย่างนั้น
นาทีต่อมา รูเบน อโมริม ก็ให้สัมภาษณ์ด้วยเช่นกัน หลังถูกนักข่าวถามว่าการให้ การ์นาโช่ ลงสนามช้าเกินไปในเกมแพ้คลับไก่ คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดหรือเปล่า ???
พี่แกสวนแบบไม่ไว้หน้าทันที
"พูดตอนนี้มันก็ง่าย ใครกันล่ะที่พลาดโอกาสทองในครึ่งแรกของเกมกับบิลเบา?”
2. คนที่แย่งตำแหน่งตัวจริงไปจากดาวเตะวัยยี่หมิบผู้นี้ คือ เมสัน เมาท์ ที่กลับมาเป็นตัวจริงตลอด 3 นัดหลังในช่วงท้ายฤดูกาล
เป็นการตัดสินใจที่แปลกมาก ทั้งที่ก่อนหน้านั้นอดีตกองกลาง เชลซี ร้างสนามไปนาน และแทบไม่มีส่วนสำคัญอะไรในเส้นทางสู่ บิลเบา เลย
สถิติบอกว่า 3 นัดหลังสุดรวมทุกรายการที่ แมนยูไนเต็ด ลงสนามโดยให้ เมสัน เมาท์ เล่นตัวจริงตำแหน่งกลางรุก ทีมแพ้แบบยิงไม่ได้เลยทั้ง 3 นัด
แฟนบอลยังหงุดหงิด นับประสาอะไรกับคนที่เป็นตัวหลักมานาน ที่จู่ๆ ต้องมาเป็นตัวสำรองของคนที่ไม่ได้มีผลงานดีกว่า
3. ชัดเจนว่าแนวทางทำทีมของ รูเบน อโมริม เขาต้องการผู้เล่นแนวรุกแบบไม่ใช้ปีก แต่อยากได้นักเตะประเภท "หมายเลข 10" หรือ "หน้าต่ำคู่" เล่นด้านในด้วยระบบ 3-4-2-1 ที่ยึดมั่นเท่านั้น
การเลือก เมสัน เมาท์ ลงตัวจริงก่อนคือหลักฐาน เช่นเดียวกับการเตรียมเซ็นสัญญากับ มาเตอุส คุนญ่า
ลูกรักอย่าง อาหมัด ดิยัลโล่ ก็น่าจะอยู่กับทีมอีกนาน ทำให้ การ์นาโช่ ไม่ใช่คนที่ อโมริม ต้องง้อ
4. ส่วนใหญ่แล้ว นักเตะกับลูกทีมที่เปิดสงครามกันออกสื่อ มักจะต้องมีอย่างน้อย 1 คนที่หมดอนาคตกับสโมสร
แต่จากรายงานข่าวของสื่อหลายสำนัก ยืนยันว่าเบื้องบนของ แมนยูไนเต็ด ยังหนุนหลังให้ รูเบน อโมริม คุมทีมต่อไป
นั่นหมายความว่าถ้าจะมีฝ่ายไหนต้องไป ปีกชาวอาร์เจนไตน์มีโอกาสสูงกว่า
5. นักข่าวคนดังอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างกุนซือแดนขนมฝอยทอง กับดาวรุ่งที่มี “พี่โด้” เป็นไอดอล ตึงๆ มาหลายเดือนแล้ว
ถ้าจำกันได้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สโมสรพร้อมขายให้ นาโปลี รวมถึง เชลซี ที่ให้ความสนใจ แต่สุดท้ายไม่มีทีมไหนยื่นข้อเสนอที่ดีพอ เลยต้องร่วมหัวจนท้ายกันต่อ
แต่สถานการณ์ช่วงซัมเมอร์นี้มันต่างออกไปจากตลาดหน้าหนาว
แมนยูไนเต็ด ต้องการเม็ดเงินทุกช่องทาง หลังสูญรายได้มหาศาลจากการไม่ได้เล่นฟุตบอลยุโรป
แถม อเลฮานโดร การ์นาโช่ น่าจะเป็นนักเตะเพียงไม่กี่คนที่สโมสรสามารถตั้งราคาขายแล้วมีคนอยากจะเอานะ
โชคดี...ไอ้โช่ !!!