พูดจริงทำจริง? แกะรอยสถิติ อังเก้ ปี 2 ต้องมีแชมป์!

พูดจริงทำจริง? แกะรอยสถิติ อังเก้ ปี 2 ต้องมีแชมป์!
หลังพาสเปอร์สดับฝันแมนยู 1-0 ในนัดชิงยูโรปา ลีก คำพูดคลาสสิก “ผมมักได้แชมป์เสมอในปีที่ 2” ของกุนซือออสซี่กลับมาเป็นไวรัลอีกครั้ง แต่มันจริงแค่ไหน? เปิดประวัติทุกสโมสรที่เขาเคยผ่าน และเช็กว่า “ปีที่ 2 ของแอนจ์” คือช่วงเวลาทองจริงหรือเปล่า

"ผมมักได้แชมป์ในปีที่สองเสมอ... ผมไม่พูดในสิ่งที่ผมไม่เชื่อ"

แอนจ์ ปอสเตโคกลู กล่าวเมื่อกันยายน 2024 หลังแพ้อาร์เซน่อล คาบ้าน 0-1

คำพูดนี้ถูกนำมาย้ำซ้ำตลอดฤดูกาลของสเปอร์ส 2024-25 จนกระทั่งมันกลายเป็นความจริงในค่ำคืนที่ ซาน มาเมส เมืองบิลเบา เมื่อไก่เดือยทองคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก ด้วยการเชือดแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ปิดฉากการรอคอยโทรฟี่ 17 ปี และถือเป็นถ้วยใบแรกในรอบเกือบสองทศวรรษของสโมสร

แต่คำถามสำคัญคือ “จริงหรือไม่” ที่ปอสเตโคกลูมักได้แชมป์ในปีที่สอง?

ส่องสถิติปีที่สองของปอสเตโคกลูในแต่ละทีม

1. เซาธ์ เมลเบิร์น (1996–2000)

แชมป์ลีกออสเตรเลีย 1997-98 และ 1998-99

ได้แชมป์ปี 2 และ 3

แชมป์โอเชียนเนีย คัพ 1999

ได้แชมป์ปี 2

2. บริสเบน รอร์ (2009–2012)

แชมป์ เอลีก ฤดูกาล 2010-11 และ 2011-12

ได้แชมป์ปีที่สอง

3. ทีมชาติออสเตรเลีย (2013–2017)

แชมป์ เอเชียน คัพ 2015

ได้แชมป์ปี 2

4. โยโกฮาม่า เอฟ.มารินอส (2018–2021)

แชมป์เจลีก 2019

ได้แชมป์ปี 2

5. เซลติก (2021–2023)

แชมป์สกอตติช พรีเมียร์ชิพ 2 สมัย

ปีแรกดับซ่า เรนเจอร์ส คว้าดับเบิล ปี 2 จัดเทรเบิล

ได้แชมป์ปี 2 (แต่ปีแรกก็ได้แชมป์แล้ว)

6. สเปอร์ส (2023–ปัจจุบัน)

แชมป์ยูโรปา ลีก 2024-25

ได้แชมป์ปี 2

แม้อันดับพรีเมียร์ลีกจะแย่สุดในประวัติศาสตร์ (17) แต่คว้าโทรฟี่ยุโรป และตั๋ว UCL กลับมากู้ชื่อไว้ได้

ทีมอื่น ๆ ที่ “ไม่ทัน” ปี 2

พานาไชกิ (กรีซ) – อยู่ไม่ถึง 1 ปี

วิตเทิลซี ซีบราส์ (ออสเตรเลีย) – คุมแค่ 3 เดือน

เมลเบิร์น วิคตอรี่ (ออสเตรเลีย) – ลาออกก่อนครบ 2 ฤดูกาลเพื่อรับงานทีมชาติ

สรุปตำนาน "แชมป์ปี 2" คือของจริง!

จาก 6 สโมสรที่ ปอสเตโคกลู ได้คุมถึง “ปี 2 ” ปรากฎว่าทุกครั้งเขาคว้าแชมป์ในปีนั้น

บางทีมอย่าง เซลติก หรือ บริสเบน ถึงขั้นได้ดับเบิลหรือเทรเบิลเลยทีเดียว

สิ่งที่น่าสนใจคือ สไตล์ของเขาไม่ใช่แค่เรื่องแท็กติก แต่เป็นการปรับความคิดนักเตะ และสร้างวัฒนธรรมแห่งชัยชนะ ที่มักเห็นผลใน “ฤดูกาลที่ 2” อยู่เสมอ



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport