ถึงกูดิสัน พาร์ค ผมจะไม่มีวันลืมคุณ

 ถึงกูดิสัน พาร์ค  ผมจะไม่มีวันลืมคุณ
นักข่าวอาวุโสรายหนึ่งที่รู้จักกันมานานแล้ว (เขาคนนี้คือนักข่าว 1 ใน 6 ที่เข้าไปทำข่าวตอนลีกสูงสุดเปลี่ยนชื่อจากดิวิชั่น1เป็นพรีเมียร์ลีก)เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ผมมากูดิสันครั้งแรกปี 1963 โดยเป็นเกมที่ เอฟเวอร์ตัน เจอ อินเตอร์ มิลานบอลยุโรป

นับจากนั้นก็มาตลอดนับครั้งไม่ถ้วน วันนี้คือวันที่ผมเศร้าใจมาก..."    

ใช่ มันคือ The End OF An Era เหมือนอย่างที่เราต่างทราบกัน    

ถึงจะเพิ่งมีการประกาศว่าจะส่งมอบต่อให้ทีมบอลหญิงของทีมใช้ต่อในซีซั่นหน้าแต่เราต่างสะท้านว่าฟีลมันต่างกัน นี่คือสังเวียนที่เปิดใช้ให้ทีมบอลชายมา 133 ปี รวมทั้งสิ้น 2,791เกม    

มันจึงไม่ใช่แค่สนามฟุตบอลทั่วไปแน่นอน


เมื่ออาทิตย์ก็ยืนยันได้อย่างดี เอาว่าผมสะพายเป้ไปถึงตั้งแต่ตอนแปดโมงเช้าก็เจอผู้คนที่ตั้งใจมากันสวมเสื้อสีน้ำเงินเยอะแล้ว มันไม่ใช่วันแมตช์เดยปกติแน่ๆครับ พอเข็มนาฬิกาหมุนไปอีกชั่วโมงเท่านั้นแหละ คราวนี้ออกไปตรงถนนด้านข้างก็เจอคนนับหมื่นที่มารอเพื่อต้อนรับรถโค้ชนักเตะ    

บ้างตะเบ็งคำร้องเพลงประจำสโมสร    

บ้างแค่แหกปาก "Everton Everton Evertonnn"    

และบ้างที่กำลังเก็บเกี่ยวทุกวินาทีอันมีค่าที่อีกไม่นานก็จะไม่เจออีกแล้ว    

แพสชั่นของเอฟเวอร์โตเนี่ยนไม่เคยรองใคร ถึงทีมจะห่างหายโทรฟี่มานับแต่ปี 1995 และถึงทีมจะต้องกระเสือกกระสนหนีตกชั้นมาตลอด 3-4 ปีมานี้    

จากกำหนดการว่ารถโค้ชนักเตะต้องแล่นผ่านถนนด้านข้างจึงต้องเปลี่ยนเส้นทางเพราะตรงนั้นมีสิ่งมีชีวิตหัวใจสีน้ำเงินไปรอกันล้นหลามจนแทบไม่มีที่ให้ยืน!! ผมก็ไปอยู่ตรงนั้นด้วย อาจมีสำลักพลุควันบ้าง อาจต้องทำตัวให้เล็กที่สุดเพราะโดนเบียดจากรอบด้านบ้างแต่สาบานมันจะเป็นโมเมนต์ที่ไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิต    

ดูบอลมาก็เยอะ ไปมาก็ไม่รู้กี่สนามแต่ไม่เคยเจออะไรอย่างนี้มาก่อน

นักข่าวอาวุโสทำข่าวที่กูดิสันตั้งแต่ปี 1963 บอกว่าเศร้ามาก

ก็คงอย่างที่ เดวิด มอยส์ ได้กล่าวไว้ในช่วงพิธีการหลังเกมจบที่ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 ท่ามกลางผู้ชม 39,201คน ปิดท้ายอย่างสวยงาม "นิยามของกูดิสัน พาร์คคือคน มันเป็นสนามที่ผูกใจผู้คนให้เข้าหากันอย่างเหนียวแน่น ทุกๆอย่างวันนี้สะท้อนออกมาเช่นนั้นอีกครั้ง"    

ในแง่หนึ่งกูดิสัน พาร์คที่เปิดใช้มา133ปี มีตำนานที่เล่าสืบกันมาแบบนี้...    

เป็นสนามแรกที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เตะฟุตบอล    

เป็นสนามแรกที่มีซุ้มสำรอง    

เป็นสนามแรกที่ติดฮีตเตอร์ใต้พื้นหญ้า    

เป็นสนามแรกที่คิดทำหนังสือโปรแกรมขายวันแมตช์เดย์    

เป็นสนามแรกที่สร้างสแตนด์ 2 ชั้นขึ้นมาทั้งสี่ด้าน    

และเป็นสนามที่ได้เตะเกมลีกสูงสุดมากที่สุดในอังกฤษ    

หากในอีกบางแง่ของสังเวียนโบราณสีน้ำเงินที่ได้มอบให้ผู้ชายคนหนึ่งเขียนออกมาได้แบบนี้

แกรม ชาร์ป ตำนานของทีมมักเรียกผมว่า "top man" ในทุกๆครั้งที่เจอกัน ในความเป็นอดีตกองหน้ายุค 80 ที่ประสบความสำเร็จก็ไม่จำเป็นเลยที่ต้องมาสนใจนักข่าวหัวดำคนนี้

วันที่มีหรือไม่มีแดด จากหัวไปจนสุดถนนก็ต้องเจอเพื่อน เพื่อนที่สำเนียงเหน่อๆภูมิใจเรียกตัวเองว่า 'scouser'

มีบางคนเจอครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทุกวันนี้ก็ยังคงเดินเข้ามาเซย์ฮัลโหลเหมือนเดิม

ทุกวันนี้หลายๆคนรู้จักผม ว่ากันตรงๆเป็นสนามที่สามารถเฮในเพรสบ็อกซ์ได้โดยไม่เคอะเขิน...

ก็อาจจะใช่เพราะนี่คือสนามที่มาบ่อยมากแต่นั่นคงไม่ใช่เหตุผลเดียว

ผมไม่เคยคิดว่ามาเพื่อแค่ทำข่าว

ผมก็ไม่เคยมองว่าเรามาเพียงเพื่อเชียร์ทีมที่เรารัก

ส่วนตัวกูดิสัน พาร์คเป็นมากกว่าสนามบอล มันคือบ้านที่อาจไม่ใหญ่แต่อบอุ่น มันคือครอบครัวที่สมาชิกทุกๆคนต่างรู้กันดีว่า"พวกเราไม่ได้เลือกแต่พวกเราเป็นผู้ถูกเลือก"

-ชีวิตนี้ผมตัดสินใจผิดพลาดมาก็ไม่น้อย

แต่หนึ่งในเรื่องที่เชื่อมาตลอดว่าตัดสินใจถูกต้องก็คือเลือกเชียร์ เอฟเวอร์ตัน ทีมใส่เสื้อสีน้ำเงินในวันนั้น

สำหรับกูดิสัน พาร์ค มันคือความทรงจำ...ตลอดกาล                                    

"ไก่ป่า".....



ที่มาของภาพ : siamsport-getty images
BY : ไก่ป่า
เอกราช นิติสุทธิ์สกุล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport