เกือบยันหว่าง! เบื้องหลังงานฉลองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ ลิเวอร์พูล

ภายในงานอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข 

ครอบครัวและเพื่อนสนิทของเหล่าบรรดาผู้เล่นก็เข้ามาร่วมงานด้วย

ในนั้น มีพื้นที่สำหรับเปิดฟลอร์เกือบตลอดทั้งคืน 

ดีเจจัดเพลงให้ตามคำขอ และเมื่อเพลงประจำตัวของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ หลุยส์ ดิอาซ ดังขึ้น ผองเพื่อนร่วมทีมก็ต่างร้องตามอย่างสนุกสนาน โดยหลายคนสวมเสื้อแข่งชุดเหย้าตัวพิเศษที่พิมพ์ด้านหลังว่า "CHAMSPIONS 24-25"

เพลง Sultans of Swing ของ Dire Straits วงร็อกอังกฤษ ซึ่งกลายเป็นเพลงประจำทีมในฤดูกาลนี้ ได้รับเสียงตอบรับล้นหลาม 

เพลงนี้เป็นหนึ่งในลิสต์ Spotify ที่ อลิสซง เบ็คเกอร์ ไว้ฟังในห้องแต่งตัว และจะถูกเปิดเป็นเพลงแรกหลัง ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะในแต่ละนัด

เฮดโค้ช อาร์เน่อ เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาจะดื่มเบียร์สักแก้วสองแก้วหรือสามแก้ว แล้วเขาก็ทำตามที่บอกไว้ 

ช่วงเวลานี้ทำให้ อาร์เน่อ ได้ใช้เวลาฉลองกับครอบครัวอย่างชื่นมื่น ที่เดินทางมาจากถิ่นบ้านเกิด

งานนี้จัดแบบไม่เป็นทางการ ไม่ได้มีคำพูดอะไรใด ๆ มากมาย 

จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ เจ้าของสโมสรและ ลินดา ปิซซูตี้ ภรรยา ก็แวะมาร่วมแสดงความยินดี ก่อนจะกล่าวลาและขอตัวกลับก่อนกลางดึก

นักแสดงชาวเมืองลิเวอร์พูล เจมส์ เนลสัน-จอยซ์ ก็ร่วมในงาน พร้อมด้วย พอล สมิธ อดีตแชมป์มวย ซูเปอร์ มิดเดิลเวตของ อังกฤษ ซึ่งสนิทซี้กับ คอสตาส ซิมิกาส รวมถึง เลียม สมิธ น้องชายที่เคยเป็นแชมป์โลก รุ่นไลต์ มิดเดิลเวต

ช่วงเวลาหนึ่ง นักเตะบางคนอย่าง ฟาน ไดค์ ได้กลับเข้าไปในสนามเพื่อถ่ายภาพกับครอบครัวบริเวณหน้าสแตนด์เดอะ ค็อป 

ส่วน อิบราฮิม่า โกนาเต้ เดินขึ้นไปที่เมนสแตนด์ชั้นแรก แล้วใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ ชั่วขณะ

"ผมพูดไม่ออกจริง ๆ ว่ารู้สึกยังไง ผมแค่อยากซึมซับช่วงเวลานั้นตามลำพัง" โกนาเต้ กล่าว

"เราได้แชมป์ต่อหน้าแฟนบอล 60,000 คน ผมแค่อยากรู้สึกบางอย่างที่แตกต่างออกไป และตอนนี้ผมมีความสุขมาก ผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มันบ้ามาก เหลือเชื่อจริง ๆ และเราต้องฉลองให้เต็มที่"

"ผมเป็นนักเตะชาวฝรั่งเศสคนแรกของ ลิเวอร์พูล ที่ได้ชูถ้วยนี้”

ซึ่งงานปาร์ตี้นี้จบลงในเวลาราวตีสาม

…

เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า หลังเสียงนกหวีดสุดท้าย และ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกต่อหน้าแฟนบอลเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปี... 

ความดีใจปะทุขึ้นทั่วทั้งสนามแอนฟิลด์

ภาพน่าประทับใจที่เกิดขึ้นคือการที่ อาร์เน่อ นำแฟนบอลร้องเพลง เจอร์เก้น คล็อปป์ ลาลาลาลาลา เพื่อตอบแทนน้ำใจจากอดีตกุนซือ ผู้เคยอวยพรแด่เขาเมื่อปีกลาย และช่วยให้การส่งมอบตำแหน่งเป็นไปอย่างราบรื่น

"ผมทำแบบนั้นเพราะสิ่งที่เขาเคยทำก่อนที่ผมจะมาถึงที่นี่" อาร์เน่อ อธิบาย

"ผมไม่คิดว่าจะมีผู้จัดการทีมคนไหนเคยทำแบบนั้น มันช่วยผมได้มาก และสิ่งที่ช่วยผมยิ่งกว่านั้นคือทีมที่เขาทิ้งไว้ให้ กับวัฒนธรรมที่เขาสร้างไว้ในทีม"

คลิปไวรัลในโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็น ดาร์วิน นูนเญซ พยายามสาดแชมเปญใส่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่จริง ๆ แล้วมันคือ Nozeco เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล เพื่อให้เกียรติต่อผู้เล่นที่เป็นมุสลิม 

ขณะเดียวกัน นูนเญซ ก็โพสต์ภาพตัวเองถือซิการ์มวนใหญ่อยู่ในห้องแต่งตัว

ก่อนหน้านั้น ซาลาห์ ฉลองประตูที่ 4 ด้วยการเซลฟี่อันคุ้นเคย โดยมี เดอะ ค็อป เป็นฉากหลัง

ตอนแรกดูเหมือนว่าเขาจะยืมโทรศัพท์จากแฟนบอลด้านหน้ามาใช้ แต่จริง ๆ แล้วเป็นกล้องจากช่างภาพประจำสโมสรที่เขาเห็นและขอยืมมา

ลิเวอร์พูล เป็นพันธมิตรเชิงพาณิชย์รายใหญ่กับ Google Pixel ซึ่ง ฟาน ไดค์ เองก็เคยทำแบบเดียวกันหลังเกมที่ นูนเญซ ซัดประตูชัยใส่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในเดือนมีนาคม 2024 

หากพวกเขาต้องการจะใช้ขึ้นมา บรรดานักเตะรู้ว่าโทรศัพท์อยู่ไหน

"ตั้งแต่ต้นฤดูกาล ผมจะเซลฟี่กับคนที่ยิงประตูได้เสมอ ดังนั้นครั้งนี้ผมคิดว่า -โอเค เราต้องทำอะไรพิเศษหน่อย- เพราะภาพนี้จะอยู่ไปตลอดกาล”

"ผมก็เลยคิดไอเดียขึ้นมานิดหน่อย แล้วมันก็ออกมาดีซะด้วย" ซาลาห์ ให้สัมภาษณ์กับ Opus Sport

อีกฉากอันอบอุ่น คือการที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ อลีสซง ชวนเด็กเก็บบอลจาก อะคาเดมี่ ที่ยืนอยู่ข้างสนามมาร่วมฉลองด้วยกันอย่างอบอุ่น

และยังมีช่วงเวลาน่าจดจำของ เคอร์ติส โจนส์ ที่อุ้ม แฮร์รี้ ไวต์เฮิร์สต์ เด็กแฟนบอลคนหนึ่งจากอัฒจันทร์ เดอะ ค็อป ลงมายังสนาม เพื่อให้เขาได้มีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองแชมป์อันยิ่งใหญ่นี้

ไวต์เฮิร์สต์ คนนี้ คือคนที่ดาวเตะสเกาเซอร์ เคยไปแวะเยี่ยม ขณะกำลังช่วยงานอยู่ที่ร้านกาแฟ Homebaked ละแวกสนามแอนฟิลด์ โดยไม่ได้บอกล่วงหน้า แล้วกล้องของ LFCTV เคยจับภาพช่วงเวลาสุดประทับใจได้

ในค่ำคืนแห่งชัยชนะ ท่ามกลางเสียงเพลงและการฉลอง ก็มีอีกเรื่องราวที่ ปีเตอร์ ชไมเคิล อดีตผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์เกม ยืนอยู่ริมสนามเพื่อแสดงความยินดีกับ อลีสซง อย่างเปิดเผยในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ 

โดยวางอคติระหว่างสองสโมสรไว้ข้างหลัง เพื่อยกย่องผลงานสุดยอดของนายด่านแซมบ้า ที่มีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20

จากนั้น นักเตะทั้งทีมและทีมงานโค้ชก็รวมตัวกันถ่ายภาพหมู่หน้าอัฒจันทร์ เดอะ ค็อป เพื่อยืนยันว่านี่คือผลงานที่มาจากความร่วมมือของทุกคนในทีมอย่างแท้จริง

...

ภายนอกสนาม แฟนบอลอีกนับพันที่ไม่ได้เข้าไปชมเกมต่างมารวมตัวกันรอบ ๆ แอนฟิลด์ 

พลุไฟสีแดงส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืนในวันอาทิตย์

แม้ผ่านไปเกือบสามชั่วโมงหลังจบเกม ถนนวอลตัน เบร็ค ที่อยู่ด้านหลังฝั่งเดอะ ค็อป ยังคงถูกปิดการจราจร เนื่องจากผู้คนจำนวนมากยังคงหลั่งไหลมา แฟนบอลบางคนถึงกับปีนรั้ว ปีนเสาไฟ หรือหลังคา เพื่อเฟ้นมุมที่ดีที่สุดในการชมและร่วมเฉลิมฉลอง 

เช้ามืดวันจันทร์ ขณะที่เจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติการทำความสะอาด สโมสร ลิเวอร์พูล ไม่รอช้า รีบอัปเดตกำแพงแชมป์ (Champions Wall) ด้านนอกสนาม และ ทางเดินแห่งแชมป์ (Walk of Champions) ข้างในสนาม เพื่อสะท้อนถึงความสำเร็จล่าสุดในการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 อย่างเป็นทางการทันที

คล็อปป์ โพสต์ภาพลงอินสตาแกรมที่ถ่ายกับนักเตะและทีมงานทั้งหมดหน้าเดอะ ค็อป ระหว่างเพลง You’ll Never Walk Alone ดังขึ้นในวันอาทิตย์ พร้อมข้อความว่า 

"ขอบคุณสุดหัวใจสำหรับเรื่องราวในอดีต

มีความสุขมากกับปัจจุบัน

และเต็มไปด้วยความหวังสำหรับอนาคต!

ยินดีด้วยนะ — YNWA

ขอบคุณ รัก”

คล็อปป์ จะกลับมาที่ เมอร์ซีย์ไซด์ อีกครั้งในเดือนหน้า

เขาจะเป็นแขกรับเชิญในงานดินเนอร์การกุศลของ LFC Foundation และยังได้รับเชิญให้เข้าชมเกมสุดท้ายของฤดูกาลกับ คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่จะมีการมอบถ้วยแชมป์อย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกัน ทางสโมสรได้มอบวันหยุดให้กับนักเตะและทีมงานทุกคนที่ประจำอยู่ที่ศูนย์ฝึก เคิร์กบี้ เป็นเวลา 2 วัน เพื่อพักฟื้นร่างกายหลังผ่านค่ำคืนแห่งความทรงจำ โดยทีมของ อาร์เน่อ จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในวันพุธ

ขณะที่ ดีโอโก้ โชต้า ที่ใส่เสื้อแข่ง "Champions 24-25" ด้วยความภาคภูมิใจ ถูกพบว่ากำลังปั่นจักรยานอยู่ริมชายฝั่งในเมืองครอสบี้ ทางตอนเหนือของ ลิเวอร์พูล   

สัปดาห์หน้า ลิเวอร์พูล จะได้รับ Guard of Honour จากทีม เชลซี ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ 

และแน่นอนว่า งานฉลองมันยังไม่จบเพียงเท่านี้...

#HOSSALONSO