ไม่มีใครใหญ่เกินสโมสร

"United Have Betrayed Me"หรือแปลเป็นไทยก็ได้ว่า"แมนฯยูไนเต็ดหักหลังผม"

คำถามที่มีนักข่าวยิงเข้าไปก็เป็นเรื่องที่โยงถึงข้อสงสัยว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้หายไปไหนถึงไม่ได้มีชื่อในทีม

 "เขาบอกว่าเขาป่วย"โค้ชชาวดัตช์ตอบสั้นๆ

 แน่นอนอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับโรนัลโด้ไฟย่อมลามได้ง่าย ในเมื่อเขาเป็นมนุษย์ที่มีคนติดตามในอินสตราแกรมสูงสุดในโลก ในเมื่อเขาคนนี้ผู้จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จที่สุดเท่าที่เคยมีมา หากน่าเศร้าเขากำลังได้ปฎิบัติตัวคนละแบบกับวาจาที่เขามักลั่นเอาไว้"ผมรักยูไนเต็ดและแฟนบอลทุกคน..."    

ท่ามกลางความสุขของเหล่าอสูรกับชัยชนะตอนบาดเจ็บเหนือฟูแล่ม2-1ก็ต้องกลับมาปวดหัวบ้างหรืออารมณ์เสียบ้างกับบทสัมภาษณ์ล่าสุดของขวัญใจตัวเองที่ให้กับเพียร์ส มอร์แกนในรายการทีวี'Piers Morgan Uncensored'

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมไอ้โด้ถึงยอมไปออก?

คำตอบง่ายๆครับเพราะเจ้ามอร์แกนเป็นสื่อที่อยู่ข้างเดียวกับซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสมาตลอด ยิ่งซีซั่นนี้ที่ไม่ว่าตัวนักเตะจะทำผิดกฎข้อไหน กฎของการใช้ชีวิตในสังคมหรือกฎของการเป็นลูกจ้างคนหนึ่งของสโมสรลูกหนังก็คงพยายามออกมาเขียนปกป้อง

ทำไมเร็วๆนี้แกรี่ เนวิลล์ถึงได้เมินเฉยจากโรนัลโด้ตอนเป็นพิธีกรให้สกาย??

ทำไมเวย์น รูนี่ย์ถึงโดนตอกกลับอย่างเจ็บแสบ(จากการเคยเรียกร้องให้ต้นสังกัดเก่าปล่อยไอ้โด้ออกไป) คัดลอกจากบทสัมภาษณ์ก็ได้ประโยคแบบนี้"ผมไม่รู้เลยทำไมเขาถึงวิจารณ์ผมแรงๆแบบนั้น บางทีเพราะว่าเขาอาจจะยุติเส้นทางค้าแข้งไปแล้วแต่ผมยังเล่นได้อยู่ในระดับสูง ผมไม่อยากจะบอกว่าเพราะผมเป็นนักเตะที่ดีกว่าเขาหรอกแม้มันเป็นเรื่องจริง"

แบบนี้ก็หมายถึงว่าใครก็ตามที่ออกมายืนคนละข้างกับคุณต่อให้จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือมีสิทธิชอบธรรมแสดงทัศนะได้ก็กลายว่าเป็นคนขี้อิจฉาหรือว่าต้องเปลี่ยนสถานะจากมิตรเป็นศัตรูทันที

ว่าไปผมเองไม่ได้ซื้อเดอะ ซันนานมากแล้ว...นานจนจำไม่ได้เช่นกันว่าหนสุดท้ายเป็นเมื่อไร เหตุผลหลักก็ความเป็นสื่อที่มักเสนอข่าวผิดๆกับมีสื่อเจ้าอื่นที่ควรเสียสตางค์ให้มากกว่า ทว่าเช้านี้ต้องรีบดิ่งตรงไปยังแผงเพื่อหยิบแท็บลอยด์ที่เน้นขายกลุ่มรากหญ้าราคา80เพนนีมาแนบไว้กับตัว

เนื่องด้วยบทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟของโรนัลโด้มีตีพิมพ์แค่เจ้าเดียว(เดอะ ซันได้ติดต่อขอซื้อลิขสิทธิจากมอร์แกนก่อนเจ้าแรก)

จึงอยากขออนุญาตแปลคำถามกับคำตอบไล่เรียงเป็นข้อๆโดยเข้าใจว่าก็คงมีบางคนเช่นกันที่ยังไม่ได้อ่านครบถ้วนทุกคำ

พูดถึงโอเล่ กุนนาร์ โซลชา

โรนัลโด้ : "ผมไม่มีอะไรจะพูด มีแต่ความเคารพ"

พูดถึงราล์ฟ รังนิก

โรนัลโด้ : "ถ้าคุณไม่ได้เป็นโค้ชมา มันเป็นไปได้อย่างไรที่คุณจะมาเป็นบอสใหญ่ให้แมนฯยูไนเต็ด ผมไม่เคยได้ยินชื่อเขาก่อนด้วยซ้ำ"

พูดถึงเทน ฮาก

โรนัลโด้ : "ผมไม่มีความเคารพให้เขาเพราะว่าเขาไม่เคารพในตัวผมก่อน ถ้าใครก็ตามไม่ให้เกียรติหรือเคารพผมก่อน ผมก็ไม่จำเป็นต้องแสดงคืนไป"

พูดถึงแมนฯยูไนเต็ด

โรนัลโด้ : "ผมทำตามหัวใจจึงกลับมาซึ่งเป็นเซอร์ อเล็กซ์ ด้วยที่โทรหาผมบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะย้ายไปอยู่กับซิตี้ ผมก็เชื่อในคำโน้มน้าวนั้น"

พูดถึงพัฒนาการของแมนฯยูไนเต็ด

โรนัลโด้ : "แฟนบอลย่อมสะท้านถึงความจริงที่ว่าสโมสรไม่มีพัฒนาการใดๆเลยนับแต่หมดยุคเซอร์ อเล็กซ์ ผมต้องการสิ่งดีที่สุดถึงสโมสร นั่นเองทำไมผมถึงกลับมาแต่มันก็มีบางสิ่งข้างในที่ไม่ได้ช่วยให้ทีมก้าวไปเทียบเท่าทีมอย่างซิตี้, ลิเวอร์พูลหรืออาร์เซน่อล"

พูดถึงเซอร์ อเล็กซ์กับผลงานของทีมในปัจจุบัน

โรนัลโด้ : "เขาย่อมรู้ดีกว่าใคร ทุกคนก็เช่นกันต้องรู้ว่าเราไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เราควรจำอยู่ มันมีบางคนเช่นกันที่ทำเหมือนไม่รู้ คนกลุ่มนี้อาจจะรู้ก็ได้แต่แกล้งตาบอด"

พูดถึงการย้ายออกจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดในมกราคมนี้หรือซัมเมอร์หน้า

โรนัลโด้ : "ปิกัสโซ่เคยกล่าวไว้คุณจำต้องทำลายมันทิ้งก่อนเพื่อสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา(ปิกัสโซ่พูดจริงๆคือทุกสิ่งที่ก่อขึ้นมาใหม่เริ่มจากการต้องทำลายของเดิมก่อน)ซึ่งถ้าเขาจะเริ่มที่ตัวผม ผมก็ไม่มีปัญหา ผมพร้อม..."

ในบทสัมภาษณ์ก็ยังมีเล่าถึงแพสชั่นของนักบอลวัย37คนหนึ่งที่มุ่งมั่นคว้าแชมป์โลกที่กาตาร์ให้ได้กับประเทศตัวเอง ก็ยังมีเอ่ยขอบคุณถึงแฟนผีทุกคนที่ต้อนรับอย่างอบอุ่นตอนรีเทิร์นสู่ทีมซีซั่นที่แล้ว     

"ผมคิดว่าพวกเขาอยู่ข้างผมเสมอ ทุกครั้งที่ผมออกไปข้างนอกตามถนนก็เจอแฟนเข้ามาทัก มาแสดงความชื่นชม สำหรับผมแล้วพวกเขาคือทุกสิ่ง นั่นเองทำให้ผมต้องมาใหัสัมภาษณ์วันนี้เพราะมันคือเวลาที่เหมาะสม"

จากหลายๆคำพูดข้างต้นก็ค่อนข้างชัดเจนว่านาทีนี้เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัยคงกำลังรู้สึกคล้ายถูกจองจำในคุกห้าดาว เขาไม่ได้มีอิสระเหมือนที่เขาฝัน เขาไม่ได้โอกาสให้ทำอะไรก็ได้เท่าที่เขาควรทำได้

ถามว่าระเบิดลูกล่าสุดนี้จะเป็นไปได้อีกหรือที่จะได้เห็นเขาสวมเครื่องแบบตราปีศาจอีก? เขาย่อมตรองมาถี่ถ้วนแล้วถึงยอมไปออกรายก่อนใส่ไม่ยั้งเช่นนี้ ครั้นพอจบเวิล์ด  คัพไม่กี่วันก็มีเสียงระฆังของตลาดหน้าหนาวดังขึ้น

ก็ใช่ อันดับ 5 ในตารางตอนนี้ของทีมย่อมไม่ใช่อันดับที่สโมสรสีแดงของแมนเชสเตอร์ควรพึงพอใจ ข้อนี้ผมย้ำเสมอว่านี่คือทีมที่ควรต้องลุ้นแชมป์ทุกปี พอมองขึ้นไปก็ห่างจากจ่าฝูงถึง11 แต้มด้วย

อย่างไรก็ตามก็เห็นกันอยู่ว่าเทน ฮากกำลังทำอะไรกับทีม? ก็มีชิ้นหลักฐานจับต้องได้ว่าทีมดูมีความหวังขึ้น มันก็อาจเพราะว่าทีมตอนนี้ที่กำลังไปได้ดีดันไม่ได้มีเขาเป็นตัวหลักใช่ไหมถึงทำตัวราวกับเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอยู่นั่นถูกต้องว่าเพราะเขาคือโรนัลโด้....

ตามหลักมันก็ควรจะมีการประคบประหงมให้เยอะกว่าคนทั่วไปแต่เขาก็ได้รับในสิ่งที่ควรได้ไปแล้ว อย่างเช่นค่าจ้างต่อสัปดาห์ที่สูงกว่าใครเป็นต้นจากบทสัมภาษณ์ก็ดูย้อนแย้งในตัวเอง มาเอ่ยถึงเซอร์ อเล็กซ์โดยคงรักเรียกว่า'Boss'อยู่ต่อให้สถานภาพจะไม่ใช่แล้ว เอาตรงๆเลยสมมติยังเป็นมหาบุรุษสายเลือดสกอตต์ปกครองอาณาจักรสีแดงอยู่จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะยอมปล่อยให้มีนักเตะทำตัวนอกคอกแบบนี้...

เคยลุกจากม้านั่งสำรองหายเข้าอุโมงค์ไปก่อนเกมจบ

เคยแข็งข้อไม่ยอมลงรับการถูกเปลี่ยนลงสนาม

เคยมารายงานตัวซ้อมสาย

และสดๆร้อนๆมาโยนระเบิดใส่สโมสรตัวเองซะงั้น

ยิ่งกับประโยคนี้"แฟนบอลย่อมสะท้านถึงความจริงที่ว่าสโมสรไม่มีพัฒนาการใดๆเลยนับแต่หมดยุคเซอร์ อเล็กซ์ ผมต้องการสิ่งดีที่สุดถึงสโมสร"

โรนัลโด้ถือเป็นขุนพลในชุดเกรียงไกรของแมนฯยูไนเต็ดโดยจุดแข็งที่สุดของทีมตอนนั้นก็เป็นเรื่องสปิริต, ความกลมเกลียวรวมถึงการที่อย่าหลงลืมกำพืด ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องที่เฟอร์กี้ย้ำเสมอไม่ว่าจะตอนไหนๆ ไม่ว่าจะสมัยคงทำงานหนักหรือรับเชิญไปให้โอวาทที่ไหนก็ตาม

ที่ผ่านมาเทน ฮากก็กำลังถลกแขนเสื้อสร้างวัฒนธรรมนั้นกลับสู่ทีม ความจริงก็เป็นเรื่องว่าไอ้โด้มีร่างกายโรยราลงตามสภาพ มีหลายเกมเลยที่บ่งชี้เช่นนั้น ในทางกลับกันกับหลายเกมที่พอไม่มีเขาอยู่ในสนาม ทีมก็มีผลงานที่ไปได้สวย    

เหนืออื่นใด เซอร์ อเล็กซ์จะไม่มีทางเพิกเฉยได้ถ้ามีนักเตะคนไหนกำลังทำตัวใหญ่เกินกว่าสโมสร...

"ไก่ป่า"