ลิเวอร์พูล แพ้2นัดติด! ลีดส์ แสบบุกอัดถึงแอนฟิลด์ - ฟาน ไดค์ เสียสถิติไร้พ่าย

หงส์คาบ้านในรอบ 30 เกมลีก! ลิเวอร์พูล สุดช็อกมีโอกาสเข้าทำใส่ ลีดส์ แต่ไม่คมเองก่อนเจอทีเด็ดของ คริสเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ ฮีโร่ของ "ยูงทอง" ซัดประตูชัยนาที 89 พาทีมบุกมาคว้าชัย 2-1 ซิวชัยแรกในรอบ 9 พร้อมแซงขึ้นที่ 15 มี 12 แต้ม ส่วน "หงส์แดง" แพ้สองนัดติด และ นัดที่ 4 ของฤดูกาล รั้งที่ 9 มี 16 คะแนน ก่อนวีกหน้าจะบุกไปเยือน สเปอร์ส

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ที่หล่นมาอันดับ 9 เปิดแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมรองบ๊วย อันดับ 19

เจอร์เก้น คล็อปป์ ปรับแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมกลางสัปดาห์ส่ง ติอาโก้ ที่หายป่วยลงมาแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่วนแนวรุกยังเหมือนเดิม โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ดาร์วิน นูนเญซ ช่วยกันล่าตาข่าย 

ด้านทีมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ของ เจสซี่ มาร์ช ไม่ชนะทีมใดมา 8 เกมติดต่อกันแล้ว นัดนี้ปรับทัพส่ง คริสเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ ลงปั้นเกมร่วมกับ แจ็ค แฮร์ริสัน และ เบรนเดน อารอนสัน โดยมี โรดรีโก้ โมเรโน่ ยืนหน้าเป้า

เริ่มเกมไม่ถึงนาที "เดอะ ค็อป" เกือบได้เฮ หลัง อลีสซง เปิดยาวมาหน้าประตูยูงทอง เลียม คูเปอร์ ไม่ให้เสียงกับ เมส์ลิเย่ร์ ก่อนโขกตัดหน้าแล้วโดน ซาลาห์ แย่งไปก่อนตวัดมาหน้าประตูแต่ยังดีที่แนวรับลีดส์ตามมาโหม่งบอลออกไปทัน

ทว่า นาทีที่ 4 แฟนหงส์ต้องเงียบกันกริบหลัง "ยูงทอง" เป็นฝ่ายบุกมาขึ้นนำ 1-0 จากความผิดพลาดของ โจ โกเมซ ที่จ่ายบอลคืนหลังห่างตัว อลีสซง กลายเป็นบอลไหลมาหน้ากรอบให้ โรดรีโก้ โมเรโน่ ที่วิ่งมายิงโล่งๆ เข้าไปอย่างง่ายดาย

นาที 13 ลิเวอร์พูล เกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง โรเบิร์ตสัน ปาดมาหน้าประตู ฟีร์มีโน่ วิ่งข้ามให้ นูนเญซ เล่นชิ่งหนึ่งสองส่งคืนให้ ฟีร์มีโน่ ซัดไปติดมือ เมส์ลิเย่ร์ 

จากนั้นอีกนาทีต่อมา "หงส์แดง" มาทวงประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ บอลเริ่มจาก เทรนต์ ครอสบอลเข้ามา เมส์ลิเย่ร์ ปัดปลายมือไปถึง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตักบอลมาในกรอบ ฟาบินโญ่ พยายามขึ้นโขกแต่บอลล้นไปเข้าทาง ซาลาห์ ตั้งขายิงด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย เป็นประตูที่ 4 ในลีกซีซั่นนี้

นาที 20 ทัพยูงทองเกือบแซงนำอีกครั้งหลัง ราสมุส คริสเตนเซ่น ครอสไปหน้ากรอบให้ เบรนเดน อารอนสัน สอดมาซัดไปชนคานอย่างจัง ถัดมาไม่ถึงนาที แจ็ค แฮร์ริสัน หลุดเข้าไปซัดเสาแรกแต่ยังติดมือ อลีสซง ที่เซฟป้องกันไว้ได้

นาที 31 หงส์แดง ได้เสียวอีกครั้ง คราวนี้ เทรนต์ เปิดยาวมาให้ นูนเญซ หลุดเข้าไปก่อนดึงจังหวะบอลหนีนายด่านยูงทองได้แล้วแต่ เมส์ลิเย่ร์ ยังใช้ขาสกัดบอลออกไปหวุดหวิด

จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1

กลับมาบู๊ต่อในครึ่งหลัง นาที 58 ติอาโก้ วางบอลยาวมาให้ ซาลาห์ ลากตัดเข้ากลางก่อนกดด้วยซ้ายบอลเหินออกไปไกล

แต่ถัดมาแค่นาทีเดียว "ยูงทอง" ได้โอกาลุ้นจาก แพทริค แบมฟอร์ด กดด้วยซ้ายเน้นๆ แต่บอลยังพุ่งไปตรงตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ 

ผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมง คล็อป เปลี่ยน 2 คนรวดส่งทั้ง เคอร์ติส โจนส์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาเล่นแทน ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และฟาบินโญ่

นาที 67 ลิเวอร์พูล ทิ้งโอกาสทองขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลัง เลียม คูเปอร์ แนวรับลีดส์สกัดพลาดโดน ซาลาห์ แย่งไปได้ก่อนใจกว้างไหลให้ นูนเญซ หลุดเข้าไปซัดติดเซฟของ อิลลัน เมส์ลิเย่ร์ 

นาที 75 ซาลาห์ หนีแนวรับลีดส์ถึงสองรายหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนเลือกจะดีดไซด์ก้อยไปเสาไกลบอลเหินสูงเลยทั้ง นูนเญซ และฟีร์มีโน่ ออกไปแบบหมดลุ้น

เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยการแบ่งแต้ม แต่แล้ว นาที 89 แฟนหงส์แดงต้องช็อก หลัง แบมฟอร์ด จ่ายบอลให้ คริสเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ หลุดเข้าไปซัดผ่าน อลีสซง เสียบเสาไกลให้ ลีดส์ แซงขึ้นนำ 2-1 

ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้านแม้จะพยายามโหมบุกเพื่อทวงประตูอีกครั้งแต่ไม่สำเร็จ จบเกม ลิเวอร์พูล แพ้คาบ้านให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-2 

รายชื่้อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล (4-1-2-1-2) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (เจมส์ มิลเนอร์ น.79), โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ฟาบินโญ่ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.60) - ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (เคอร์ติส โจนส์ น.60), ดิอาโก้ อัลกันตาร่า - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ

ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : อิลลัน เมส์ลิเย่ร์ - ราสมุส คริสเตนเซ่น, โรบิน ค็อก, เลียม คูเปอร์, ปาสกาล สเตราค์ - ไทเลอร์ อดัมส์, มาร์ก โรก้า - แจ็ค แฮร์ริสัน (วิลเฟรด นอนโต้ น.72), เบรนเดน อารอนสัน, คริสเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ (ลุค อายลิ่ง น.90+1) - โรดรีโก้ โมเรโน่ (แพทริก แบมฟอร์ด น.52)

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ 








ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport