เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล!10เรื่องน่ารู้ก่อนดูเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์

เปิด 10 สถิติน่าสนใจเกม เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล ที่จะเป็น เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ครั้งสุดท้ายของ เจอร์เก้น คล็อปป์

ฌอน ไดช์ ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน เตรียมนำทัพ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล คู่ปรับร่วมเมืองที่คุมทัพมาโดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ในศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค คืนวันพุธที่ 24 เมษายนนี้ (02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)

ลิเวอร์พูล หวังเก็บชัยให้ได้เพื่อลุ้นแชมป์หลังเวลานี้มี 74 คะแนนเท่ากับจ่าฝูง อาร์เซน่อล แต่ประตูได้เสียเป็นรอง และนำ แมนฯ ซิตี้ ที่เล่นน้อยกว่า 1 นัด อยู่ 1 แต้ม ส่วน เอฟเวอร์ตัน ก็ต้องการคะแนนเพื่อหนีตกชั้นให้ได้

การเจอกันของ เอฟเวอร์ตัน และ ลิเวอร์พูล มี 10 เรื่องที่น่าสนใจดังนี้

- เกมในวันพุธนี้จะเป็น เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ครั้งที่ 244 ในทุกรายการ

- ลิเวอร์พูล มีโอกาสจะเก็บชัยนัดที่ 100 หลังการเจอกันที่ผ่านมาเป็น "หงส์แดง" ชนะ 99 เสมอ 77 และ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ชนะ 67 ครั้ง

- นี่จะเป็น เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ครั้งสุดท้ายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่พา ลิเวอร์พูล ชนะ 9 จาก 16 นัดในลีกที่เจอกัน (เสมอ 6 แพ้ 1) โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยมีกุนซือ "หงส์แดง" คนไหนที่พาทีมชนะ เอฟเวอร์ตัน ในลีกถึง 10 นัด

- คล็อปป์ มีสิทธิ์เป็นกุนซือ ลิเวอร์พูล คนที่สองที่พาทีมชนะ เอฟเวอร์ตัน ทั้งนัดแรกและนัดสุดท้ายต่อจาก เซอร์ เคนนี่ ดัลกลิช

- ลิเวอร์พูล แพ้ เอฟเวอร์ตัน แค่ครั้งเดียวจากการเจอกันในลีก 26 หนหลังสุด (ชนะ 12 เสมอ 13) รวมทั้งชนะ 4 จาก 5 เกมล่าสุด และเก็บคลีนชีตทั้ง 4 นัดหลังสุด

- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิง เอฟเวอร์ตัน ไปแล้ว 7 ประตู เป็นรองแค่ เอียน รัช (13), สตีเว่น เจอร์ราร์ด (9) และ แฮร์รี่ แชมเบอร์ส (8)

- การเจอกันใน พรีเมียร์ลีก ที่ กูดิสัน พาร์ค 12 ครั้งหลังสุด ลงเอยด้วยผลเสมอถึง 9 นัด และมี 5 เกมที่ยิงกันไม่ได้

- ลูกทีมของ คล็อปป์ เก็บชัยชนะเมื่อลงเตะในวันพุธได้ทั้ง 12 นัดหลังสุดในลีกนับตั้งแต่แพ้ ไบรท์ตัน 0-1 เมื่อเดือนก.พ. 2021

- เอฟเวอร์ตัน เอาชนะในลีกมาสองนัดติดที่เล่นใน กูดิสัน พาร์ค โดยไม่เสียประตูเลย (ชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 และชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-0)

- จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวาร เอฟเวอร์ตัน เก็บคลีนชีตใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ไปแล้ว 10 นัด เป็นรองแค่ ดาบิด ราย่า โกล อาร์เซน่อล คนเดียวเท่านั้น


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport