นูนเญซ เริ่มฉายแวว, อลีสซง มหาอุด! เจาะ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ชนะ เวสต์แฮม

ลิเวอร์พูล เดินหน้าเก็บชัยชนะ 2 แมตช์ติดต่อกัน หลังเปิดรังแอนฟิลด์ เฉือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเกมนี้ ดาร์วิน นูนเญซ สวมบทฮีโร่ซัดประตูโทนในช่วงครึ่งแรกพา "หงส์แดง" เก็บสามคะแนนสำคัญ ขณะที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังคงเป็นโกลที่ฝากผีฝากไข้ได้เสมอ ทั้งเซฟจุดโทษช่วยชีวิต และป้องกันจังหวะอันตรายทำให้ทีมรอดการเสียประตูอย่างน่าเหลือเชื่อ

1. นูนเญซ เริ่มฉายแววดาวยิง 

 เป็นอีกครั้งที่ คล็อปป์ ให้โอกาส ดาร์วิน นูนเญซ ได้ลงเล่นตัวจริง หลังช่วงที่ผ่านมานักเตะเริ่มปรับตัวเข้ากับแท็กติกของ "หงส์แดง" ได้อย่างต่อเนื่อง โดยแมตช์นี้เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในช่วงต้นเกม มีส่วนร่วมในการทำเกมรุก ขยันวิ่งไล่กดดันคู่แข่ง ที่สำคัญจังหวะการจบสกอร์แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเท้าซ้ายที่ยิ่งได้แน่นและแม่นยำ อย่างไรก็ตามหาก กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย มีความนิ่งมากกว่านี้ เจ้าตัวคงมีชื่อบนสกอร์บอร์ดมากกว่า 1 ลูกแน่นอน

2. อลีสซง ที่พึ่งยามฟอร์มไม่นิ่ง

 หนึ่งในนักเตะที่ยังรักษาฟอร์มการเล่นได้คงเส้นคงวาของ "หงส์แดง" ก็คือ อลีสซง เบ็คเกอร์ โดยช่วงที่ผ่านมานักเตะมีส่วนสำคัญในการช่วยเซฟหายนะให้ทีมหลายต่อหลายครั้ง และบางแมตช์ยังมีส่วนในการทำประตูให้ทีมด้วย สำหรับแมตช์นี้ช่วงต้นเกม "พ่อหมี" อาจมีจังหวะเหวออยู่บ้างในการเตะเปิดบอลไม่ดีถึงสองครั้ง แต่หลังจากนั้นเขาก็กลับมาแสดงผลงานสุดเหนียวหนึบ โดยเฉพาะการเซฟจุดโทษของ จาร์ร็อด โบเว่น ช่วงท้ายครึ่งแรก กับช่วงปลายครึ่งหลังที่ใช้ขาป้องกันไม่ให้ทีมโดนตีเสมอ ต้องยอมรับว่าในยามที่ ลิเวอร์พูล เล่นไม่ค่อยออก แต่ นายด่านทีมชาติบราซิล ยังคงทำผลงานได้ตามมาตรฐาน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ "หงส์แดง" ได้สามคะแนนในเกมที่แสนอึดอัดแบบนี้

3. ฟาน ไดค์ ไม่ธรรมดา

ตอนนี้ร่างทองของ ฟาน ไดค์ กลับมาแล้วหลังในช่วงต้นฤดูกาลนี้นักเตะฟอร์มออกทะเลไปหลายเกมจนส่งผลกระทบกับเกมรับของทีม แต่ในแมตช์พบ เวสต์แฮม ต้องยอมรับว่า ดาวเตะชาวดัตช์ มีส่วนสำคัญพอๆ กับ อลีสซง ในการช่วยให้ทีมเคลียร์จังหวะอันตราย ไม่ว่าจะเป็นลูกบนพื้่น และลูกโด่ง บอกเลยว่า ฟาน ไดค์ เก็บกินเรียบ แต่ที่กลายเป็นประเด็นทำให้คอลูกหนังวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากก็คือจังหวะที่ ดาวเตะเลือดดัตช์ ใช้เท้าขุดดินให้เป็นหลุมที่จุดโทษ ก่อนที่ โบเว่น จะยิงไปติดเซฟของ อลีสซง จริงๆ แล้วถ้ามองกันตามเนื้อผ้าต้องยกเครดิตให้กับ โกลบราซิเลียน แต่ถ้ามองในแบบอคติอาจเป็นไปได้ที่การเล่นแท็กติกของ ฟาน ไดค์ มีผลต่อการยิงของแข้งเลือดผู้ดีเช่นกัน

4. ตัวสำรองทำผลงานน่าผิดหวัง

ในช่วง 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล ครองเกมได้เหนือกว่าผู้มาเยือนแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และมีการสร้างจังหวะยิงประตูได้หลายต่อหลายครั้งแต่ทำได้เพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น ขณะที่ครึ่งหลังเจ้าบ้านอาจจะฟอร์มดร็อปลงไปบ้าง แต่ก็ยังสามารถคุมสถานการณ์ได้ แต่หลังจากที่ คล็อปป์ ปรับแท็กติกด้วยการถอด นูนเญซ, ติอาโก้ อัลกันทาร่า และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ โดยส่ง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, เคอร์ติส โจนส์ และ ฟาบินโญ่ ลงมาแทน กลายเป็นว่าเกมของทีมร่วงกราวรูดและตกเป็นรอง เวสต์แฮม อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทั้งสามคนแทบไม่มีส่วนอะไรกับเกมเลย งานนี้ คล็อปป์ มีโจทย์ให้ต้องขบคิดเกี่ยวกับกำลังสำรองของทีม เพราะถ้าหาทางแก้จุดนี้ไม่ได้ จะส่งผลกับทีมในระยะยาวแน่นอน

5. ขวัญกำลังใจเริ่มกลับมา

ใครที่เป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล คงรู้สึกช็อกอย่างมากกับผลงานของทีมรักในช่วงต้นฤดูกาล เพราะพวกเขาฟอร์มหลุดอย่างน่าใจหาย จนทำให้อันดับร่วงไปอยู่ครึ่งล่างของตารางลีก แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มตั้งสติกลับมาได้ผลงานก็กระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการคว่ำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ตอนนี้ขวัญกำลังใจของทีมพุ่งขึ้นปรี๊ด ยิ่งมาเก็บสามแต้มในแมตช์พบ เวสต์แฮม ยิ่งทำให้ "หงส์แดง" เริ่มสยายปีกมากยิ่งขึ้น ด้วยโปรแกรมที่ต้องบอกว่าเอื้อต่อทีมเพราะเกมต่อไปเยือน ฟอเรสต์ ซึ่งอยู่ในโซนตกชั้น ต้องบอกว่าเป็นโอกาสที่พวกเขาจะเดินหน้าโกยแต้มต่อไป กระนั้นทีมที่กำลังหนีตายก็ไม่ใช่ว่าจะเคี้ยวได้ง่ายๆ แต่หาก คล็อปป์ แอนด์ โค. รักษามาตรฐานการเล่นและความมั่นใจแบบนี้ เชื่อว่าสาวก "เดอะ ค็อป" คงจะได้ยิ้มแก้มปริอีกในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport